นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 19 พ.ค. 2024 12:11 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ยาดีคือพระธรรม
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 08 ต.ค. 2009 7:28 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4563
ไม่มียาดีที่ไหนที่จะรักษาความเน่าเหม็นของอกุศลได้ นอกจากพระธรรม ปัญญา

ทางพุทธศาสนาเท่านั้น ที่จะรักษาความเน่าเหม็นของอกุศล ที่เกิดขึ้นสะสมในแต่ละ

วันซึ่งจะทำให้เน่าเหม็นยิ่งขึ้น เพราะในชีวิตแต่ละวันจะเห็นว่า ขณะที่ไม่เป็นไปกับ

การให้ทาน การวิรัติงดเว้นจากการกระทำบาป และการภาวนาแล้ว นอกนั้นเป็นไป

กับความเน่าเหม็น หมักหมนเพิ่มขึ้นของอกุศลสุดที่จะรักษาได้....... ยาที่ดีที่สุด คือ

พระธรรม หากไม่มีศรัทธาที่จะฟังพระธรรม รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้

ก็จะไม่สามารถรักษาความเน่าเหม็นของอกุศลได้ ไม่สามารถจะออกจากวัฏฏะสงสาร

ไปได้

การรู้ความจริงของสิ่งที่กำลัง

ปรากฏขณะนี้ ฟังดูไม่ยาก... แต่เข้าใจจริงๆบ้างหรือยังว่าทุกๆขณะที่กำลังปรากฏไม่

ว่าทางตา ทางหู..อะไรเป็นธรรมะ อะไรเป็นความจริงที่มีอยู่จริงๆที่กำลังปรากฏ ค่อยๆ

ฟัง ค่อยเข้าใจ.. .ขณะที่เห็นแล้วรู้สิ่งที่ปรากฏเป็นสติสัมปชัญญะ เพราะกำลังเริ่มรู้สิ่ง

ที่ปรากฏ ปัญญาเริ่มเข้าใจสิ่งที่ปรากฏ ธรรมะเป็นสิ่งที่ละเอียด ลึกซึ้ง อย่าเผินอย่า

หันหลังให้กับสิ่งที่กำลังปรากฏตรงหน้าขณะนี้ ไปหาสิ่งอื่น เพราะความไม่รู้ และความ

ต้องการจึงหันไปหาสิ่งอื่น ทำให้ไม่สามารถรู้ความจริงที่กำลังปรากฏอยู่ตรงหน้านี้ได้

ความจริงที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ ทรงแสดงความจริงของสิ่งที่มีจริง ที่กำลัง

ปรากฏ เป็นสิ่งที่ควรรู้ยิ่ง ซึ่งกำลังปรากฏอยู่ตรงหน้าตลอดเวลา ไม่ต้องไปรู้

แจ้งอริยสัจจธรรมที่อื่น ขณะนี้มีธรรมที่กำลังปรากฏให้เข้าใจ ให้ศึกษา ให้รู้

แจ้งอริยสัจจธรรมได้



ใน มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ สีหนาทวรรค

วนปัตถสูตร ข้อ ๒๓๔-๒๔๒

พระผู้มีพระภาคฯ

ทรงแสดงธรรมแก่พระภิกษุทั้งหลาย ว่า



ภิกษุ เข้าไปอาศัยบุคคลใด บุคคลหนึ่ง

แล้วกุศลธรรมไม่เจริญ ก็ไม่ควรพัวพันกับบุคคลนั้นเลย

ควรจะหลีกไปจากผู้นั้น โดยไม่ต้องบอก

ไม่ว่าจะเป็นในเวลากลางวัน หรือในกลางคืน ก็ตาม.


แต่บุคคลใด ที่ภิกษุเข้าไปอาศัย แล้วกุศลธรรมเจริญ

ก็ควรจะพัวพัน คือ คบหาสมาคมกับบุคคลนั้น จนตลอดชีวิต

ไม่ควรจะหลีกไป ถึงแม้ถูกขับไล่ก็ตาม.


ฯลฯ


ในอังคุตตรนิกาย นวกนิบาต สัมโพธวรรคที่ ๑

เสวนาสูตร ข้อ ๒๑๐


ท่านพระสารีบุตร

ได้แสดงธรรมที่พระผู้มีพระภาคฯ ทรงแสดงนี้

แก่ภิกษุทั้งหลาย

เพื่อให้เห็น ลักษณะของบุคคลที่ควรเสพ และ ไม่ควรเสพ ว่า


เมื่อคบหาบุคคลใด

แล้ว อกุศลธรรมเจริญ กุศลธรรมเสื่อม

ไม่ถึงความบริบูรณ์ด้วยภาวนา

ถ้ารู้อย่างนั้น ในเวลากลางคืน

ก็ให้หลีกไปเสีย ในเวลากลางคืน

โดยไม่ต้องบอกลา.


ถ้ารู้อย่างนั้น ในเวลากลางวัน

ก็ให้หลีกไปเสีย ในเวลากลางวัน

โดยไม่ต้องบอกลา.

พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ 551

เมตตาสูตร

ว่าด้วยอานิสงส์ของเมตตา ๑๑ ประการ

[๒๒๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อเมตตาเจโตวิมุตติ อันบุคคล

เสพแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นดุจยาน ทำให้เป็นที่ตั้ง ให้ตั้งมั่น

โดยลำดับ สั่งสมดีแล้ว ปรารภด้วยดีแล้ว พึงหวังอานิสงส์ ๑๑ ประการ

๑๑ ประการเป็นไฉน คือ ย่อมหลับเป็นสุข ๑ ย่อมตื่นเป็นสุข ๑ ย่อม

ไม่ฝันลามก ๑ ย่อมเป็นที่รักแห่งมนุษย์ทั้งหลาย ๑ ย่อมเป็นที่รักแห่ง

อมนุษย์ทั้งหลาย ๑ เทวดาทั้งหลายย่อมรักษา ๑ ไฟ ยาพิษหรือศัสตราย่อม

ไม่กล้ำกรายได้ ๑ จิตย่อมตั้งมั่นโดยรวดเร็ว ๑ สีหน้าย่อมผ่องใส ๑ เป็นผู้

ไม่หลงใหลทำกาละ ๑ เมื่อไม่แทงตลอดคุณอันยิ่ง ย่อมเป็นผู้เข้าถึงพรหม-

โลก ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อเมตตาเจโตวิมุตติ อันบุคคลเสพแล้ว

เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นดุจยาน ทำให้เป็นที่ตั้ง ให้ตั้งมั่นโดย

ลำดับ สั่งสมดีแล้ว ปรารภด้วยดีแล้ว พึงหวังอานิสงส์ ๑๑ ประการนี้แล.

จบเมตตาสูตรที่ ๕


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO