นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 03 พ.ค. 2024 8:50 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ความเห็น
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 03 ม.ค. 2010 4:08 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4547
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภการสนทนา

ของภิกษุมากรูปด้วยกัน ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " สุโข พุทฺธาน-

มุปฺปาโท " เป็นต้น.

ความเห็นในปัญหาต่าง ๆ กัน

ความพิสดารว่า วันหนึ่ง ภิกษุ ๕๐๐ รูปนั่งในศาลาเป็นที่บำรุง

สนทนากันว่า " ผู้มีอายุทั้งหลาย อะไรหนอแล เป็นสุขในโลกนี้ ? "

บรรดาภิกษุเหล่านั้น บางพวกกล่าวว่า " ชื่อว่าสุข เช่นกับด้วยสุข

ในราชสมบัติ ย่อมไม่มี. " บางพวกกล่าวว่า " ชื่อว่าสุข เช่นกับด้วยสุข

ในกาม ย่อมไม่มี. " บางพวกกล่าวว่า " ชื่อว่าสุข เช่นกับด้วยสุขอันเกิด

แต่การบริโภคข้าวสาลีและเนื้อ ย่อมไม่มี. "

พระศาสดาทรงแก้ปัญหานั้น

พระศาสดา เสด็จมาสู่ที่ ๆ ภิกษุเหล่านั้นนั่งแล้ว ตรัสถามว่า

" ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอนั่งประชุมกันด้วยถ้อยคำอะไรหนอ ? " เมื่อ

ภิกษุเหล่านั้น กราบทูลว่า " ด้วยถ้อยคำชื่อนี้, " จึงตรัสว่า " ภิกษุ

ทั้งหลาย พวกเธอกล่าวอะไร ? ก็ความสุขนี้แม้ทั้งหมด นับเนื่องด้วยทุกข์

ในวัฏฏะทั้งนั้น. แต่เหตุนี้เท่านั้นคือ ความเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้า การ

ฟังธรรม ความพร้อมเพรียงของหมู่ ความเป็นผู้ปรองดองกัน เป็นสุขใน

โลกนี้ " ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-

๘. สุโข พุทฺธานํ อุปฺปาโท สุขา สทฺธมฺมเทสนา

สุขา สงฺฆส ส สามคฺคี สมคฺคานํ ตโป สุโข.

" ความเกิดขึ้นเเห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็น

เหตุนำสุขมา, การแสดงธรรมของสัตบุรุษ เป็นเหตุ

นำสุขมา, ความพร้อมเพรียงของหมู่ เป็นเหตุนำสุข

มา, ความเพียรของชนผู้พร้อมเพรียงกัน เป็นเหตุนำ

สุขมา."

แก้อรรถ

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า พุทฺธานมุปฺปาโท ความว่า พระ-

พุทธเจ้าทั้งหลาย เมื่อทรงอุบัติขึ้น ย่อมยังมหาชนให้ข้ามจากความกันดาร

ทั้งหลาย มีความกันดารคือราคะเป็นต้น เหตุใด. เหตุนั้น ความเกิดขึ้น

แห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จึงชื่อว่าเป็นเหตุนำสุขมา. สัตว์ทั้งหลายผู้มีทุกข์

มีชาติเป็นต้นเป็นธรรม. อาศัยการแสดงธรรมของสัตบุรุษ ย่อมพ้นจาก

ทุกข์ทั้งหลาย มีชาติเป็นต้น เหตุใด. เหตุนั้น การแสดงธรรมของสัตบุรุษ

จึงชื่อว่าเป็นเหตุนำสุขมา. ความเป็นผู้มีจิตเสมอกัน ชื่อว่าสามัคคี. แม้

สามัคคีนั้น ก็ชื่อว่าเป็นเหตุนำสุขมาโดยแท้. อนึ่ง การเรียนพระพุทธพจน์

ก็ดี การรักษาธุดงค์ทั้งหลายก็ดี การทำสมณธรรมก็ดี ของเหล่าชนผู้

พร้อมเพรียงกัน คือผู้มีจิตเป็นอันเดียวกัน เป็นเหตุนำสุขมา เหตุใด,

เหตุนั้น พระศาสดาจึงตรัสว่า " สมคฺคานํ ตโป สุโข. " เพราะเหตุนั้น

นั่นแหละ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้ว่า " ภิกษุทั้งหลาย ก็พวก

ภิกษุจักพร้อมเพรียงกันประชุม, จักพร้อมเพรียงกันเลิก (ประชุม), จัก

พร้อมเพรียงกันทำกิจที่ควรทำของหมู่, ตลอดกาลเพียงใด; ภิกษุทั้งหลาย

ความเจริญฝ่ายเดียว อันภิกษุทั้งหลายพึงหวังได้, ความเสื่อมอันภิกษุทั้งหลาย

ไม่พึงหวังได้ ตลอดกาลเพียงนั้น. "

ในกาลจบเทศนา ภิกษุเป็นอันมากตั้งอยู่ในอรหัตผลแล้ว. เทศนา

ได้มีประโยชน์แม้แก่มหาชนแล้ว ดังนี้แล.

เรื่องสัมพหุลภิกขุ จบ

พระพุทธศาสนา หมายถึง คำสอนของท่านผู้รู้ คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

ซึ่งเป็นบุคคลผู้เลิศ เป็นบุคคลผู้ประเสริฐที่สุดในโลก กว่าที่พระองค์จะได้ตรัสรู้

เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า นั้น พระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาถึงสี่อสงไขย

กับอีกแสนกัปป์ (ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานมาก) เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ทรงมี

พระมหากรุณาธิคุณที่จะเกื้อกูลสัตว์โลกให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวง พระองค์จึงทรงแสดง

พระธรรม เพื่อให้พุทธบริษัทมีความเข้าใจถูก เห็นถูกเป็นปัญญาของตนเอง เพื่อเข้าใจ

ในลักษณะของสภาพธรรมทั้งหลายทั้งปวง ตามความเป็นจริง

แต่เนื่องจากพระธรรม

ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง มีความละเอียดลึกซึ้ง ยากที่จะเข้าใจได้ ต้องใช้เวลา

ในการศึกษา ในการฟัง ในการอบรมเจริญปัญญา อันยาวนาน

เพราะฉะนั้นแล้ว จึงต้อง

มีความอดทนที่จะฟัง ที่จะศึกษา ที่จะสนทนา สอบถามจากกัลยาณมิตรผู้ที่มีความเข้า

ใจธรรม ต่อไปอย่างไม่ท้อถอย

"...พระกุมาบุตรเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า

การฟังเป็นความดี

ความประพฤติมักน้อยเป็นความดี

การอยู่โดยไม่ห่วงใยเป็นความดีทุกเมื่อ

การถามสิ่งที่เป็นประโยชน์เป็นความดี

การทำตามโอวาทโดยเคารพเป็นความดี

กิจมีการฟังเป็นต้นนี้

เป็นเครื่องสงบของผู้ไม่มีกังวล..."





เอาบุญมาฝากได้กำหนดอิริยาบทย่อยแต่เช้ามืด และเมื่อวานนี้ได้รักษา

อาการป่วยของแม่และได้ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน และเมื่อเย็นเมื่อวานนี้ได้

นิมนต์พระภิกษุมา 9 รูป และคุณป้าได้เชิญชวนผู้คนทั้งหมู่บ้านมาสวดมนต์

และหลังจากนั้นได้ชวนคุณแม่สวดมนต์ และได้ฟังธรรม และวันนี้คุณป้าก็จะ

นิมนต์พระภิกษุมา 9 รูปเพื่อทำบุญเลี้ยงพระ และเมื่อวานนี้ได้ทำความสะอาด

เกบขยะภายในวัด และที่สาธารณะ และวันนี้ตั้งใจว่าจะนั่งสมาธิ เดินจงกรม

สวดมนต์ กำหนดอิริยาบทย่อย เจริญอนุสติหลายอย่าง ถวายสังฆทาน

ให้ธรรมะเป็นทาน ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย



ขอเชิญสักการะหลวงพ่อโต อยู่ ณ วัดบางพลีใหญ่

วัดบางพลีใหญ่ ตั้งอยู่ริมคลองสำโรง ที่ตำบลบางพลีใหญ่ ห่างจากประตูน้ำสำโรงไปประมาณ 13 กิโลเมตร เดิมชื่อวัดพลับพลาไชยชนะสงคราม สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในชัยชนะของพระองค์ ต่อมาได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์ใหญ่สมัยสุโขทัยปางมารวิชัยลืมเนตร หน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ เนื้อเป็นทองสัมฤทธิ์ เป็นที่เลื่อมใสของประชาชนโดยทั่วไปนาม หลวงพ่อโต วัดนี้จึงมีชื่อว่า วัดหลวงพ่อโต ชาวบางพลีได้อัญเชิญหลวงพ่อโตจำลองลงเรือ ในพิธีโยนบัวหรือรับบัวทุกปี ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11


ขอให้สรรพสัตว์ทั้ง 31 ภพภูมิบรรลุมรรคผลนิพพานทั่วกันเทอญ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO