นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 5:41 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ขอน้อมนบ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 13 มิ.ย. 2010 2:04 pm 
ออนไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
ขอเรียนว่า โสมนัสสันตีรณจิต โดยชาติ เป็นวิบาก

โสมนัสสันตีรณจิต กระทำกิจ ๒ คือ สันตีรณกิจ ๑ ตทาลัมพนกิจ ๑

ส่วนอภิสังขาร ๓ หมายถึงเจตนาเจตสิก..
จุติจิต ปฏิสนธิจิต เป็นจิตประเภทเดียวกัน คือ เป็นจิตชาติวิบาก การเกิดเป็น

มนุษย์เป็นผลของมหากุศลดวงใดดวงหนึ่ง คือ มหาวิบากหรืออเหตุกกุศลวิบาก

สันตีรณก็ได้เมื่อปฏิสนธิ คือ เกิดขึ้นด้วยวิบากจิตประเภทใด ย่อมจุติด้วย

วิบากจิตประเภทนั้น สรุป คือ มหากุศลเป็นจิตชาติกุศล เป็นจิตประเภทเหตุ

ทำกิจปฏิสนธิหรือจุติไม่ได้ผลของมหากุศล คือ มหาวิบาก เป็นต้น ย่อมทำกิจ

ปฏิสนธิและจุติได้
สรุปกิจของจิต

กิจของจิตมี ๑๔ กิจ คือ ...

๑. ปฏิสนธิกิจ คือ กิจสืบต่อจากจุติกิจ

จิตที่ทำปฏิสนธิกิจ ได้แก่ วิบากจิต ๑๙ ดวง คือ

กามาวจรวิบาก ๑๐ ดวง

รูปาวจรวิบาก ๕ ดวง

อรูปาวจรวิบาก ๔ ดวง

ปฏิสนธิจิต

ปฏิสนฺธิ ( การเกิด ) + จิตฺต ( จิต )

จิตที่ทำกิจเชื่อมต่อภพใหม่ , จิตที่ทำกิจเกิดในภพใหม่ หมายถึง วิบากจิต ๑๙

ดวง ดวงใดดวงหนึ่งที่เกิดขึ้นทำปฏิสนธิกิจ เป็นจิตดวงแรกในภพใหม่

พระสูตรนี้กล่าวถึงสัตว์ที่มาจากเทวดาและมนุษย์ ว่ามีจำนวนน้อย

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 727

๒. นขสิขสูตร

ว่าด้วยสัตว์ที่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์มีน้อยเหมือนฝุ่นติดปลายเล็บ

[๖๖๓] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ-

บิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงช้อนฝุ่นเล็กน้อย

ไว้ที่ปลายพระนขาแล้วตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้ง

หลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ฝุ่นเล็กน้อยที่เราช้อนขึ้นไว้ที่ปลายเล็บนี้

กับมหาปฐพีนี้ อย่างไหนมากกว่ากัน.

ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มหาปฐพีนั่นแหละมาก

กว่า ฝุ่นเล็กน้อยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงช้อนขึ้นไว้ที่ปลายพระนขานี้ มี

ประมาณน้อย ย่อมไม่ถึงแม้ซึ่งการนับ ย่อมไม่ถึงแม้ซึ่งการเทียบเคียง ย่อมไม่

ถึงแม้ซึ่งส่วนแห่งเสี้ยว เพราะเทียบมหาปฐพีเข้าแล้ว ฝุ่นที่พระผู้มีพระภาคเจ้า

ทรงช้อนขึ้นไว้ที่ปลายพระนขามีประมาณเล็กน้อย.

[๖๖๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์กลับมาเกิดในหมู่มนุษย์มีประมาณน้อย

สัตว์ไปเกิดในกำเนิดอื่นจากมนุษย์ มีมากกว่ามากทีเดียว ฉันนั้นเหมือนกัน

เพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ไม่ประมาท ดู

ก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้นั่นแหละ.

จบนขสิขสูตรที่ ๒

อรรถกถา

บทว่า มนุสฺเสสุ ปจฺจาชายนฺติ มีอธิบายว่า เหล่าชนที่จุติจากมนุษยโลก

แล้วเกิดในมนุษยโลกนั้นแล มีประมาณน้อย. บทว่า อญฺญตฺร มนุสฺเสหิ ความ

ว่า เหล่าชนที่จุติจากมนุษยโลกแล้วไม่เกิดในมนุษยโลกไปเกิดเฉพาะในอบาย

๔ มีมากกว่า เหมือนฝุ่นในมหาปฐพี. ก็ในพระสูตรนี้ ท่านรวมเทวดากับมนุษย์

ทั้งหลายเข้าด้วยกัน. เพราะฉะนั้น พึงทราบว่า ผู้เกิดในเทวโลกมีประมาณน้อย

เหมือนผู้ที่เกิดในมนุษยโลก ฉะนั้น.

จบอรรถกถานขสิขสูตรที่ ๒

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย

คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓- หน้าที่ 251

" สัตว์โลกนี้เป็นเหมือนคนตาบอด, ในโลกนี้

น้อยคนนัก จะเห็นแจ้ง, น้อยคนนักจะไปในสวรรค์

เหมือนนกหลุดแล้วจากข่าย (มีน้อย) ฉะนั้น."

แก้อรรถ

บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า อย โลโก ความว่า โลกิยมหาชนนี้ ชื่อว่า

เป็นเหมือนคนบอด เพราะไม่มีจักษุคือปัญญา. สองบทว่า ตนุเกตฺถ ความ

ว่า ชนในโลกนี้น้อยคน คือไม่มาก จะเห็นแจ้งด้วยสามารถแห่งไตรลักษณ์มีไม่

เที่ยงเป็นต้น. บทว่า ชาลมุตฺโตว ความว่า บรรดาฝูงนกกระจาบที่นายพราน

นกผู้ฉลาด ตลบด้วยข่ายจับเอาอยู่ นกกระจาบบางตัวเท่านั้น ย่อมหลุดจาก

ข่ายได้. ที่เหลือย่อมเข้าไปสู่ภายในข่ายทั้งนั้น ฉันใด; บรรดาสัตว์ที่ข่ายคือ

มารรวบไว้แล้ว สัตว์เป็นอันมาก ย่อมไปสู่อบาย. น้อยคน คือ บางคนเท่า

นั้น ไปในสวรรค์ คือ ย่อมถึงสุคติหรือนิพพาน ฉันนั้น
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 727

๒. นขสิขสูตร

ว่าด้วยสัตว์ที่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์มีน้อย เหมือนฝุ่นติดปลายเล็บ



[๖๖๓] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณ

ฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงช้อนฝุ่นเล็กน้อยไว้

ที่ปลายพระนขาแล้วตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้ง

หลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ฝุ่นเล็กน้อยที่เราช้อนขึ้นไว้ที่ปลายเล็บนี้

กับมหาปฐพีนี้ อย่างไหนมากกว่ากัน.



ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มหาปฐพีนั่นแหละมากกว่า

ฝุ่นเล็กน้อยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงช้อนขึ้นไว้ที่ปลายพระนขานี้ มีประมาณ

น้อย ย่อมไม่ถึงแม้ซึ่งการนับ ย่อมไม่ถึงแม้ซึ่งการเทียบเคียง ย่อมไม่ถึงแม้ซึ่ง

ส่วนแห่งเสี้ยว เพราะเทียบมหาปฐพีเข้าแล้ว ฝุ่นที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงช้อน

ขึ้นไว้ที่ปลายพระนขามีประมาณเล็กน้อย.



[๖๖๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์กลับมาเกิดในหมู่มนุษย์มีประมาณน้อย สัตว์

ไปเกิดในกำเนิดอื่นจากมนุษย์มีมากกว่ามากทีเดียว ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะ

เหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ไม่ประมาท ดูก่อน

ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้นั่นแหละ.



จบนขสิขสูตรที่ ๒

อรรถกถานขสิขสูตรที่ ๒


ในนขสิขสูตรที่ ๒ มีวินิฉัยดังต่อไปนี้.

บทว่า มนุสฺเสสุ ปจฺจาชายนฺติ มีอธิบายว่า เหล่าชนที่จุติจากมนุษยโลก

แล้วเกิดในมนุษยโลกนั้นแล มีประมาณน้อย. บทว่า อญฺตฺรมนุสฺเสหิ ความ

ว่า เหล่าชนที่จุติจากมนุษยโลกแล้วไม่เกิดในมนุษยโลกไปเกิดเฉพาะในอบาย

๔ มีมากกว่า เหมือนฝุ่นในมหาปฐพี. ก็ในพระสูตรนี้ ท่านรวมเทวดากับมนุษย์

ทั้งหลายเข้าด้วยกัน. เพราะฉะนั้น พึงทราบว่า ผู้เกิดในเทวโลกมีประมาณ

น้อย เหมือนผู้ที่เกิดในมนุษยโลก ฉะนั้น.

จบอรรถกถานขสิขสูตรที่ ๒

ตัวอย่าง จากพระไตรปิฎก จากเทวดามาเป็นมนุษย์

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย

คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 43


ข้อความบางตอนจาก เรื่องนางปติปูชิกา [๓๖]

ข้อความเบื้องต้น

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภหญิงชื่อ ปติปูชิกา

ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ปุปฺผานิ เหว" เป็นต้น.



เรื่องตั้งขึ้นในดาวดึงสเทวโลก.

เทพธิดาจุติแล้วเกิดในกรุงสาวัตถี

ได้ยินว่า เทพบุตรนามว่ามาลาภารี ในดาวดึงสเทวโลกนั้น มีนางอัปสร

พันหนึ่งแวดล้อมแล้ว เข้าไปสู่สวน. เทพธิดา ๕๐๐ ขึ้นสู่ต้นไม้ ยังดอกไม้ให้

ตกอยู่. เทพธิดา ๕๐๐ เก็บเอาดอกไม้ที่เทพธิดาเหล่านั้นให้ตกแล้ว ประดับ

เทพบุตร. บรรดาเทพธิดาเหล่านั้น เทพธิดาองค์หนึ่ง จุติบนกิ่งไม้นั่นแล. สรีระ

ดับไป ดุจเปลวประทีป นางถือปฏิสนธิในเรือนแห่งตระกูลหนึ่ง ในกรุงสาวัตถี

พระสุตตันตปิฎก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 205


ว่าด้วยสัตว์ที่เกิดในมัชฌิมชนบทมีน้อย

[๒๐๕ ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ที่เกิดบนบก มีเป็นส่วนน้อย

สัตว์ที่เกิดในน้ำ มากกว่าโดยแท้ สัตว์ที่กลับมาเกิดในมนุษย์ มีเป็น

ส่วนน้อย สัตว์ที่กลับมาเกิดในกำเนิดอื่นจากมนุษย์ มากกว่าโดยแท้

สัตว์ที่เกิดในมัชฌิมชนบท มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่เกิดในปัจจันตชนบท

ในพวกชาวมิลักขะที่โง่เขลา มากกว่าโดยแท้ สัตว์ที่มีปัญญา ไม่โง่เง่า

ไม่เงอะงะ สามารถที่จะรู้อรรถแห่งคำเป็นสุภาษิตและคำเป็นทุพภาษิตได้

มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่เขลา โง่เง่า เงอะงะ ไม่สามารถที่จะรู้อรรถแห่ง

คำเป็นสุภาษิต และคำเป็นทุพภาษิตได้ มากกว่าโดยแท้ สัตว์ที่ประกอบ

ด้วยปัญญาจักษุอย่างประเสริฐ มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ตกอยู่ในอวิชชา

หลงใหล มากกว่าโดยแท้ สัตว์ที่ได้เห็นพระตถาคต มีเป็นส่วนน้อย

สัตว์ที่ไม่ได้เห็นพระตถาคต มากกว่าโดยแท้ สัตว์ที่ได้ฟังธรรมวินัยที่

พระตถาคตประกาศไว้ มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ไม่ได้ฟังธรรมวินัยที่พระ-

ตถาคตประกาศไว้ มากกว่าโดยแท้ สัตว์ที่ได้ฟังธรรมแล้วทรงจำไว้ได้

มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ได้ฟังธรรมแล้ว ทรงจำไว้ไม่ได้ มากกว่าโดยแท้

สัตว์ที่ไตร่ตรองอรรถแห่งธรรมที่ตนทรงจำไว้ได้ มีเป็นส่วนน้อย สัตว์

ที่ไม่ไตร่ตรองอรรถแห่งธรรมที่ตนทรงจำไว้ได้ มากกว่าโดยแท้ สัตว์ที่

รู้ทั่วถึงอรรถ รู้ทั่วถึงธรรมแล้ว ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม มีเป็น

ส่วนน้อย สัตว์ที่ไม่รู้ทั่วถึงอรรถ ไม่รู้ทั่วถึงธรรมแล้ว ปฏิบัติธรรม

สมควรแก่ธรรม มากกว่าโดยแท้ ฯลฯ



เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทานกับคุณแม่
อนุโมทนาบุญกับผู้ใส่บาตรตามถนนหนทาง กรวดน้ำอุทิศบุญ เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน
รักษาศีล อาราธนาศีล เจริญวิปัสสนา ได้ปฏิบัติธรรม
ได้ถวายข้าวพระพุทธรูป สักการะพระธาตุ
ทำงานบ้านช่วยพ่อแม่ทุกวัน
และเจริญอาโปกสิน
ศึกษาการรักษาโรค
คุณแม่และผมได้ปฏิบัติธรรม
และสร้างบารมีครบทั้ง 10 อย่าง ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าซื้อเครื่องไตเทียม วัดสุทธาราม
โทร 02 438 4575


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: รสมน และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO