นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 4:57 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: กัลยาณมิตร
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 02 เม.ย. 2010 7:42 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
กิเลสมี ๓ ขั้น คือ อนุสัยกิเลส ปริยุฏฐานกิเลส วีติกกมกิเลส


วีติกกมกิเลส เป็น "กิเลสอย่างหยาบ"

ซึ่งทำให้ล่วงเป็น ทุจริตกรรมทางกาย ทางวาจา

"วิรัติ" คือ "ละเว้น"-วีติกกมกิเลสได้ ด้วย "ศีล"


ปริยุฏฐานกิเลส เป็น "กิเลสอย่างกลาง" ที่เกิดร่วมกับอกุศลจิต

แต่ไม่ถึงขั้นที่ล่วงเป็นทุจริตกรรม

"ระงับ" ปริยุฏฐานกิเลสได้ "ชั่วคราว" เป็น วิกขัมภณปหาน

ด้วย "ฌานกุศลจิต"


อนุสัยกิเลส เป็น "กิเลสอย่างละเอียด"

เมื่อยังดับกิเลสไม่ได้ อนุสัยกิเลสก็นอนเนื่องอยู่ในจิตที่เกิดดับสืบต่อกัน

เป็นเชื้อ เป็นปัจจัยให้เกิด "ปริยุฏฐานกิเลส"


.


"กิเลสทั้งหลาย"

จะดับหมดสิ้นไปเป็น "สมุจเฉทปหาน" (คือ) ไม่เกิดอีกเลย

เมื่อโลกุตตรมัคคจิต รู้แจ้งอริยสัจจธรรม

โดยการประจักษ์แจ้งสภาพของพระนิพพาน "ตามลำดับขั้นของมัคคจิต"

ซึ่งปหานกิเลส "ตามลำดับขั้นของมัคคจิตนั้น ๆ"


.


ก่อนการตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาคนั้น

มีผู้ที่รักษาศีล วิรัติทุจริต และ เจริญสมถภาวนา-จนถึงอรูปฌาณขั้นสูงสุด

คือ เนวสัญญานาสัญญายตนฌาณ

(ซึ่ง) "ระงับกิเลสได้ชั่วคราว" เป็น วิขัมภนปหาน

แต่ ไม่มีใครสามารถดับ "อนุสัยกิเลส" ได้.


.


เมื่อพระผู้มีพระภาค ทรงบำเพ็ญพระบารมี ๔ อสงขัยแสนกัปป์

และทรงตรัสรู้ "พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ"

ทรงเป็น "พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า"

พระองค์ทรงแสดง "หนทางปฏิบัติเพื่อการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม"

จึงมี "พระอริยสงฆ์สาวก"

ผู้บรรลุธรรมอริยสัจจธรรม-ดับกิเลสได้ เป็นจำนวนมาก.


.


สืบต่อมา.........

จนตราบเท่าที่ "มีผู้ศึกษาและปฏิติธรรม"ตามที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงตรัสรู้

และทรงแสดงพระธรรมไว้โดยละเอียด ลอด ๔๕ พรรษา.


"พระธรรม" ที่พระผู้มีพระภาค ทรงแสดงไว้แล้วนั้น

สุขุม ละเอียด ลึกซึ้ง

เพราะทรงแสดง "ลักษณะของสภาพธรรมทั้งหลาย" ที่ทรงตรัสรู้

โดยทรงประจักษ์แจ้ง "ตามความป็นจริง-ของสภาพธรรมนั้น ๆ"


ถ้าผู้ใดไม่ศึกษาพระธรรมที่ทรงแสดงไว้ "โดยละเอียด-ให้เข้าใจอย่างถูกต้อง"

ย่อมไม่สามารถอบรมเจริญปัญญา-ที่ประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรม

และ (ไม่สามารถ) ดับกิเลสได้.


ทำบุญกับพระทุศีล....ไม่ได้บุญ เล่ม 23 หน้า 409

ได้ยินว่า นายพรานนั้นเมื่อให้ทักขิณา ( ของทำบุญ ) อุทิศถึงผู้ตายได้ให้แก่ภิกษุผู้ทุศีล ( ละเมิดศีล ) รูปหนึ่งนั้นแล ถึง 3 ครั้ง ในครั้งที่ 3 อมนุษย์ (ผู้ตาย) ร้องขึ้นว่า ผู้ทุศีลปล้นฉัน ในเวลาที่พรานนั้นถวายแก่ภิกษุผู้มีศีลรูปหนึ่งที่มาถึง ผลของทักขิณา ( ของทำบุญ ) ก็ถึงแก่เขา

ทำบุญกับนักบวชที่ไม่มีศีล...ไม่ได้บุญ เล่ม 49 หน้า 223
....ธิดาของข้าพระองค์บ่นอยู่เนืองๆ ว่า เราจักให้ทานอุทิศให้มารดา บิดา ลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย พวกพราหมณ์กำลังบริโภคทาน อันธิดาของข้าพระองค์ตกแต่งแล้ว ข้าพระองค์จะไปยังเมืองอันธกาวินทนคร เพื่อบริโภคอาหาร
พระราชาจึงตรัสสั่งเขาว่า ถ้าท่านไปได้เสวยผลทานนั้น พึงรีบกลับมาบอกเหตุที่มีจริง แก่เรา เราฟังคำอันมีเหตุผลควรเ่ชื่อถือได้แล้ว จักทำการบูชาบ้าง
จูฬเศรษฐีเปรต ทูลรับพระดำรัสแล้ว ได้ไปยังอันธกาวินทนครนั้น
แต่ไม่ได้รับผลแห่งทานนั้นเพราะพราหมณ์ทั้งหลายที่บริโภคภัต เป็นผู้ไม่มีศีล ไม่สมควรแก่ทักษิณา (ของทำบุญ)
ภายหลังจูฬเศรษฐีเปรต กลับมาสู่นครราชคฤห์อีก ได้ไปแสดงกายให้ปรากฏ เฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าอชาตศัตรูผู้เป็นใหญ่กว่าหมู่ชน พระราชาทอดพระเนตรเห็นเปรตนั้นกลับมาอีก จึงตรัสถามว่า เราจะให้ทานอะไร ถ้าเหตุที่จะให้ท่านอิ่มหนำตลอดกาลมีอยู่ไซร้ ขอท่านจงบอกเหตุนั้นแก่เรา……

การให้ทานของคนฉลาด เล่ม 37 หน้า 488

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัปปุริสทาน (ทานของผู้ฉลาด) 8 ประการนี้ 8 ประการเป็นไฉน คือ
1. ให้ของสะอาด
2. ให้ของประณีต
3. ให้ตามกาล (คือ อาหารทั้งหลายที่จะถวายพระต้องก่อนเที่ยงตรงเท่านั้นและต้องไม่ดิบด้วย)
4. ให้ของสมควร ( เงิน – ทอง - ไก่ – หมา – แมว – วัว – ควาย –
เสื้อผ้า – ข้าวสาร เป็นต้น ห้ามถวายพระเด็ดขาด)
5. เลือกให้ ( คือต้องรู้จักพิจารณาดูพระที่เราให้ทานด้วยนั้น
เป็นพระที่ปฏิบัติได้ถูกต้องตามธรรม – วินัย หรือเปล่า?)
6. ให้เนืองนิตย์
7. เมื่อให้จิตผ่องใส
8. ให้แล้วดีใจ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัปปุริสทาน 8 ประการนี้แล.

สัปบุรุษย่อมให้ทาน คือ ข้าวและน้ำที่ สะอาด ประณีตตามกาล สมควร เนืองนิตย์ ในผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ผู้เป็นเขต (บุญ) ดี บริจาคของมากแล้วก็ไม่รู้สึกเสียดาย ท่านผู้มีปัญญาเห็นแจ้ง
ย่อมสรรเสริญทานที่สัปบุรุษให้แล้วอย่างนี้ บัณฑิตผู้มีศรัทธา มีใจอันสละแล้ว บริจาคทานอย่างนี้แล้ว ย่อมเข้าถึงโลกอันไม่มีความเบียดเบียนเป็นสุข.

เล่ม 49 หน้า 30

บุคคลผู้ไม่ตระหนี่ ควรทำเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง คือปรารภถึงบุรพเปตชน (นึกถึงบรรพบุรุษผุ้ตายไป) หรือเทวดาผู้สิงอยู่ในเรือน หรือท้าวมหาราชทั้ง ๔ ผู้รักษาโลก ผู้มียศ คือ ท้าวธตรฐ ๑ ท้าววิรุฬหก ๑ ท้าววิรูปักษ์ ๑ ท้าวกุเวร ๑ ให้เป็นอารมณ์แล้วพึงให้ทาน

ท่านเหล่านั้นเป็นอันบุคคลได้บูชาแล้ว และทายก (ผู้ให้ทาน) ก็ไม่ไร้ผล

ความร้องไห้ ความเศร้าโศก หรือความร่ำไห้อย่างอื่น ไม่ควรทำเลยเพราะความร้องไห้เป็นต้นนั้น ย่อมไม่เป็น ประโยชน์แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ญาติทั้งหลาย (ที่ตายไป) คงตั้งอยู่ตามธรรมดาของตน ๆ อันทักษิณาทาน (สิ่งของทำบุญ) นี้ที่ท่านเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในสงฆ์ ให้แล้ว (อุทิศให้ญาติที่ตายไป) ย่อมสำเร็จประโยชน์แก่บุรพเปตชนโดยทันที สิ้นกาลนาน.

การที่ปัญญาจะประจักษ์แจ้ง

"ลักษณะของสภาพธรรม-ตามความเป็นจริง" ได้นั้น

ก็จะต้อง "เข้าใจถูก" ตั้งแต่เบื้องต้น ว่า

สภาพธรรม ที่ปัญญาจะประจักษ์แจ้ง-ตามความเป็นจริง" นั้น

คือ อะไร..............?


..........................คือ

ทุกสิ่งที่เป็นของจริง

ที่กำลังปรากฏ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

ในขณะนี้เอง.


แสดงว่า ทุกขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น

ลิ้มรส รู้โผฏฐัพพะ และ คิดนึก

ไม่ได้รู้ลักษณะของสภาพธรรม

"ตรงตามความเป็นจริง-ของสภาพธรรมนั้น ๆ"


พระผู้มีพระภาค ทรงแสดงสภาพธรรมที่เกิดขึ้น-ปรากฏ-เป็นไป

ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

ทุกวัน....ทุกขณะจิต....อย่างละเอียด

เพื่อให้เห็นโทษของอกุศลธรรม และ ภัยของสังสารวัฏฏ์.


ซึ่งเมื่อยังไม่เห็นโทษภัยของสังสารวัฏฏ์

ก็ย่อมไม่เพียรที่จะ "อบรมเจริญวิปัสสนา"

ซึ่งเป็น "ปัญญา" ที่ประจักษ์แจ้ง-ลักษณะของสภาพธรรม

ที่กำลังปรากฏ-ตามปกติ-ตามความเป็นจริง

จนดับกิเลสได้.



เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทานกับคุณแม่และหลาน
เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน
รักษาศีล อาราธนาศีล และตั้งใจว่าจะเจริญอาโปกสิน เจริญวิปัสสนา ได้ปฏิบัติธรรม
กับุณแม่เป็นเวลานาน ได้ถวายข้าวพระพุทธรูป สักการะพระธาตุ
ทำงานบ้านช่วยพ่อแม่ทุกวัน และศึกษาการรักษาโรค
ผมกับคุณแม่ได้สวดมนต์ ฟังธรรมศึกษาธรรม
และสร้างบารมีครบทั้ง 10 อย่าง ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญสร้างพระพุทธรูปหน้าตัก 7 นิ้ว
ในวันอาทิตย์ ที่ 4 เม.ย.53
โทร.089-8973799

ขอให้สรรพสัตว์ทั้ง 31 ภพภูมิจงบรรลุมรรคผลนิพพานเทอญ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO