นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 20 พ.ค. 2024 1:05 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 24 ก.ย. 2009 11:39 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
32 re1.jpg


อิมัสมิง กาเย...

1. เกศา คือผม อย่าได้ชื่นชม ว่าผมโสภา ทั้งเก้าล้านเส้น ย่อมเป็นอนัตตา ครั้นแก่ชรา...กลับขาวน่าชัง

2. โลมา คือขน งอกทั่วตัวตน ก็เป็นอนิจจัง ได้เก้าโกฏิเส้น ล้วนเป็นอสุภัง น่าเกลียดน่าชัง...อย่าชมว่าดี

3. นะขา คือเล็บ ถอดหักมักเจ็บ ว่าเล็บกระสี ทั้งยี่สิบทัศ วิบัติอัปรีย์ แก่นสารไม่มี...วิปริตสาธารณ์

4. ทันตา คือฟัน สามสิบสองอัน ใช่แก่นใช่สาร คลอนขลุกหงุกหงัก หลุดหักสาธารณ์ ไม่ตั้งอยู่นาน... ควรคิดอนิจจา

5. ตะโจ คือหนัง เปื่อยเน่าพองพัง ทั่วทั้งกายา ถ้าจะม้วนเข้า เท่าลูกพุทรา คนอันธพาลา...นับถือว่าดี

6. มังสัง คือเนื้อ เปื่อยเน่าบ่มีเหลือ เท่าเส้นเกศี ทั้งเก้าร้อยชิ้น ในกายอินทรีย์ ตายแล้วเป็นผี...รังเกียจเกลียดอาย

7. นะหารู คือเอ็น เก้าร้อยทำเข็ญ เมื่อยขบสารพางค์ ลุกโอยนั่งโอย รัญจวนครวญคราง ให้โทษทุกอย่าง...อย่าถือว่าดี

8. อัฐิ กระดูก เส้นรัดมัดผูก สามร้อยท่อนมี ล้วนเป็นอนัตตา อย่าชมว่าดี แก่นสารไม่มี...เครื่องถมแผ่นดิน หาปัญญาไม่ รักใคร่อาจิณ จะเพิ่มพูนดิน...บ่ได้คิดถึง อวิชชาหุ้มห่อ ผูกรัดมัดรึง หลงรักตะบึง...บ่คล้อยถอยหลัง

9. อัฏฐิมิญชัง เยื่อในกระดูก เพลิงร้อนต้องถูก ละลายไหลหลั่ง เหม็นขื่นเหม็นเขียว น่าเกลียดน่าชัง ควรคิดอนิจจัง...ทุกขังอนัตตา

10. วักกัง คือม้าม แต่ล้วนไม่งาม โสโครกหนักหนา เครื่องเปื่อยเครื่องเน่า ถมแผ่นพสุธา ครั้นสิ้นชีวา...แร้งกาแย่งกิน

11. หะทะยัง หัวใจ ม้ามปกคลุมไว้ ในอกอาจิณ สิ้นลมระบาย สุนัขกากิน เครื่องเน่าทั้งสิ้น...ไม่เหลือสักอัน

12. ยะกะนัง คือตับ เป็นชิ้นประทับ กับหว่างนมนั้น กำหนดโดยสี สีแดงแสงฉัน เครื่องเน่าทั้งนั้น...ในกายอินทรีย์

13. กิโลมะกัง พังผืดนั้นเล่า พระสรรเพชญ์เจ้า กำหนดโดยสี เหมือนทุกุลพัสตร์ ที่ผ้าพอดี เก่า ๆ เศร้าสี...มิสู้งามตา เป็นเครื่องสาธารณ์ อาหารแร้งกา ควรคิดอนิจจา...อย่าได้ละวาง

14. ปิหะกัง คือพุง จงตั้งจิตมุ่ง อย่าเหินอย่าห่าง เอาเป็นกัมมัฏฐาน อย่าได้ละวาง พุงมีสีอย่าง...ดอกคนทิสอ สัณฐานพุงนั้น เหมือนสีโคมอ อาศัยอยู่ต่อ...ที่ท้ายดวงใจ

15. ปัปผาสัง คือปอด เอาปัญญาสอด ส่องลงภายใน ให้เห็นอนิจจัง ประจักษ์แจ่มใส สีปอดนั้นไซร้...แดง ๆ สำราญ สามสิบสองชิ้น ติดกันสัณฐาน เหมือนขนมหวาน...ตัดชิ้นเสี้ยว ๆ

16. อันตัง ไส้ใหญ่ เป็นสายยาวเรียว เป็นขดลดเลี้ยว...ยี่สิบแปดขด ไส้ชายกำหนด สามสิบสองศอก ว่ายืดยาวออก...กว่าไส้สตรี ไส้หญิงสั้นกว่า สี่ศอกโดยมี กำหนดโดยสี...เหมือนฉาบปูนขาว เบื้องบนนั้นยาว ตลอดลำคอ เบื้องต่ำนั้นต่อ...ทวารเบื้องใต้

17. อันตะคุณัง ไส้น้อยกำหนด รัดขดไส้ใหญ่ บางทีรัดไว้...บางทีโยนยาน

18. อุทะริยัง คืออาหารใหม่ เข้าอยู่ในไส้ เหมือนไถ้ข้าวสาร

19. กะรีสัง คืออาหารเก่า ลงเข้าทวาร เหม็นพ้นประมาณ...รังเกียจเกลียดชัง

20. ปิตตัง คือดี เขียว ๆ โดยสี ดีมีสองอย่าง อย่างหนึ่งดีฝัก ซับซาบสารพางค์ ดีทั้งสองอย่าง...อสุจิอสุภัง

21. เสมหัง เสลดข้น เป็นไขไหลล้น น่าเกลียดน่าชัง ท่านผู้บัณฑิต ควรคิดอนิจจัง เสลดนี้ปิดบัง...อยู่บนอาหาร

22. ปุปโพ คือหนอง เกิดแต่พุพอง เปื่อยเน่าทุกประการ

23. โลหิตัง คือเลือด เหลวไหลซาบซ่าน ทั่วกายทวาร...สีแดงดังชาด เลือดข้นนั้นไซร้ พอได้เต็มบาตร เป็นอาโปธาตุ...ชังอยู่ในท้อง ทับท่วมหัวใจ ตับไตทั้งผอง พึงระลึกตรึกตรอง...ให้เห็นอนัตตา

24. เสโท คือเหงื่อ ซาบอยู่ในเนื้อ ทั่วทั้งสรีรา ต้องร้อนไหลหลั่ง เทพังออกมา โซมทั่วกายา...น่าเกลียดน่าอาย

25. เมโท คือมันข้น ซาบอยู่ในตน ทั่วทั้งสารพางค์ สีเหมือนขมิ้น เหลืองอ่อนจาง ๆ เหม็นสาบเหม็นสาง...โสโครกหนักหนา

26. อัสสุ น้ำเนตร โทมนัสเป็นเหตุ ไหลหลั่งออกมา จากคลองจักษุ ทั้งสองซ้ายขวา เป็นท่อธารา...หยาดย้อยฟูมฟอง

27. วะสา มันเหลว ต้องร้อนไหลนอง ปลงสติติตรอง...ให้เห็นอนัตตา

28. เขโฬ น้ำลาย ที่เหลวอยู่ปลาย ประเทศชิวหา ข้นอยู่ปลายลิ้น ไหลออกอัตรา เร่งคิดอนิจจา...อย่าหลงว่าดี

29. สิงฆานิกา น้ำมูก ออกช่องจมูก เห็นน่าบัดสี บ้างขังบ้างไหล มิใช่พอดี โสโครกเต็มที...น่าเกลียดน่าอาย

30. ละสิกา ไขข้อ อยู่ที่ข้อต่อ กระดูกร่างกาย เหมือนไขทาเพลา แห่งเกวียนทั้งหลาย อย่าได้มั่นหมาย...ว่าเป็นของดี เร่งคิดสังเวช จิตตั้งสังเกต ถึงกายอินทรีย์ ปัญญาส่องมอง ตามคลองวิถี โดยพระบาลี... ว่าไว้ในสูตร

31. มุตตัง มูตรเน่า คืออาหารเก่า แบ่งออกเป็นมูตร ยิ่งเก่ายิ่งเหม็น ยิ่งเน่ายิ่งบูด รู้ว่าเป็นมูตร...แสยงขนพอง

32. มัตถะเก มัตถะลุงคัง เยื่อในศีรษะ...คือแป้งสามปั้น อยู่ในสมอง ต้องร้อนเมื่อไร เหลวไหลออกนอง อย่าได้คิดปอง...ว่าเป็นแก่นสารเลยฯ

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO