นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 20 เม.ย. 2024 4:07 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: การตั้งจิต
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 20 พ.ย. 2008 5:58 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
รูปภาพ

ในฐานะที่ลูกศิษย์ของหลวงปู่คือผู้ที่มาฝึกหัดปฏิบัติกรรมฐาน ดังนั้น ในการตั้งจิต ไม่ว่าจะเป็นการจบของทำบุญ หรือการอธิษฐานต่าง ๆ หลวงปู่จะให้ตั้งจิตให้สว่างเสียก่อน การตั้งจิตให้สว่างทุกครั้ง เป็นทั้งอุบายสร้างความชำนาญในการทำกรรมฐาน และยังช่วยให้การอธิษฐานสัมฤทธิ์ผลอย่างเต็มที่อีกด้วย

พูดถึงตรงนี้ อาจมีคำถามว่ารู้ได้อย่างไรว่า "สว่าง" การเห็นแสงสว่างหรือการการเห็นนิมิตใด ๆ นั้น ครูบาอาจารย์ท่านให้เริ่มสร้างความชำนาญจาก "การเห็นโดยความรู้สึก" เสียก่อน เมื่อจิตละเอียดขึ้นก็จะพัฒนาสู่การเห็นที่เรียกว่าเห็นนิมิตอีกชั้นหนึ่ง

อันที่จริง หากเป็นการอธิษฐานบางกรณี เช่น ให้แคล้วคลาดปลอดภัย หลวงปู่จะให้อธิษฐานตอนที่ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ โดยมีปีติเป็นสิ่งบอก เป็นต้นว่า ความสว่าง ขนลุกทั่วตัว เบากายเบาใจ น้ำตาไหลฯ แล้วจึงค่อยตั้งเจตนาอธิษฐานออกไป ท่านว่าอธิษฐานบนจิตที่มีสมาธิจะมีผลมากกว่า เพราะทำด้วยจิตที่มีกำลัง ยิ่งหากต้องการแผ่เมตตาด้วยแล้ว ยิ่งจำเป็นต้องตั้งจิตให้สว่าง เพราะนี่เหมือนกับการหางบประมาณมาให้มากพอก่อนที่จะใช้จ่ายเงินออกไป ไม่มีงบแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปใช้

การแผ่บุญ ในทางจิตภาวนา ก็คือการแผ่แสงสว่างออกไปพร้อม ๆ กับกระแสแห่งความปรารถนาดีที่ต้องการให้สรรพชีวิตปราศจากทุกข์และมีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป

หากเราฝึกตั้งจิตให้สว่างหรือให้เกิดปีติอย่างใดอย่างหนึ่งบ่อย ๆ ก็เท่ากับว่าเรากำลังสร้างความชำนาญในการเข้าสมาธิ หลวงปู่ท่านแบ่งขั้นความชำนาญในการทำกรรมฐานไว้ ๔ ขั้น คือ รู้ เห็น เป็น ได้

(คำขยายความต่อไปนี้ เป็นความเห็นส่วนตัว มิใช่จากหลวงปู่โดยตรงครับ)

รู้ คือ รู้โดยความรู้สึก เช่น มีอะไร อยู่ตรงไหน (แต่ยังไม่ถึงขนาดเห็น)
เห็น คือ การรับรู้รับทราบโดยตรงด้วยตาใจ
เป็น คือ ความชำนาญถึงระดับที่ กำหนดปุ๊บ ก็เป็นสมาธิปั๊บ
ได้ คือ การทรงสมาธิอยู่ตลอดเวลา (ไม่ต้องตั้งท่า หรือใช้ความพยายามในการรวมจิต)

ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ ต้องไม่ลืมว่า เป้าหมายสุดท้ายมิใช่จบที่ตัวสมาธิที่มีความชำนิชำนาญอย่างยิ่ง หากแต่อยู่ที่การนำอานิสงส์แห่งจิตที่มีสมาธิไปใช้เจริญปัญญา เพราะจิตที่เป็นสมาธิ ย่อมเป็นจิตที่เรียกว่า อ่อนโยน ควรแก่การงาน จะน้อมไปพิจารณาเรื่องใด ก็แจ่มแจ้งโดยตลอด ดังที่หลวงปู่ เน้นย้ำอย่างมากในเรื่องของการพิจารณาทุกอย่างเพื่อให้แจ่มแจ้งในสภาวะแห่งอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา.

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: การตั้งจิต
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 29 ธ.ค. 2008 10:59 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 10 ธ.ค. 2008 11:36 pm
โพสต์: 1173
เรื่องดี,ภาพสวย,อ่านแล้วรู้สึกดีครับ ;)

ผมเองมาศรัทธาหลวงปู่มากขึ้นก็จากที่เวปแหละครับ :ilu:

_________________
หนอนในอาจมย่อมสกปรก เมื่อกลายเป็นจั๊กจั่นก็ดื่มน้ำค้าง เมื่อกลายเป็นหิ่งห้อยก็เรืองโรจน์ใต้เเสงจันทร์
พึงรู้ว่าสะอาดเกิดจากสกปรก สว่างเกิดจากมืดมน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO