นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 12:40 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ลักษณะของสภาพธรรมะ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 19 มิ.ย. 2010 10:41 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
ภพในปัจจยาการ มี ๒ ความหมาย คือ กรรมภพ ๑ อุปปัตติภพ ๑

ดังข้อความจากพระบาลีดังนี้

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 436

[๒๖๕] ภพเกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?

ภพ ๒ คือ กรรมภพ ๑ อุปปัตติภพ ๑

ในภพ ๒ นั้น กรรมภพ เป็นไฉน ?

ปุญญาภิสังขาร อปุญญาภิสังขาร อาเนญชาภิสังขาร นี้เรียกว่า

กรรมภพ กรรมที่เป็นเหตุให้ไปสู่ภพแม้ทั้งหมด ก็เรียกว่า กรรมภพ

อุปปัตติภพ เป็นไฉน ?

กามภพ รูปภพ อรุปภพ สัญญาภพ อสัญญาภพ เนวสัญญา-

นาสัญญาภพ เอกโวการภพ จตุโวการภพ ปัญจโวการภพ นี้เรียกว่า อุปปัตติภพ

กรรมภพและอุปปัตติภพดังกล่าวมานี้ นี้เรียกว่า ภพเกิดเพราะอุปาทาน

เป็นปัจจัย...



อกุศลวิตก ๓ ประการ


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

อกุศลวิตก ๓ ประการ

๓ ประการ เป็นไฉน คือ

วิตกประกอบด้วยการไม่ให้ผู้อื่นดูหมิ่นตน ๑

วิตกประกอบด้วยลาภสักการะและความสรรเสริญ ๑

วิตกประกอบด้วยความเอ็นดูในผู้อื่น ๑

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

อกุศลวิตก ๓ ประการ นี้แล





พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๖ - หน้าที่ ๑๕๙ - ๑๖๗


๕. ชนสันธชาดก

(ว่าด้วยพระราชาผู้ยังชนให้ตั้งมั่นด้วยดีในกุศลธรรม)





[๑๖๔๙] พระเจ้าชนสันธะ ได้ตรัสอย่างนี้ว่า

เหตุที่จะทำให้จิตเดือดร้อนนั้นมีอยู่ ๑๐ ประการ บุคคล

ไม่กระทำเสียในกาลก่อนแล้ว ย่อมเดือดร้อนในภายหลัง.

[๑๖๕๐] บุคคลเมื่อยังเป็นหนุ่ม ไม่ทำความ

พยายามยังทรัพย์ให้เกิดขึ้น ครั้นแก่ลงหาทรัพย์ไม่ได้

ย่อมเดือดร้อนภายหลังว่า เมื่อก่อนเราไม่ได้แสวงหา

ทรัพย์ไว้.

[๑๖๕๑] ศิลปะที่สมควรแก่ตน บุคคลใดไม่ได้

ศึกษาไว้ในกาลก่อน บุคคลนั้นย่อมเดือดร้อนใน

ภายหลังว่า เราไม่ได้ศึกษาศิลปะไว้ในกาลก่อน

ผู้ไม่มีศิลปะ ย่อมเลี้ยงชีพลำบาก.

[๑๖๕๒] ผู้ใดเป็นคนโกง ผู้นั้นย่อมเดือดร้อน

ในภายหลังว่า เราเป็นคนโง่ ส่อเสียด กินสินบน

ดุร้าย หยาบคาย ในกาลก่อน.

[๑๖๕๓] ผู้ใดเป็นคนฆ่าสัตว์ ผู้นั้นย่อมเดือดร้อน

ในภายหลังว่า เราเป็นคนฆ่าสัตว์ หยาบช้าทุศีล

ประพฤติต่ำช้า ปราศจากขันติ เมตตาและเอ็นดูสัตว์

ในกาลก่อน.

[๑๖๕๔] ผู้ใดคบชู้ในภรรยาผู้อื่น ย่อมเดือดร้อน

ในภายหลังว่า หญิงที่ไม่มีใครหวงแหน มีอยู่เป็นอัน-

มาก ไม่ควรที่เราจะคบหาภรรยาผู้อื่นเลย.

[๑๖๕๕] คนตระหนี่ ย่อมเดือดร้อนในภายหลัง

ว่าเมื่อก่อน ข้าวและน้ำของเรามีอยู่มากมาย เราก็มิได้-

ให้ทานเลย.

[๑๖๕๖] ผู้ไม่เลี้ยงดูมารดาบิดา ย่อมเดือดร้อน

ในภายหลังว่า เราสามารถพอที่จะเลี้ยงดูมารดาและ

บิดาผู้แก่เฒ่าชราได้ ก็มิได้เลี้ยงดูท่าน.

[๑๖๕๗] ผู้ไม่ทำตามโอวาทบิดา ย่อมเดือดร้อน

ในภายหลังว่า เราได้ดูหมิ่นบิดาผู้เป็นอาจารย์สั่งสอน

ผู้นำรสที่ต้องการทุกอย่างมาเลี้ยงดู.

[๑๖๕๘] ผู้ไม่เข้าใกล้สมณพราหมณ์ ย่อม-

เดือดร้อนในภายหลังว่า เมื่อก่อนเรามิได้ไปมาหาสู่

สมณพราหมณ์ทั้งหลาย ผู้มีศีล เป็นพหูสูตเลย.

[๑๖๕๙] ผู้ใดไม่ประพฤติสุจริตธรรม ไม่เข้า

ไปนั่งใกล้สัตบุรุษ ย่อมเดือดร้อนในภายหลังว่า

สุจริตธรรมที่ประพฤติแล้ว และสัตบุรุษอันเราไปมา

หาสู่แล้ว ย่อมเป็นความดี แต่เมื่อก่อนนี้เราไม่ได้

ประพฤติสุจริตธรรมไว้เลย.

[๑๖๖๐] ผู้ใดย่อมปฏิบัติเหตุเหล่านี้โดยอุบายอัน

แยบคาย ผู้นั้นเมื่อกระทำกิจที่บุรุษควรทำ ย่อมไม่

เดือดร้อนใจในภายหลังเลย.



จบชนสันธชาดกที่ ๕.

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

ชนสันธชาดก

----------------------

เหตุที่ทำให้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสชาดกนี้ มีดังต่อไปนี้ .-

พระเจ้าโกศล ทรงมัวเมาด้วยพระอิสริยยศ ไม่ปรารถนาจะตัดสินคดีความต่าง ๆ

ทรงลืมแม้กระทั่งการบำรุงพระพุทธเจ้า วันหนึ่งพระองค์ทรงระลึกถึงพระพุทธเจ้า จึง

เสด็จเข้าไปเฝ้า พระพุทธเจ้าได้ตรัสเตือนว่า พึงเป็นผู้ไม่ประมาท โดยปกติของ

พระราชาต้องเป็นผู้ไม่ประมาทในราชกิจ พึงละอคติ พึงประพฤติธรรม เมื่อพระราชา

ประพฤติธรรม ประชาชนก็จะประพฤติธรรมด้วย และ ได้ตรัสต่อไปว่า เมื่อพระพุทธเจ้า

ทรงแสดงธรรมสั่งสอนอยู่ พระองค์ทรงครองราชสมบัติโดยธรรม นั้น ไม่น่าอัศจรรย์

เพราะเหตุว่าบัณฑิตในปางก่อนทั้งหลาย(โปราณกบัณฑิต) แม้ไม่มีอาจารย์ผู้สอน ก็ยัง

ตั้งอยู่ในสุจริตธรรม แสดงธรรมแก่มหาชนตามความรู้ของตน พาคนเหล่านั้นไปสู่

สวรรค์ได้ จึงได้ทรงนำเรื่องในอดีตมาแสดง คือ เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงเป็น

พระโพธิสัตว์ พระนามว่า พระเจ้าชนสันธะ พระองค์ได้ครองราชสมบัติต่อจากพระ

ราชบิดา ทรงพระราชทานทรัพย์บริจาคทาน ทรงรักษาศีล ๕ ทรงประพฤติธรรม

ทรงสงเคราะห์ประชาชนด้วยสังคหวัตถุ ๔ (ทาน, กล่าววาจาไพเราะ, ประพฤติในสิ่งที่

เป็นประโยชน์ และ ความเป็นผู้มีตนเสมอ) และได้ตรัสสอนให้มหาชนตั้งอยู่ในกุศล-

ธรรม อยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ และวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันอุโบสถขึ้น ๑๕ ค่ำ ทรงรับสั่ง

ให้ประชุมชาวพระนคร เพื่อจะทรงแสดงธรรมให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป จึงได้ตรัสถึงเหตุที่จะทำ

ให้เดือดร้อนในภายหลัง รวม ๑๐ ประการ ตามที่ปรากฏในพระสูตร นั่นแล

สำหรับ เหตุที่จะทำให้เดือดร้อนในภายหลัง ๑๐ ประการ สรุป ได้ดังนี้

๑. ไม่พยายามหาทรัพย์ ในคราวที่มีกำลังพอที่จะหาได้

๒. ไม่ได้ศึกษาศิลปวิทยา

๓. เป็นคนโกง กินสินบน

๔. ฆ่าสัตว์ ปราศจากความอดทนและเมตตา

๕. คบชู้

๖. ตระหนี่

๗. ไม่เลี้ยงดูมารดาบิดา

๘. ไม่ทำตามคำพร่ำสอนของบิดา (บิดาในที่นี้หมายถึงอาจารย์)

๙. ไม่ได้เข้าไปหาสมณพราหมณ์

๑๐. ไม่ได้ประพฤติสุจริตธรรม.






เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทานกับคุณแม่
อนุโมทนาบุญกับผู้ใส่บาตรตามถนนหนทาง กรวดน้ำอุทิศบุญ เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน
รักษาศีล อาราธนาศีล เจริญวิปัสสนา ได้ปฏิบัติธรรม
ได้ถวายข้าวพระพุทธรูป สักการะพระธาตุ
ทำงานบ้านช่วยพ่อแม่ทุกวัน
และเจริญอาโปกสิน
ศึกษาการรักษาโรค
คุณแม่และผมได้ปฏิบัติธรรม

และมีผู้มาปฏิบัติธรรมและถวายสังฆทานประมาณ30 คน
ที่วัดเนื่องจากเป็นวันพระ

และได้ถวายผ้าป่าผ้าบังสุกุล

และวันนี้เพื่อนบ้านของผมได้บวช

และวันอาทิตย์หน้าเพื่อนอีกคนก็จะบวช

รวมแล้วมีงานบวชพระ 2 รูป

และวันนี้ได้ไปสนทนาธรรม และถวายค่าน้ำค่าไฟของวัด

และวันนี้ได้อัญเชิญพระธาตุไปบรรจุที่องค์พระประธาน
และสร้างบารมีครบทั้ง 10 อย่าง ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย





ขอเชิญร่วมสร้างพระประธาน หน้าตัก ๕๙ นิ้ว

โทร 086-1169100


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO