นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 10 พ.ค. 2024 5:40 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 19 พ.ย. 2011 5:56 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4553
๑. บุคคล ไม่ควรสมาคม ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้

เป็นไฉน ?

บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้เสื่อมจากศีล จากสมาธิ จากปัญญา

บุคคลเห็นปานนี้ไม่ควรสมาคม ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้ ควรเว้นจากความ

เอ็นดู เว้นจากความอนุเคราะห์

๒. บุคคล ควรสมาคม ควรคบ ควรเข้าใกล้ เป็น

ไฉน ?

บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้เสมอกันด้วยศีล ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา

บุคคล เห็นปานนี้ ควรสมาคม ควรคบ ควรเข้าใกล้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร ?

เพราะว่า ศีลกถาแห่งสัตบุรุษทั้งหลาย ผู้ถึงความเป็นผู้เสมอกันด้วยศีล จักมี

แก่เราทั้งหลาย ทั้งกถานั้น จักเป็นความผาสุกแก่เราทั้งหลาย (คือจักไม่เดือด

ร้อน) สมาธิกถาแห่งสัตบุรุษทั้งหลายผู้ถึงความเป็นผู้เสมอกันด้วยสมาธิ จักมี

แก่เราทั้งหลาย ทั้งกถานั้นจักเป็นความผาสุกแก่เราทั้งหลาย และกถานั้นจัก

เป็นไปแก่เราทั้งหลาย (คือจักไม่เดือดร้อน) ปัญญากถาของสัตบุรุษทั้งหลาย

ผู้ถึงความเป็นผู้เสมอกันด้วยปัญญา จักมีแก่เราทั้งหลาย ทั้งกถานั้นจักเป็น

ความผาสุกแก่เราทั้งหลาย และกถานั้นจักเป็นไปแก่เราทั้งหลาย (คือจักไม่

เดือดร้อน) เพราะฉะนั้นบุคคลเห็นปานนี้ ควรสมาคม ควรคบ ควรเข้าใกล้.

๓. บุคคล ที่ควรสักการะ เคารพ สมาคม คบหา

เข้าใกล้ เป็นไฉน ?

บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ยิ่งด้วยศีล สมาธิ ปัญญา บุคคลเห็น

ปานนี้ควรสักการะ เคารพ สมาคม คบหา เข้าใกล้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร ?

เพราะว่าเราจักได้บำเพ็ญศีลขันธ์ที่ยังไม่บริบูรณ์ให้บริบูรณ์ หรือเรา

จักได้ถือเอาตามซึ่งศีลขันธ์ที่บริบูรณ์ด้วยปัญญาในที่นั้น ๆ เราจักได้บำเพ็ญ

สมาธิขันธ์ที่ยังไม่บริบูรณ์ให้บริบูรณ์ หรือเราจักได้ถือเอาตามซึ่งสมาธิขันธ์ที่

บริบูรณ์ด้วยปัญญาในที่นั้น ๆ เราจักบำเพ็ญปัญญาขันธ์ที่ยังไม่บริบูรณ์ให้บริ-

บูรณ์ด้วยปัญญาในที่นั้น ๆ เพราะฉะนั้นบุคคลเห็นปานนี้ ควรสักการะ เคารพ

สมาคม คบหา เข้าใกล้.

อรรถกถาบุคคลผู้ไม่ควรซ่องเสพเป็นต้น

บทว่า "น เสวิตพฺโพ" ได้แก่ ผู้อันใคร ๆ ไม่ควรเข้าไปหา.

บทว่า "น ภชิตพฺโพ" ได้แก่ ผู้อันใคร ๆ ไม่พึงติดต่อ.

บทว่า "น ปยิรุปาสิตพฺโพ" ได้แก่ ผู้อันใคร ๆ ไม่ควรเข้าไป

นั่งใกล้บ่อย ๆ ด้วยสามารถเข้าไปนั่งในสำนัก. บัณฑิตพึงทราบความเป็นคน

เลวด้วยการถือเอาการเปรียบเทียบในคำเป็นต้นว่า "หีโน โหติ สีเลน".

ก็บุคคลใดรักษาศีล ๕ เขาผู้นั้นอันบุคคลผู้รักษาศีล ๑๐ ไม่พึงเสพ ส่วนบุคคล

ใดรักษาศีล ๑๐ เขาผู้นั้นอันบุคคลผู้รักษาจตุปาริสุทธิศีลไม่พึงเสพ.

ข้อว่า "อญฺญตฺร อนุทยา อญฺญตฺร อนุกมฺปา" ความว่า เว้นจาก

ความเอ็นดูและความอนุเคราะห์ อธิบายว่า ก็บุคคลผู้เห็นปานนี้ อันใคร ๆ

ไม่ควรช่องเสพเพื่อประโยชน์ของตนเอง แต่ว่าการเข้าไปหาเขาด้วยสามารถ

แห่งความเอ็นดูและความอนุเคราะห์ก็สมควร.

ข้อว่า "สทิโส โหติ" ได้แก่ เป็นผู้เสมอกัน.

ข้อว่า "สีลสามญฺญคตานํ สตํ" ความว่า สัตบุรุษทั้งหลายถึง

ความเป็นผู้เสมอกันด้วยศีล.

ข้อว่า "สีลกถา จ โน ภวิสฺสติ" ความว่า ถ้อยคำที่ปรารภศีลนั้น

จักมีแก่พวกเราผู้มีศีลเสมอกันอย่างนี้.

ข้อว่า "สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสติ" ความว่า ก็ศีลกถานั้น (การพูด

ถึงศีล) จักเป็นการอยู่ผาสุก จักเป็นการอยู่อย่างสบายแก่พวกเรา.

ข้อว่า "สา จ โน ปวตฺตินี ภวิสฺสติ" ความว่า ถ้อยคำ ของ

พวกเราผู้กล่าวอยู่จักเป็นไปแม้ตลอดวันตลอดคืนก็จะไม่ทำให้สะเทือนใจ จริง

อยู่เมื่อบุคคลทั้งสองมีศีลเสมอกัน เมื่อคนหนึ่งกล่าวพรรณนาถึงศีล อีกคน

หนึ่งย่อมยินดี เพราะเหตุนั้นถ้อยคำของเขาเหล่านั้นย่อมจะมีความผาสุกและ

เป็นไปตลอด ไม่ขัดกัน. ก็เมื่อมีผู้ทุศีลอยู่ ถ้อยคำที่กล่าวพูดถึงศีลกับบุคคลผู้

ทุศีล ย่อมเป็นถ้อยคำที่กล่าวยาก เพราะฉะนั้นศีลกถาก็ย่อมมีไม่ได้ ความ

ผาสุกก็มีไม่ได้ ความเป็นไปไม่ได้ตลอด. แม้ถ้อยคำที่กล่าวถึงสมาธิและปัญญา

ก็มีนัยนี้เหมือนกัน. ก็ภิกษุ ๒ รูป ผู้ได้สมาธิย่อมกล่าวพรรณนาคุณของสมาธิ

ผู้มีปัญญาก็ย่อมกล่าวพรรณนาคุณแห่งปัญญา เขาทั้งสองเหล่านั้นย่อมไม่รู้สึก

ถึงการก้าวล่วงตลอดราตรีหรือตลอดวัน.

ข้อว่า "สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา" ได้แก่ กระทำสักการะ หรือทำ

ความเคารพ.

สองบทว่า "อธิโก โหติ" ได้แก่ เป็นผู้ยิ่ง.

บทว่า "สีลกฺขนฺธํ" ได้แก่ กองแห่งศีล.

บทว่า "ปริปูเรสฺสามิ" ความว่า เราอาศัยบุคคลผู้มีศีลอันยิ่งนั้น

แล้วจักกระทำศีลขันธ์ที่ยังไม่บริบูรณ์ให้บริบูรณ์ .

ในคำว่า "ตตฺถ ตตฺถ ปญฺญาย อนุคฺคเหสฺสามิ" นี้ พึงทราบ

เนื้อความว่า บุคคลเว้นธรรมอันไม่เป็นอุปการะ อันไม่เป็นสัปปายะแก่ศีลแล้ว

จึงเสพธรรมอันมีอุปการะอันมีสัปปายะแก่ศีล ชื่อว่า ย่อมถือเอาศีลขันธ์ในที่นี้

ด้วยปัญญา. แม้ในสมาธิขันธ์และปัญญาขันธ์ทั้งหลาย ก็นัยนี้เหมือนกัน.

๑. บุคคลที่ควรรังเกียจ ไม่ควรสมาคม ไม่ควรคบ

ไม่ควรเข้าใกล้ เป็นไฉน ?

บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก ผู้ประกอบด้วย

กายกรรมเป็นต้น อันไม่สะอาด และมีสมาจารอันผู้อื่นหรือตนพึงระลึกได้ด้วย

ความระแวง ผู้มีการงานอันปกปิด ผู้มีใช่สมณะแต่ปฏิญาณว่าตนเป็นสมณะ

มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์แต่ปฏิญาณว่าคนประพฤติพรหมจรรย์ ผู้เน่าใน ผู้

อันราคะชุ่มแล้ว ผู้รุงรัง บุคคลเห็นปานนี้ ควรรังเกียจ ไม่ควรสมาคม ไม่

ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะว่า ถึงแม้บุคคลผู้คบ

จะไม่เอาอย่างบุคคลนี้ แต่กิตติศัพท์อันลามก ก็ย่อมฟุ้งขจรไปสู่บุคคลผู้คบ

นั้นว่า บุรุษบุคคล ผู้มีมิตรชั่ว มีสหายชั่ว คบคนชั่ว ดังนี้ งูที่เปื้อน.

คูถแม้จะไม่กัดคนก็จริง ถึงอย่างนั้น ย่อมเปื้อนบุคคลผู้นั้น ชื่อแม้ฉันใด ถึง

บุคคลผู้คบนั้นจะไม่เอาอย่างบุคคลเช่นนี้ก็จริง ถึงอย่างนั้น กิตติศัพท์อันลามก

ย่อมฟุ้งไปแก่บุคคลนั้นว่า บุรุษบุคคล ผู้มีมิตรชั่ว มีสหายชั่ว คบคนชั่ว

ดังนี้ เพราะฉะนั้น บุคคลเห็นปานนี้จึงควรรังเกียจ ไม่ควรสมาคม ไม่ควร

คบ ไม่ควรเข้าใกล้.

๒. บุคคล ที่ควรเฉย ๆ เสีย ไม่ควรสมาคม ไม่ควร

คบ ไม่ควรเข้าใกล้ เป็นไฉน ?

บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มักโกรธ มากด้วยความคับแค้น ถูก

เขาว่าเพียงเล็กน้อย ก็ย่อมข้อง ย่อมกำเริบ ย่อมแสดงอาการผิดปกติ ย่อม

กระด้าง ย่อมแสดงความโกรธ ความคิดประทุษร้ายและอาการไม่ชอบใจ ให้

ปรากฏเหมือนแผลเรื้อรัง ถูกไม้หรือกระเบื้องกระทบ ย่อมมีน้ำเลือดน้ำหนอง

ไหลออกมากมาย ชื่อแม้ฉันใด บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มักโกรธ มากไป

ด้วยความคับแค้น ถูกเขาว่า แม้เพียงเล็กน้อยก็ย่อมข้อง ย่อมกำเริบ ย่อม

แสดงอาการผิดปกติ ย่อมกระด้าง ย่อมแสดงความโกรธ ความคิดประทุษ-

ร้ายและอาการไม่ชอบใจให้ปรากฏ ก็ฉันนั้น ใบมะพลับแห้งถูกไม้หรือกระ-

เบื้องกระทบแล้ว ย่อมมีเสียงดังจิจิฏะ จิฏะจิฏะเกินประมาณ ชื่อแม้ฉันใด

บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มักโกรธ มากไปด้วยความคับแค้น ถูกเขาว่า

แม้เพียงเล็กน้อย ย่อมข้อง ย่อมกำเริบ ย่อมแสดงอาการผิดปกติ ย่อมกระด้าง

ย่อมแสดงความโกรธความคิดประทุษร้ายและอาการไม่ชอบใจให้ปรากฏ ก็ฉัน

นั้น หลุมคูถ ถูกไม้หรือกระเบื้องกระทบ ย่อมมีกลิ่นเหม็นเกินประมาณ ชื่อ

แม้ฉันใด บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ควรโกรธ มากไปด้วยความคับแค้น

ถูกเขาว่าแม้เพียงเล็กน้อย ก็ย่อมข้อง ย่อมกำเริบ ย่อมแสดงอาการผิดปกติ

ย่อมกระด้าง ย่อมแสดงความโกรธความคิดประทุษร้ายและอาการไม่ชอบใจให้

ปรากฏ ก็ฉันนั้น บุคคลเห็นปานนี้ ควรวางเฉยเสีย ไม่ควรสมาคม ไม่ควร

คบ ไม่ควรเข้าใกล้ ข้อนั้น เพราะเหตุไร ? เพราะว่า เขาจะพึงด่าเราบ้าง

พึงว่าเราบ้าง พึงกระทำความฉิบหายแก่เราบ้าง เพราะฉะนั้นบุคคลเห็นปานนี้

จึงควรไม่วางเฉยเสีย ไม่ควรสมาคม ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้

๓. บุคคล ที่ควรสมาคม ควรคบ ควรเข้าใกล้ เป็น

ไฉน ?

บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีศีล มีธรรมอันงาม บุคคลเห็นปานนี้

ควรสมาคม ควรคบ ควรเข้าใกล้ ข้อนั้น เพราะเหตุไร ? เพราะว่า ถึง

แม้ว่าบุคคลผู้คบไม่เอาอย่างบุคคลเห็นปานนี้ แต่กิตติศัพท์อันงามก็ย่อมฟุ้งขจร

ไปสู่บุคคลผู้คบนั้นว่า บุรุษบุคคล มีมิตรดี มีสหายดี คบคนดี ดังนี้ เพราะฉะนั้น

บุคคลเห็นปานนี้ ควรสมาคม ควรคบ ควรเข้าใกล้.




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ



ขอเชิญร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ วัดศรีอภัยวัน(วัดหลวงปู่ท่อน)


ทางวัดหนองเต่าคำโดยหลวงพ่อเจ้าอาวาส
พระอธิการธีรพงษ์ ธีรวํโส เจ้าอาวาสวัดหนองเต่าคำ
ท่านได้เปิดบัญชีขึ้นมาใหม่ ซึ้งเป็นบัญชีวัดโดยตรง เพื่อให้ญาติโยมชาวพุทธ
ทั้งหลายได้มีโอกาสร่วมบุญต่างๆกับทางวัด จึงขอเเจ้งใหม่ทราบว่า บัญชีที่รับบริจาคมีเพียงบัญชีวัดบัญชีเดียวเท่านั้น
ชื่อบัญชีวัดหนองเต่าคำ
ธนาคารกรุงไทย สาขาสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
เลขที่บัญชี 524-0-239-82
บัญชีออมทรัพย์(บูรณะศาสนสถานของวัด)
โทร ๐๘๒-๑๙๕-๙๑๙๙



เชิญร่วมสร้างบันได ณ สำนักสงฆ์ปรียานันท์ธรรมสถาน
0892269564



บริจาคสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และอัฐิหลวงตามหาบัว
ณ วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จ.นครราชสีมา ช่ือบัญชี พระโสภา สมโณ ธ.กสิกรไทย สาขาวังน้ำเขียว ออมทรัพย์ เลขท่ี 4452157581



เชิญร่วมบุญสร้าง "พระเจดีย์อนุสรณ์สถาน ธัมมาภิรตเจดีย์" วัดป่าถ้ำหีบ จ.อุดรธานี
ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบุญได้โดยการโอนเงินเข้าบัญชี
ธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านผือ บัญชีออมทรัพย์
ชื่อบัญชี : เจดีย์อนุสรณ์สถาน ธัมมาภิรตเจดีย์
เลขที่บัญชี : 431-0-25241-9


เชิญร่วมเททองหล่อพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ ณ วัดนาคกลางวรวิหาร
ประกอบพิธีเททอง ๒ วาระ ดังนี้
๑.ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันจันทร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔
จำนวน ๑๙ พระองค์
๒.ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ วันเสาร์ที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
(หลังจากพิธีเจริญพระพุทธมนต์ข้ามปี) จำนวน ๙ พระองค์
024650950


ประชาสัมพันธ์ร่วมกันทำบุญสร้างศาลาปฎิบัติธรรม ณ วัดบึง ปราจีนบุรีครับ
พระอธิการธงไชย (อนาลโย) เจ้าอาวาสวัดบึง 037405233 / 0847113090



บุญด่วนจี๋ สร้างบล๊อคหลวงพ่อองค์ปฐม หล่อขนาด 4 ศอก
สำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ จ.กาญจนบุรี
ได้สร้างแม่พิมพ์ไฟเบอร์กลาส ที่จะหล่อหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม
เนื้อปูน
หน้าตักขนาด 4 ศอก


ขอเชิญฟังเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดกและร่วมเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ ฯ
ติดต่อเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์
โทร.๐ ๒๔๑๒ ๐๕๒๓



แจกรถวีลแชร์และรถสามล้อโยกมีเพียงพอสำหรับทุกท่าน
สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย (สพท.) ร่วมกับสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหว (ส.พ.ค.)
ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นเพียงส่งเอกสาร

1. สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
2. สำเนาบัตรประชาชน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
3. สำเนาสมุดประจำตัวคนพิการ พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
4. รูปถ่ายเต็มตัวเห็นสภาพความพิการชัดเจน 1 รูป
5. ให้ระบุที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อมเบอร์โทรศัพท์ (ถ้ามี)

มาที่

สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย 73/7-8 ซอยติวานนท์ 8 ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 โทรศัพท์ 02-9510445, 02-5843993, 02-9510447 โทรสาร 02-9510567



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดตาลชุม ต.ตาลชุม อ.เวียงสา จ.น่าน 10 ธ.ค.54
089-9637303


บุญสูงๆ!!!ร่วมติดเม็ดพระศก(เม็ดละ1บาท)องค์ปฐม108องค์ถวายเป็นพระราชกุศลวันพ่อแห่งชาติ
โทร 080-167-5445


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO