นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 10:37 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เหตุ
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 23 เม.ย. 2010 10:26 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
เรื่องการใช้ภาษาหรืออักษรจะเหมือนหรือต่างกัน คงไม่สำคัญเท่ากับ

ความเข้าใจ เพราะถ้าไม่ได้ศึกษาอย่างถูกต้อง หรือไม่เข้าใจความจริง จะใช้คำ

อย่างไร การกระทำนั้นก็จะถูกต้องไม่ได้ ผลคือการรู้ตามความเป็นจริง หรือการ

ดับกิเลสก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ครับ ดังนั้นควรศึกษาพระธรรมโดยละเอียดและศึกษา

โดยรอบคอบเสียก่อนจึงจะถูกต้องครับ

การจะฝึกจิต(ไม่มีตัวตนที่ฝึก) จากที่เป็นอกุศล ตกไปในฝักฝ่ายของอกุศล บ่อย ๆ

เนือง ๆ ให้ลดน้อยลง เริ่มเป็นกุศลที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน ได้นั้น สิ่งสำคัญที่สุด

ต้องอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญา ความเข้าใจถูก เห็นถูกไป

ตามลำดับ เพราะเหตุว่าเมื่อปัญญาเจริญขึ้นไป ย่อมจะช่วยบรรเทาอกุศลจิตให้

ลดน้อยลงได้ และที่สำคัญ ปัญญานี้เองจะสามารถดับกิเลสได้ตามลำดับมรรค สูงสุด

คือ ปัญญาขั้นอรหัตตมรรค ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาดไม่เกิดอีกเลย

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ หน้าที่ ๔๐๓

พระศาสดา ตรัสว่า "เธอจงรักษาจิตของเธอนั่นแหละ ธรรมดาจิตนี้บุคคล

รักษาได้ยาก, เธอจงข่มจิตของเธอไว้ให้ได้ อย่าคิดถึงอารมณ์อะไร ๆ อย่างอื่น,

ธรรมดาจิตอันบุคคลข่มได้ยาก" ดังนี้แล้วจึงตรัสพระคาถานี้ว่า

"การฝึกจิตอันข่มได้ยาก เป็นธรรมดาเร็ว

มักตกไปในอารมณ์ตามความใคร่ เป็นการดี

(เพราะว่า) จิตที่ฝึกแล้ว ย่อมเป็นเหตุนำสุข

มาให้"

แก้อรรถ

บัณฑิตพึงทราบวิเคราะห์ในพระคาถานั้น (ดังต่อไปนี้).- ธรรมดาจิตนี้ อันบุคคล

ย่อมข่มได้โดยยาก เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่า ทุนฺนิคฺคหํ.

จิตนี้ย่อมเกิดและดับเร็ว เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่า ลหุ, ซึ่งจิตอันข่มได้ยาก

อันเกิดและดับเร็วนั้น.

บาทพระคาถาว่า ยตฺถ กามนิปาติโน ความว่า มักตกไปในอารมณ์ใด อารมณ์

หนึ่งนั่นแล. จริงอยู่ จิตนี้ ย่อมไม่รู้จักฐานะอันตนควรได้ หรือฐานะอันไม่ควรได้,

ฐานะอันสมควรหรือฐานะอันไม่สมควร ย่อมไม่พิจารณาดูชาติ ไม่พิจารณาดูโคตร ไม่

พิจารณาดูวัย; ย่อมตกไปในอารมณ์ที่ตนปรารถนาอย่างเดียว. เพราะเหตุนั้น พระผู้

มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า "มักตกไปในอารมณ์ตามความใคร่"

การฝึกจิตเห็นปานนี้นั้น เป็นการดี คือ ความที่จิตอันบุคคลฝึกฝนด้วยอริยมรรค

๔ ได้แก่ ความที่จิตอันบุคคลทำแล้วโดยประการที่จิตสิ้นพยศได้ เป็นการดี.

ถามว่า " เพราะเหตุไร ? "

แก้ว่า " เพราะว่า จิตนี้อันบุคคลฝึกแล้ว ย่อมเป็นเหตุนำสุขมาให้ คือว่า จิตที่

บุคคลฝึกแล้ว ได้แก่ทำให้สิ้นพยศ ย่อมนำมาซึ่งความสุขอันเกิดแต่มรรคผล และ

สุขคือพระนิพพานอันเป็นปรมัตถ์."
ขอเรียนว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดมาก ใช่ว่าเราจะห้ามจิต หรือจะดูจิต โดยไม่มี

ปัญญา จริงๆแล้วเป็นเรื่องของการค่อยๆสะสมอบรมทีละเล็กทีละน้อย โดยเริ่มตั้งแต่

การค่อยๆฟังให้เข้าใจเสียก่อนว่า คืออะไร เกิดเพราะเหตุใดจะดับได้อย่างไร มีข้อ

ปฏิบัติอย่างไร เป็นต้น ดังนั้นพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มีการศึกษาและมี

การอบรมตามลำดับ จะข้ามขั้นไม่ได้ ครับ เพราะฉะนั้นการฟังการศึกษา(ปริยัติ)

จึงเป็นลำดับที่หนึ่ง เพื่อถึงการรู้แจ้งสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ (ปฏิบัติ) จากนั้นจึงจะ

ถึงการบรรลุมรรคผลคือ ปฏิเวธได้...

การกระทำสิ่งที่ไม่สมควรด้วยความไม่รู้ว่าเป็นโทษ นี้ก็เป็นโทษของวัฏฏะอย่างหนึ่ง

เพราะอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น สัตว์ทั้หลายจึงกระทำกุศลกรรมบ้าง กระทำอกุศลกรรม

บ้าง บัณฑิตผู้มีปัญญา จึงเห็นโทษของกิเลสอันเป็นเหตุของการกระทำกรรมต่างๆนั้น

อกุศลกรรมในอดีตที่กระทำไปแล้วก็เป็นอันกระทำไปแล้ว จะให้กลับมาแก้ไขใหม่ย่อม

ไม่ได้ อนาคตก็ยังไม่มาถึง ปัจจุบันขณะนี้สำคัญที่สุด ควรเป็นผู้สำรวมระวังในกาย

วาจา และใจ ควรเป็นผู้สะสมบุญ ควรเป็นผู้สะสมอบรมเจริญปัญญา ด้วยการศึกษา

พระธรรมคำสอนของท่านผู้ตรัสรู้เพราะคำสอนของท่านนำออกจากความไม่รู้ นำออก

จากกิเลส นำออกจากวัฏฏทุกข์ทั้งปวงครับ

เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทาน กับคุณแม่และหลาน
ได้อนุโมทนาบุญกับผู้ใส่บาตรตามถนนหนทาง กรวดน้ำอุทิศบุญ
เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน
รักษาศีล อาราธนาศีล เจริญวิปัสสนา ได้ปฏิบัติธรรม
ได้ถวายข้าวพระพุทธรูป สักการะพระธาตุ
ทำงานบ้านช่วยพ่อแม่ทุกวัน
และเจริญอาโปกสิน
ฟังธรรมศึกษาธรรม
รักษาอาการป่วยของแม่
ศึกษาการรักษาโรค
เมื่อวานนี้ได้มีงานถวายที่ดินให้ทางวัด และซื้อรถให้แก่ทางวัด 2 คัน
รวมแล้วประมาณ 1000000 บาท และมีงานถวายสังฆทาน 10 ชุด
สร้างพระนอน สร้างพระเนตรของพระพุทธรูป ทำบุญเลี้ยงพระ 100 รูป
และอีกวัดหนึ่งมีการทำบุญเลี้ยงพระทั้ง วัดซึ่งมีผู้มาร่วมงานเยอะมาก
และสร้างบารมีครบทั้ง 10 อย่าง ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอชิญโครงการพัฒนาวัดสันป่าสัก (วัดร้าง)
พระมหาคุณาสาฬห์ สุคุณโสภี โทร.086-914-6548

ขอให้สรรพสัตว์ทั้ง 31 ภพภูมิจงบรรลุมรรคผลนิพพานเทอญ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO