นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 28 เม.ย. 2024 6:44 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 08 ม.ค. 2012 8:48 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4542
(ว่าด้วยความจนทางโลกกับทางธรรม)

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเป็นคนจน เป็นทุกข์

ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก, ภิกษุทั้งหลาย กราบทูลว่าอย่างนั้น พระเจ้าข้า.

พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนจนเข็ญใจยากไร้ ย่อมกู้ยืม แม้การกู้ยืม ก็เป็นทุกข์ของ

บุคคลผู้บริโภคกามในโลก.

ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.

พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนจนเข็ญใจยากไร้ กู้ยืมแล้วย่อมรับใช้ดอกเบี้ย แม้การรับ

ใช้ดอกเบี้ย ก็เป็นทุกข์ของผู้บริโภคกามในโลก.

ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.

พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนจนเข็ญใจยากไร้ รับใช้ดอกเบี้ยแล้ว ไม่ใช้ดอกเบี้ยตาม

กำหนดเวลา เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อมทวงเขา แม้การทวง ก็เป็นทุกข์ของบุคลผู้บริโภคกาม

ในโลก.

ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.

พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนจนเข็ญใจยากไร้ ถูกเจ้าหนี้ทวงไม่ให้เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อม

ติดตามเขา แม้การติดตาม ก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก.

ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.

พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนจนเข็ญใจยากไร้ ถูกเจ้าหนี้ติดตามทัน ไม่ให้ทรัพย์

เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อมจองจำเขา แม้การจองจำก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก.

ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.

พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้ความเป็นคนจนก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก

แม้การกู้ยืมก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การรับใช้ดอกเบี้ย ก็เป็นทุกข์

ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การทวง ก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก

แม้การติดตาม ก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การจองจำก็เป็นทุกข์ของ

บุคคลผู้บริโภคกามในโลกด้วยประการฉะนี้.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนไม่มีศรัทธาในกุศลธรรม ไม่มีหิริในกุศลธรรม ไม่มี

โอตตัปปะในกุศลธรรม ไม่มีวิริยะในกุศลธรรม ไม่มีปัญญาในกุศลธรรม บุคคลนี้เรียกว่า

เป็นคนเข็ญใจยากไร้ในวินัยของพระอริยเจ้า ฉันนั้นเหมือนกัน, ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

คนจนเข็ญใจยากไร้นั้นแล เมื่อไม่มีศรัทธาในกุศลธรรม ไม่มีหิริในกุศลธรรม ไม่มี

โอตตัปปะในกุศลธรรม ไม่มีวิริยะในกุศลธรรม ไม่มีปัญญาในกุศลธรรม ย่อมประพฤติ

ทุจริตด้วยกาย วาจา ใจ เรากล่าวการประพฤติทุจริตของเขาว่า เป็นการกู้ยืม, เขาย่อม

ตั้งความปรารถนาลามก เพราะเหตุแห่งการปกปิดกายทุจริตนั้น ย่อมปรารถนาว่า ชน

เหล่าอื่นอย่ารู้จักเรา ย่อมดำริ ย่อมกล่าววาจา ย่อมพยาบาทด้วยกาย ว่าชนเหล่าอื่นอย่า

รู้จักเรา เขาย่อมตั้งความปรารถนาลามก เพราะเหตุแห่งการปกปิดวจีทุจริตนั้น ฯลฯ เขา

ย่อมตั้งความปรารถนาลามก เพราะเหตุแห่งการ ปกปิดมโนทุจริตนั้น ย่อมปรารถนาว่า

ชนเหล่าอื่นอย่ารู้จักเรา ... ย่อมพยายามด้วยกายว่า ชนเหล่าอื่นอย่ารู้จักเรา เรากล่าว

เหตุแห่งการปกปิดทุจริต ของเขานั้นว่า เป็นการรับใช้ดอกเบี้ย, เพื่อนพรหมจรรย์ผู้มีศีล

เป็นที่รักได้กล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า ก็ท่านผู้มีอายุรูปนี้ เป็นผู้กระทำอย่างนี้ เป็นผู้ประพฤติ

อย่างนี้ เรากล่าวการถูกว่ากล่าวของเขาว่า เป็นการทวงดอกเบี้ย อกุศลวิตกที่เป็นบาป

ประกอบด้วยความเดือดร้อน ย่อมครอบงำเขา ผู้อยู่ป่า ผู้อยู่โคนไม้ หรือผู้อยู่ในเรือนว่าง

เรากล่าวการถูกอกุศลวิตกครอบงำนี้ ของเขาว่า เจ้าหนี้ติดตามเขา, คนจนเข็ญใจ

ยากไร้นั้นแล ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจเมื่อตายไปแล้ว ย่อมถูกจองจำ ใน

เรือนจำ คือ นรก หรือในเรือนจำ คือกำเนิดดิรัจฉาน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่

พิจารณาเห็นเรือนจำอื่นเพียงแห่งเดียว ซึ่งร้ายกาจ เป็นทุกข์ กระทำอันตรายแก่

การบรรลุนิพพานซึ่งเป็นธรรมเกษมจากโยคะ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้ อย่างนี้ เหมือน

เรือนจำ คือนรก หรือเรือนจำ คือ กำเนิดดิรัจฉานเลย.

พระคาถา

ความเป็นคนจน และการกู้ยืม

เรียกว่าเป็นทุกข์ในโลก คนจนกู้ยืมเลี้ยง

ชีวิตย่อมเดือดร้อน เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อม

ติดตามเขา เพราะไม่ใช่หนี้นั้น เขาย่อม

เข้าถึงแม้การจองจำ ก็การจองจำนั้น เป็น

ทุกข์ ของชนทั้งหลายผู้บริโภคกาม

ในวินัยของพระอริยเจ้า ผู้ใดไม่มีศรัทธา

ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ พอกพูนบาปกรรม

กระทำกายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริต

ย่อมปรารถนา ย่อมดำริว่า คนเหล่าอื่น

อย่ารู้จักเรา พอกพูนบาปกรรมในที่นั้น ๆ

อยู่ บ่อย ๆ ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ

เราตถาคตย่อมกล่าวว่า เป็นทุกข์เหมือน

อย่างนั้น เขาผู้บาปกรรม มีปัญญาทราม

ทราบความชั่วของตนอยู่ เป็นคนจน มี

หนี้สิน เลี้ยงชีวิตอยู่ย่อมเดือดร้อน ลำดับ

นั้น ความดำริที่มีในใจ เป็นทุกข์เกิดขึ้น

เพราะความเดือนร้อนของเขา ย่อมติดตาม

เขาที่บ้าน หรือที่ป่า เขาผู้มีบาปกรรม

มีปัญญาทราม ทราบความชั่วของตนอยู่

ย่อมเข้าถึงกำเนิดดิรัจฉานบางอย่าง หรือ

ถูกจองจำในนรก ก็การจองจำนั้นเป็นทุกข์

ที่นักปราชญ์หลุดพ้นไปได้.

บุคคลผู้ยังใจให้เลื่อมใส ให้ทานด้วย

โภคทรัพย์ทั้งหลายที่ได้มาโดยชอบธรรม

ย่อมเป็นผู้ยึดถือชัยชนะไว้ได้ในโลกทั้งสอง

ของผู้มีศรัทธาอยู่ครองเรือน คือ เพื่อประ

โยชน์เกื้อกูลในปัจจุบัน และเพื่อความสุข

ในสัมปรายภพ การบริจาคของคฤหัสถ์ดัง

กล่าวมานั้นย่อมเจริญบุญ ผู้ใดมีศรัทธา

ตั้งมั่น มีใจประกอบด้วยหิริ มีโอตตัปปะ

มีปัญญาและสำรวมในศีล ในวินัยของพระ

อริยเจ้าผู้นั้น แลเราเรียกว่ามีชีวิตเป็นสุข

ในวินัยของพระอริยเจ้า ฉันนั้นเหมือนกัน

เขาได้ความสุขที่ไม่มีอามิส ยังอุเบกขา

(ในจตุตถฌาน) ให้ดำรงมั่น ละนิวรณ์ ๕

ประการ เป็นผู้ปรารภความเพียรเป็นนิตย์

บรรลุฌานทั้งหลาย มีเอกัคคตาจิตปรากฏ

มีปัญญารักษาตัว มีสติ จิตของเขาย่อม

หลุดพ้นโดยชอบ เพราะทราบเหตุใน

นิพพานเป็นที่สิ้นสังโยชน์ทั้งปวง ตาม

ความเป็นจริง เพราะไม่ถือมั่นโดยประการ

ทั้งปวง หากว่าเขาผู้มีจิตหลุดพ้นโดยชอบ

คงที่อยู่ในนิพพาน เป็นที่สิ้นไปแห่งกิเลส

เป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ ย่อมมี

ญาณหยั่งรู้ว่า ความหลุดพ้นของเรา ไม่

กำเริบไซร้ ญาณนั้นแลเป็นญาณชั้นเยี่ยม

ญาณนั้น เป็นสุขไม่มีสุขอื่นยิ่งกว่า ญาณ

นั้นไม่มีโศก หมดมัวหมองเป็นญาณเกษม

สูงสุดกว่าความไม่มีหนี้.



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO