นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 03 พ.ค. 2024 10:34 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ในขณะ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 26 ม.ค. 2010 9:00 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4547
ในขณะปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น มีกลุ่มของรูปเกิดขึ้นพร้อมกัน ๓ กลุ่ม คือ

หทยทสก ๑ ภาวทสก ๑ กายทสก ๑

หทยรูป เป็นรูปที่เป็นที่เกิดของจิตและเจตสิก(หทยวัตถุ)

ภาวรูป คือ ความเป็นหญิง ความเป็นชาย

ชีวิตรูป คือ รูปที่รักษากัมมชรูป
พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 59

จริงอยู่ขันธ์ ๕ ของพวกคัพภไสยกสัตว์ย่อมปรากฏพร้อมกันไม่หลังไม่

ก่อนกันในขณะปฏิสนธิ. ข้อนี้ท่านกล่าวว่า ความสืบต่อแห่งรูป กล่าวคือ

กลละที่ปรากฏในขณะนั้น เป็นของนิดหน่อยมีเพียงแมลงวันตัวน้อยจะพึงดื่มได้

ด้วยความพยายามครั้งเดียวเท่านั้น ฯลฯ

ในสันตติรูปเล็กน้อยอย่างนี้ ยังมีสันตติรูปที่เป็นประธาน ๓ กลุ่ม คือ

วัตถุทสกะ ๑ กายทสกะ ๑ ภาวทสกะด้วยอำนาจอิตถินทรีย์ของหญิงและ

ด้วยอำนาจปุริสินทรีย์ของชาย ๑ บรรดาสันตติรูปทั้ง ๓ กลุ่มเหล่านั้น รูปนี้

คือวัตถุรูป ๑ มหาภูติรูป ๔ เป็นที่อาศัยของวัตถุรูปนั้น และวรรณะ คันธะ รสะ

โอชา รวม ๔ ที่อาศัยมหาภูตรูปนั้น และชีวิตรูป ๑ ชื่อว่า วัตถุทสกะ รูปนี้

คือ กายประสาท ๑ มหาภูตรูป ๔ ซึ่งเป็นที่อาศัยของกายประสาทนั้น

วรรณะคันธะ รสะ โอชา ๔ ซึ่งอาศัยมหาภูตรูปนั้น และชีวิตรูป ๑ ชื่อว่า กาย

ทสกะ รูปนี้คือ อิตถีภาวะ ของหญิง และปุริสภาวะของชาย ๑ มหาภูตรูป ๔

ซึ่งเป็นที่อาศัยภาวรูปนั้น วรรณะ คันธะ รสะ โอชา ๔ ซึ่งอาศัยมหาภูตรูป

นั้น และชีวิต อาศัยภาวรูปนั้น วรรณะ คันธะ รสะ โอชา ๔ ซึ่งอาศัยมหาภูต

รูปนั้น และชีวิต รูป ๑ ชื่อว่า ภาวทสกะ. กรรมชรูป (รูปเกิดแต่กรรม) ใน

ปฏิสนธิของคัพภไสยกสัตว์ กำหนดโดยสูงสุดมี ๓๐ ถ้วน ชื่อว่า รูปขันธ์

ด้วยประการฉะนี้.
อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 276

อธิบายภาวรูปและหทัยวัตถุ

รูปทั้ง ๒ ชื่อว่าภาวรูป เพราะทำวิเคราะห์ว่า เป็นเหตุให้เรียก

ว่าหญิงและให้รู้ว่าหญิงเป็นต้น ฯ ก็ภาวรูปนี้นั้น แผ่ไปอยู่ทั่วสรีระทั้ง

สิ้น เหมือนกายินทรีย์ ฯ ดวงหทัยนั่นแล เป็นที่อยู่ด้วย เพราะเป็นที่

อาศัยแห่งมโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่าหทัย-

วัตถุ ฯ จริงอย่างนั้น หทัยวัตถุนั้น มีความเป็นที่อาศัยแห่งธาตุทั้ง ๒

เป็นลักษณะ ฯ ก็หทัยวัตถุนั้น อาศัยโลหิตในภายในกล่องดวงหทัยมี

ประมาณซองมือเป็นไป ฯ บัณฑิตพึงทราบว่า หทัยวัตถุนั้น แม้พระ

ผู้มีพระภาคเจ้ามิได้ตรัสไว้ในรูปกัณฑ์ ก็ชื่อว่ามีอยู่โดยปกรณ์ (อาคม)

และโดยยุกติ ฯ ในปกรณ์และยุกติทั้ง ๒ นั้น คำในปัฏฐานซึ่งมาแล้ว

อย่างนี้ว่า รูปที่มโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุอาศัยเป็นไปนั้น เป็นปัจจัย

โดยความเป็นนิสัยปัจจัยแก่มโนธาตุ มโนวิญญาณธาตุ และธรรมอัน

สัมปยุตด้วยธาตุคู่นั้น ชื่อว่า ปกรณ์ (อาคม) ฯ ส่วนยุกติพึงทราบ

อย่างนี้


อธิบายชีวิตรูป

ที่ชื่อว่าชีวิตรูป เพราะอรรถว่า เป็นเครื่องเป็นอยู่แห่งสหชาต-

ธรรม ฯ ชีวิตนั้นนั่นแล ชื่อว่าเป็นใหญ่ เพราะประกอบด้วยความ

เป็นใหญ่ในการเลี้ยงดูกัมมชรูป เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่าชีวิตนทรีย์ ฯ

จริงอย่างนั้น ชีวิตนทรีย์นี้ มีการเลี้ยงดูกัมมชรูปเป็นลักษณะ ฯ ก็

ชีวิตนทรีย์นั้น เลี้ยงดูสหชาตธรรมทั้งหลาย แม้ที่ตั้งอยู่ชั่วขณะตามปัจจัย

ของตน โดยความเป็นเหตุแห่งความเป็นไปทีเดียว ฯ กรรมเท่านั้น

จะเป็นเหตุตั้งอยู่แห่งสหชาตธรรมเหล่านั้น ดุจอาหารเป็นต้นเป็นเหตุ

ตั้งอยู่แห่งรูปที่เกิดแต่อาหารเป็นต้นหามิได้เลย เพราะกรรมไม่มีในขณะ

นั้น ฯ ไฟกับแต่ชีวิตนทรีย์นี้ที่ยังอาหารให้ย่อมซึมซาบไปทั่วร่างกายที่มี

ใจครองตลอดหมด ฯ
ขณะปฏิสนธิของบุคคลที่เกิดในครรภ์มีรูปที่เกิด 3 กลุ่มคือ กายทสก ภาวทสก

หทยทสก เป็นกลุ่มของรูป ไม่ใช่รูปรูปเดียว เช่น กายทสก ประกอบด้วยอวินิโภครูป 8

กายปสาทรูป 1 ชีวิตรูป 1 รวมกันเป็น 10 รูป ดังนั้นรูปที่เกิดจากกรรมต้องมีชีวิตรูปด้วย
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า เมื่อใด เทวดา เป็นผู้จะต้องจุติ(เคลื่อน)จากความ

เป็นเทวดา เมื่อนั้น จะมีบุพนิมิต (เครื่องหมายที่ปรากฏก่อน) ๕ ประการ คือ ๑. ดอกไม้

ที่ตนประดับ เหี่ยวแห้ง ๒. ผ้าที่ตนนุ่งห่ม มีความเศร้าหมอง ๓. เหงื่อไหลออก

จากรักแร้ ๔. ผิวพรรณแห่งกาย เศร้าหมอง ๕. ไม่ยินดีในอาสนะอันเป็นทิพย์ของตน

ซึ่งหมายความว่าอีก ๗ วัน(โดยการนับวันในมนุษย์) เทวดาตนนั้นจะต้องเคลื่อนจาก

ความเป็นเทวดา เมื่อเทวดาทั้งหลาย เห็นความเป็นไปอย่างนั้น ก็จะกล่าวอวยพร

เทวดาตนนั้นว่า ขอให้ท่านได้เกิดเป็นมนุษย์ ขอให้เป็นผู้ได้ศรัทธา และมีศรัทธาที่มั่น

คง อย่าได้กระทำทุจริตทั้งทางกาย วาจา และ ใจ ขอให้เป็นผู้ได้กระทำกุศลให้มาก ๆ

เพื่อจะได้กลับมายังเทวโลกอีก.


เอาบุญมาฝากได้ตื่นแต่เช้า ฟังธรรม สวดมนต์ อาราธนาศีล เจริญอนุสติกรรมฐาน 8 อย่าง
นั่งสมาธิ เดินจงกรม ใส่บาตรตอนเช้าโดยท่องคำถวายสังฆทานเป็นสังฆทาน
กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธรูป สักการะพระธาตุ รักษาศีล กำหนดอิริยาบทย่อย
อนุโมทนากับผู้ใส่บาตรตามถนนหนทางหลายสาย ได้อฐิษฐานจิต ให้ธรรมะเป็นทาน
ให้อภัยทาน และตั้งใจว่าจะศึกษาธรรม ฟังธรรม ศึกษาการรักษาโรค
สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม และทำบารมี ให้ ครบ 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญทัวว์บุญกับคณะ 25 งานบุญ จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิต สุโขทัย กำแพงเพชร ชัยนาท
ตั้งแต่วันพุธที่ 17-วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ รถแร์ 2000บาท รถพัดลม 1400
บาทเริ่มออกเดินทางวัน พุธเวลา 19.30 น.ออกเดินทางจากสโมสรนายทหารอากาศบางซื่อ
สนใจติดต่อ 029146307


*********************


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO