นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 10 พ.ค. 2024 10:54 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 20 ส.ค. 2011 8:26 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
รูปน่ารัก.jpg



รู้ “ความหมาย” ของอริยสัจแล้ว ก็ควรต้องรู้ “กิจหรือข้อพึงปฏิบัติ” ต่ออริยสัจด้วย

๑. อริยสัจข้อ “ทุกข์” ได้แก่ตัวทุกข์หรือตัวปัญหานั้น เรามีหน้าที่ต้อง “กำหนดรู้” บาลีใช้คำว่า “ปริญญา”
๒. อริยสัจข้อ “สมุทัย” ได้แก่ต้นตอหรือเหตุให้เกิดทุกข์นั้น เรามีหน้าที่ต้อง “ละ” บาลีใช้คำว่า “ปหานะ”
๓. อริยสัจข้อ “นิโรธ” ได้แก่ ความดับทุกข์อันเป็นเป้าหมายของการปฏิบัตินั้น เรามีหน้าที่ต้อง “ทำให้แจ้ง” บาลีใช้คำว่า “สัจฉิกิริยา”
๔. อริยสัจข้อ “มรรค” ได้แก่ หนทางให้ถึงความดับทุกข์นั้น เรามีหน้าที่ต้อง “เจริญให้เกิดให้มีขึ้น (หมายถึงให้ลงมือปฏิบัติ)” บาลีใช้คำว่า “ภาวนา”

๑. การ “กำหนดรู้” ทุกข์
หลวงปู่เน้นเป็นพิเศษ เพราะพวกเราอยู่ในสภาพที่คล้ายไส้เดือนไม่เห็นดิน ปลาไม่เห็นน้ำ นกไม่เห็นฟ้า ฯลฯ คืออยู่กับมัน เคยชินกับมัน เลยไม่เห็นหรือไม่รู้จักมันจริง ๆ เราอยู่กับทุกข์แต่ไม่เห็นทุกข์ ไปงานศพก็เห็นแต่คนอื่นตาย ไม่เกี่ยวกับเรา ไม่รู้จักการน้อมเข้ามาใส่ตัวเพื่อให้เห็นทุกข์ที่อยู่ประจำโลกคือความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ฯลฯ เรามัวร้องไห้ให้กับการตาย แต่ไม่ได้นึกเฉลียวใจว่าเราควรร้องไห้ให้กับการเกิดจึงจะถูก เพราะมีเกิดจึงมีดับมีตาย

ข้อ กำหนดรู้ทุกข์นี้ หลวงปู่สอนเราเตือนเรา โดยแทบทุกเช้าที่หลวงปู่เปิดประตูก้าวเดินออกจากกุฏิ ท่านจะต้องอุทานให้ศิษย์ได้พึงระลึกเนือง ๆ ว่า “เอ้อ...เกิด แก่ เจ็บตาย เน้อ” นอกจากนี้ ท่านก็ให้เราหาโอกาศไปโรงเรียนสอนธรรมะที่ยอดเยี่ยม นั่นก็คือโรงพยาบาล เพื่อช่วยให้เราตระหนักหรือกำหนดรู้ “ทุกข์” ให้ชัดและให้ถึงใจนั่นเอง

๒. การ “ละ” สมุทัย
หลวงปู่พูดสอนอยู่เสมอ ๆ ในคำว่า “ให้คอยระวังและหมั่นละโลภ โกรธ หลง เพราะมันเป็นเหมือนหนอนที่คอยกัดกินความดีของเรา” เพราะมันเป็นตัวย่ำยีหัวใจเราให้ต้องเป็นทุกข์บอบช้ำ ความโลภทำให้เราอยู่ในอาการของคนยากไร้อดอยาก ความโกรธทำให้ใจเราเดือดดาลมีนัยน์ตาที่แทบจะถลนออกมา ความหลงทำให้เราโง่ จมจ่อมอยู่กับสภาพที่ตรงกันข้ามกับ “รู้ ตื่น เบิกบาน”

๓. การ “ทำให้แจ้ง” ซึ่งนิโรธ
หลวงปู่ท่านสอนผ่านตัวอย่างแบบชาวบ้าน ๆ เช่น สอนให้กลัวนรก สอนให้เห็นว่าบนสวรรค์นั้น เทวดาก็ยังมีกิเลส ยังมีทุกข์ กลัวตาย กลัวจุติ แม้ พรหมก็เป็นที่นอนแช่เป็นความเนิ่นช้า และไม่ปลอดภัยหากเกิดมาอีกในยุคที่ไม่พบพระพุทธศาสนา ฯลฯ นิโรธคือนิพพานเท่านั้น ที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย ที่ต้องพยายามอย่างที่สุดที่จะเขยิบตัวเองให้เข้าไปใกล้ ให้ถึง “หัวตะพาน” หรือ “หนึ่งในสี่” คือ พัฒนายกตัวเราจากปุถุชนขึ้นเป็นกัลยณชน กระทั่งเป็นอริยบุคคลสูงขึ้น ๆ ไปตามลำดับ จนกว่าจะถึงที่สุดของการพัฒนาตัวเองคือความเป็นผู้หมดกิเลส เข้าถึงนิโรธตั้งแต่ยังมีลมหายใจอยู่

๔. การ “เจริญ” มรรค
หลวงปู่กล่าวสอนไว้มากที่สุดในแง่มุมต่าง ๆ รวมทั้งกระตุ้นเร้าให้เราหมั่นปฏิบัติ ปรารภความเพียร และให้มองว่าการเจริญมรรค หรือก็คือการเจริญศีล สมาธิ และปัญญา มิใช่ส่วนเกินของชีวิต ท่านจึงเรียกการไปปฏิบัติภาวนาว่า “ไปทำงาน” เพราะมันเป็นเรื่องการงานทางจิต ชนิดที่ท่านกล่าวว่า “ถ้าไม่เอา (ปฏิบัติ) เป็นเถ้าเสียดีกว่า” เพื่อจะพูดให้แคบให้ตรงจุดเข้ามาในภาคปฏิบัติการงานทางจิต หลวงปู่จะใช้คำว่า “ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต” ใช้ สติเข้าไปกำหนดดูรู้สภาวะจิต ให้รู้โลภ โกรธ หลงที่มันครอบงำจิตอยู่ แล้วก็ให้ใช้ปัญญาชำระชะล้างโลภ โกรธ หลง เพื่อการรักษาจิตให้สะอาดบริสุทธ์ นิ่ง ใส เป็นกลางอยู่เสมอ คำว่าดูจิตและรักษาจิตจึงต้องใช้ควบคู่กัน แยกจากกันไม่ได้เหมือนกับคำว่าสติและปัญญา การเจริญมรรคจึงจะครบถ้วนสมบูรณ์

การ “เจริญ” นี้เป็นการ “ปฏิบัติ” มิใช่ไร้การปฏิบัติ หากแต่เป็นการปฏิบัติขูดกิเลสหรือสิ่งที่รกรุงรังที่ห่อหุ้มจิตใจเราออกไป หากไร้การปฏิบัติก็ไร้ผลงาน จะถึงนิโรธได้อย่างไร ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน ถ้าไม่มีกิริยาการเดิน หรือการใช้ความเพียรพยายามจะไปถึงได้อย่างไร

***************************************************************************************


http://www.luangpordu.com/?cid=453342&f ... c_id=52546

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 20 ส.ค. 2011 11:09 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 27 มี.ค. 2010 1:50 pm
โพสต์: 598
สาธุ ขอบคุณครับสำหรับธรรมดี :grt: :grt: :grt:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 21 ส.ค. 2011 2:06 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
:D

ด้วยความยินดีครับ

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO