นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 10 พ.ค. 2024 4:09 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 12 ก.ย. 2011 5:08 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4554
เมื่อบุคคลให้ทาน กระทำการบูชาด้วยของหอมเป็นต้น แล้วให้ส่วนบุญว่า ขอส่วน

บุญ จงมีแก่บุคคลชื่อโน้น หรือว่า ขอส่วนบุญจงมีแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ดังนี้

พึงทราบว่า เป็นบุญกิริยาวัตถุอันเกิดแต่การให้ส่วนบุญ.

การอุทิศกุศล เป็นการกระทำกุศลอีกประการหนึ่ง ซึ่งเมื่อได้กระทำกุศลไป

แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน การรักษาศีล หรือแม้กระทั่งเมื่อได้ฟังพระธรรมแล้ว ก็มี

กุศลจิตที่จะอุทิศเพื่อประโยชน์แก่การอนุโมทนาของผู้อื่น เวลาที่เราทำกุศลแล้ว

อุทิศส่วนกุศลให้คนอื่น นั้น ไม่ใช่เป็นการที่บุคคลอื่นรับเอากุศลของเราไป ไม่ใช่เป็น

แบบในลักษณะของการส่งพัสดุไปรษณีย์ แต่เป็นในลักษณะที่เมื่อผู้อื่นรู้และเกิดกุศล

จิตอนุโมทนา ซึ่งเป็นกุศลของบุคคลนั้นเอง จิตที่เกิดขึ้น ชื่นชมยินดีในกุศลที่ผู้อื่น

ได้กระทำนั้น เป็นกุศลจิต จึงไม่ใช่เรื่องที่จะไปกังวลหรือไปคิดว่าเขาจะได้รับหรือ

ไม่ได้รับ สำคัญอยู่ที่ เขาอนุโมทนาหรือไม่อนุโมทนา เท่านั้น ถ้าเขาไม่อนุโมทนา

ก็เป็นเรื่องของเขา คือ ไม่เกิดกุศล แต่ถ้าเป็นปัจจัยให้กุศลจิตของเขาเกิดอนุโมทนา

เมื่อใด เมื่อนั้นก็เป็นกุศลของเขา

อนึ่ง พึงทราบสัจจะเหล่านี้ทั้งหมดโดยปรมัตถ์ว่า สูญ เพราะ ไม่มีผู้เสวย

ไม่มีผู้ทำ ไม่มีผู้ดับ และไม่มีผู้ไป. ด้วยเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า

ทุกฺขเมว หิ น โกจิ ทุกฺขิโต

การโก น กิริยาว วิชฺชติ,

อตฺถิ นิพพุติ น นิพพุโต ปุมา

มคฺคมตฺถิ คมโก น วิชฺชติ.

ความจริงทุกข์เท่านั้นมีอยู่ แต่ไม่มีใครๆถึงทุกข์

กิริยาคือการทำมีอยู่ แต่ผู้ทำไม่มี,

ความดับมีอยู่ แต่คนดับ ไม่มี

ทางมีอยู่ แต่ผู้เดินไม่มี.
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 457

………………………….

[๗๔๑] ดูก่อนภารทวาชะ อนึ่ง อุปมา ๓ ข้ออันน่าอัศจรรย์ ไม่

เคยฟังมาในกาลก่อน มาปรากฏก็เราอุปมาข้อที่ ๑ ภารทวาชะ

เปรียบเหมือน ไม้สด ซุ่มด้วยยาง ทั้งแช่อยู่ในน้ำ ถ้าบุรุษพึงมาด้วยหวังว่า

จักเอาไม้นั้น มาสีให้เกิดไฟ จักทำไฟให้ปรากฏ ดังนี้ ดูก่อนภารทวาชะ

ท่านจะเข้าใจความข้อนั้นเป็นไฉนบุรุษนั้น

เอาไม้สด ชุ่มด้วยยาง ทั้งแช่อยู่ในน้ำ มาสีไฟ จะพึงให้ไฟเกิด

พึงทำไฟให้ปรากฏได้บ้างหรือหนอ.

สคารวมาณพกราบทูลว่า ข้อนี้หามิได้ ท่านพระโคดม

ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะไม้นั้นยังสดชุ่มด้วยยาง ทั้งแช่อยู่ในน้ำ

คบุรุษนั้นพึงมีส่วนแห่งวามเหน็ดเหนื่อยลำบากเปล่าเท่านั้น.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ภารทวาชะ ฉันนั้นเหมือนกันแล

สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง

มีกายยังไม่หลีกออกจากกาม

ยังมีความพอใจในกาม

ความเสน่หาในกาม

ความหมกมุ่นในกาม

ความระหายในกาม

ความเร่าร้อนเพราะกาม

อันคนยังละไม่ได้ด้วยดี ให้สงบระงับไม่ได้ด้วยดีในภายใน

ท่านสมณพราหมณ์เหล่านั้น ถ้าหากจะเสวยทุกขเวทนาอันกล้าเผ็ดร้อนเกิด

เพราะความเพียรก็ดี หากจะไม่ได้เสวยก็ดี ก็ไม่ควรเพื่อจะรู้ เพื่อจะเห็นซึ่ง

ปัญญาเครื่องตรัสรู้อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า ดูก่อนภารทวาชะ อุปมาข้อที่ ๑

นี้แลน่าอัศจรรย์ ไม่เคยได้ฟังมาในกาลก่อน มาปรากฏกะเรา.

[๗๔๒] ดูก่อนภารทวาชะ อุปมาข้อที่ ๒ อีกข้อหนึ่งน่าอัศจรรย์ ไม่

เคยได้ฟังมาในกาลก่อน มาปรากฏกะเรา

เปรียบเหมือนไม้สด ชุ่มด้วยยางตั้งอยู่บนบก ไกลน้ำ

ถ้าบุรุษพึงมาด้วยหวังว่า จักเอาไม้นั้นมาสีให้เกิดไฟ

จักทำไฟให้ปรากฏ ดูก่อนภารทวาชะ. ท่านจะเข้าใจควานข้อนั้นเป็นไฉน

บุรุษนั้นเอาไม้สด ชุ่มด้วยยาง ตั้งอยู่บนบก ไกลน้ำ มาสีไฟ จะพึงให้ไฟ

เกิด พึงทำไฟให้ปรากฏได้บ้างหรือหนอ.

สคารวมาณพกราบทูลว่า ข้อนี้หามิได้ ท่านพระโคดม

ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะไม้นั้นยังสดชุ่มด้วยยาง ถึงแม้จะตั้งอยู่บนบกไกลน้ำ

บุรุษนั้นก็จะพึงมีส่วนแห่งความเหน็ดเหนื่อยลำบากเปล่าเท่านั้น.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภารทวาชะ ฉันนั้นเหมือนกันแล

สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง

แม้มีกายหลีกออกจากกามแล้ว

แต่ยังมีความพอใจในกาม

ความเสน่หาในกาม

ความหมกมุ่นในกาม

ความระหายในกาม

ความเร่าร้อนเพราะกาม

อันตนยังละไม่ได้ด้วยดี ยังให้สงบระงับด้วยดีไม่ได้ในภายใน

ท่านสมณพราหมณ์เหล่านั้น ถึงแม้จะได้เสวยทุกขเวทนนาอันกล้า

เผ็ดร้อนที่เกิดเพราะความเพียรก็ดี จะไม่ได้เสวยก็ดี ก็ยังไม่ควรเพื่อจะรู้

เพื่อจะเห็นซึ่งปัญญาเครื่องตรัสรู้อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า

ดูก่อนภารทวาชะ อุปมาข้อที่ ๒ นี้แลน่าอัศจรรย์

ไม่เคยได้ฟังมาในกาลก่อน มาปรากฏกะเรา.

[๗๔๓] ดูก่อนภารทวาชะ อุปมาข้อที่ ๓ อีกข้อหนึ่ง น่าอัศจรรย์

ไม่เคยได้ฟังมาในกาลก่อน มาปรากฏกะเรา

เปรียบเหมือนไม้แห้งเกราะ ทั้งตั้งอยู่บนบก ใกล้น้ำ

ถ้าบุรุษพึงมาด้วยหวังว่า จะเอาไม้นั้นมาสีไฟ จักให้ไฟเกิด จักทำไฟให้ปรากฏ

ดังนี้ ดูก่อนภารทวาชะ ท่านจะเข้าใจความข้อนั้นเป็นไฉน

บุรุษนั้นเอาไม้แห้งเกราะ ทั้งตั้งอยู่บนบก ไกลน้ำ มาสีไฟ

จะพึงให้ไฟเกิด พึงทำไฟให้ปรากฏได้บ้างหรือหนอ.

สคารวมาณพกราบทูลว่า อย่างนั้นท่านพระโคดม

ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะไม้นั้นแห้งเกราะ ทั้งตั้งอยู่บนบก ไกลน้ำ.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภารทวาชะ ฉันนั้นเหมือนกันแล

สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง

มีกายหลีกออกจากกาม

ทั้งความพอใจในกาม

ความเสน่หาในกาม

ความหมกมุ่นในกาม

ความระหายในกาม

ความเร่าร้อนเพราะกาม

อันตนละได้ด้วยดี ให้สงบระงับด้วยดีแล้วในภายใน

ท่านสมณพราหมณ์เหล่านั้น ถึงแม้จะได้เสวยทุกขเวทนาอันกล้าเผ็ดร้อน

ที่เกิดเพราะความเพียรก็ดี ถึงแม้จะไม่ได้เสวยก็ดี ก็สมควรเพื่อจะรู้

เพื่อจะเห็นซึ่งปัญญาเครื่องตรัสรู้อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า

ดูก่อนภารทวาชะ อุปมาข้อที่ ๓ นี้แล น่าอัศจรรย์

ไม่เคยได้ฟังมาในกาลก่อน มาปรากฏกะเรา.



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับน้องคนหนึ่งและเพื่อนๆของน้องที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ให้ยานพาหนะเป็นทาน ให้ที่อยู่อาศัยเป็นทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของมารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะครับ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO