นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อังคาร 07 พ.ค. 2024 5:22 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: พ่อชาลีลูกรัก
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 03 ก.ย. 2010 8:14 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4550
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๓

๖. ปฐมกาลสูตร

(ว่าด้วยกาล ๔)

[๑๔๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ กาล ๔ เป็นไฉน? คือ

กาเลน ธมฺมสฺสวน การฟังธรรมตามกาล

กาเลน ธมฺมสากจฺฉา การสนทนาธรรมตามกาล

กาเลน สมโถ สมถะตามกาล

กาเลน วิปสฺสนา วิปัสสนาตามกาล

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แล กาล ๔.

จบปฐมกาลสูตรที่ ๖




อรรถกถาปฐมกาลสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในปฐมกาลสูตรที่ ๖ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า กาลา คือกาลที่เหมาะที่ควร. บทว่า กาเลน ธมฺมสฺสวนได้แก่ การฟัง

ธรรมในเวลาที่เหมาะที่ควร. บทว่า ธมฺมสากจฺฉา ความว่า การสนทนาที่เป็นไปด้วย

อำนาจการถามและการตอบปัญหา.

จบอรรถกถาปฐมกาลสูตรที่ ๖.



พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๔ - ๓๖๕

๗. ทุติยกาลสูตร

(ว่าด้วยกาล ๔)

[๑๔๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็น

ไปตามลำดับโดยชอบอยู่ ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ กาล ๔

เป็นไฉน? คือ การฟังธรรมตามกาล ๑ การสนทนาธรรมตามกาล ๑ สมถะตาม

กาล ๑ วิปัสสนาตามกาล ๑ นี้แลกาล ๔ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตาม

ลำดับโดยชอบอยู่ ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดหนาตกบนภูเขา น้ำไหลไป

ตามที่ลุ่ม ยังซอกเขาและลำรางทางน้ำให้เต็ม ซอกเขาและลำรางทางน้ำเต็มแล้ว

ย่อมยังหนองให้เต็ม หนองเต็มแล้ว ย่อมยังบึงให้เต็ม บึงเต็มแล้ว ย่อมยังคลองให้

เต็ม คลองเต็มแล้ว ย่อมยังแม่น้ำให้เต็ม แม่น้ำเต็มแล้ว ย่อมยังทะเลให้เต็ม

ฉันใด กาล ๔ นี้ เมื่อบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตามลำดับโดยชอบอยู่

ย่อมยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ ฉันนั้นแล.

จบทุติยกาลสูตรที่ ๗



อรรถกถาทุติยกาลสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในทุติยกาลสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า กาลา นั่น เป็นชื่อแห่งกุศลธรรมที่เป็นไปด้วยอำนาจการฟังธรรม

เป็นต้นในกาลนั้น ๆ กาลเหล่านั้น จักแจ่มชัด และจักเป็นไป. บทว่า อาสวานํ ขยํ

ได้แก่ พระอรหัตต์.

จบอรรถกถาทุติยกาลสูตรที่ ๗.



ข้อความโดยสรุป

ปฐมกาลสูตร และ ทุติยกาลสูตร

(ว่าด้วยกาล ๔)

ทั้งสองพระสูตร ต่างเป็นพระธรรมเทศนาที่ว่าด้วยกาล ๔ ประการ เหมือนกัน

กล่าวคือ ในปฐมกาลสูตร พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงว่า เวลาแห่งการเจริญ

ขึ้นของกุศล หรือ การเจริญกุศลตามกาลอันเหมาะควร มีดังนี้ คือ

การฟังธรรมตามกาล การสนทนาธรรมตามกาล การเจริญสมถะ(ความสงบของ

จิต) ตามกาล การเจริญวิปัสสนา(ปัญญาที่เห็นอย่างแจ่มแจ้ง)ตามกาล

แต่ในทุติยกาลสูตร พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงให้ยิ่งขึ้นไปว่า เมื่อเจริญกุศล

ทั้ง ๔ ประการตามกาลแล้ว สามารถทำให้ถึงซึ่งความเป็นผู้สิ้นอาสวะ คือ บรรลุเป็น

พระอรหันต์ ห่างไกลจากกิเลสโดยประการทั้งปวง.




เอาบุญมาฝากวันนี้ได้ถวายสังฆทาน
กรวดน้ำอุทิศบุญ เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน รักษาศีล อาราธนาศีล เจริญวิปัสสนา ปฏิบัติธรรม ถวายข้าวพระพุทธรูป ศึกษาธรรม
ให้อาหารสัตว์เป็นทาน
ทำงานบ้านช่วยพ่อแม่และเจริญอาโปกสิน ศึกษาการรักษาโรค
และสร้างบารมีครบทั้ง 10 อย่าง ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย




ร่วมถวายเครื่องกรองน้ำดื่มวัดบึงช้าง ต ไผ่ล้อม อ บางกระทุ่ม พิษณุโลก

ขอเรียนเชิญท่านที่มีกุศลจิตร่วมถวายเครื่องกรองน้ำได้ที่บัญชีนี้ครับ

ธ. กรุงเทพฯ สาขา เดอะ คริสตัล
เลขบัญชีออมทรัพย์ 906-0-05959-0
ชื่อบัญชี นายสมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO