พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

มันทรมานจริง ๆ

ศุกร์ 11 ก.ย. 2009 12:33 am

การฝึกตนนั้นมันเต็มไปด้วยการฝึกการฝืน เพราะธรรมชาติของคนเราก็เหมือนธรรมชาติของน้ำที่คอยจะไหลลงต่ำเสมอ คนที่บัญญัติศัพท์คำว่า "อบรม" นี่ช่างเหมาะเจาะจริง ๆ คือทั้งอบทั้งรม เหมือนไม้ที่จะเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องผ่านการอบให้แห้ง ไม่ให้ยืดหรือหดตัว แล้วก็ยังมีการรมกันเชื้อราและเพิ่มความสวยงาม จึงสามารถนำไปใช้งานใช้การได้ดี

อย่างที่พระท่านสวด "กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมา อัพยากตาธัมมาฯ" ธรรมชาตินั้นมีทั้งที่เป็นกุศล อกุศล และกลาง ๆ ธรรมชาติของเด็กก็เช่นกัน หากเราไม่สอนให้เขารู้จักขับถ่าย ทิ้งขยะให้ถูกที่ เขาก็จะทำไปตามสะดวกด้วยความไม่รู้ นี้เรียกว่าธรรมชาติที่เป็นอกุสลา แต่เพราะคุณพ่อคุณแม่สอนเขาฝึกเขา เขาจึงรู้จักข้อปฏิบัติที่เป็นกุสลา

หลวงปู่สอนให้ภาวนาไว้เสมอ เป้าหมายก็คือพัฒนาจิตของเราให้ยิ่งขึ้น ๆ ทั้งด้านสมาธิและปัญญา ก็โดยอาศัยการฝึกการฝืน ซึ่งธรรมชาติที่เป็นอกุสลามันก็คอยจะบอกเราว่า "ยังเช้าอยู่ขอพักผ่อนอีกหน่อย หรือไม่ก็ดึกไปแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปทำงานไม่สดชื่น นอนก่อนดีกว่า หรือวันนี้ก็พอสมควรแก่เวลาแล้ว พรุ่งนี้ค่อยปฏิบัติใหม่ หรือเวลาโกรธใครก็อาจบอกตัวเองว่าขอพูดให้สะใจก่อนเถอะน่า แล้วค่อยปล่อยวาง ฯลฯ สารพัดที่กิเลสจะมีเหตุผลโน้มน้าวจิตใจเราให้เปลี่ยนจากกุลาธัมมา เป็นอกุสลาธัมมา

banchory.jpg
banchory.jpg (78.01 KiB) เปิดดู 962 ครั้ง


หากคิดว่าเป็น "ปลาเป็น" ก็ต้องออกแรงว่ายทวนน้ำ เว้นเสียแต่เป็น "ปลาตาย" ก็ปล่อยกายปล่อยใจให้ไหลไปตามน้ำ ตามกระแสของกิเลสคือความอยาก

พระพุทธองค์จึงตรัสว่า "บัณฑิตพึงฝึกตน"
ดูเครื่องหวายสิ กว่าจะทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่น่าใช้ ก็ล้วนต้องผ่านกระบวนการอบ การดัด การรม ฯลฯ จิตของเราก็เหมือนกัน มันต้องอาศัยการดัด การทำให้มีความเห็นให้ตรง การทำให้แกล้วกล้าอาจหาญร่าเริงในการปฏิบัติ การให้ให้เข้มแข็งไม่ย่อท้อต่ออารมณ์ที่ยั่วยุไปในทางขาดสติ

มันทรมานจริง ๆ สำหรับผู้ฝึกตัว แต่มันก็ให้ผลที่คุ้มค่าเป็นความสุขเย็นทั้งแก่ตัวเราเองและคนรอบข้างไปตามลำดับ กระทั่งการฝึกการฝืนของเรามันเป็นปรกติ เมื่อนั้นคำว่าทรมานก็จะหายไปในที่สุด

-------------------------------------------------
บทความจากพี่พรสิทธิ์

Re: มันทรมานจริง ๆ

ศุกร์ 11 ก.ย. 2009 10:15 pm

สงสัยผมจะเป็นปลาสาหัส
ไม่ตายแต่ว่ายทวนน้ำไม่ไหว
:sck: :sck: :icry: :icry:

Re: มันทรมานจริง ๆ

ศุกร์ 11 ก.ย. 2009 11:13 pm

เห็นภาพประกอบแล้ว ผมว่าปลาเป็น หรือ ตาย คงว่ายไม่ไหวแน่ ๆ :shock: :shock:

Re: มันทรมานจริง ๆ

เสาร์ 12 ก.ย. 2009 1:07 pm

ขอบคุณนักๆนะเจ้า น้องเด็กลึกลับ
ข้าเจ้าก็กำลังว่ายทวนน้ำอยู่...
แต่...น้ำหนักเกินไปสักหน่อย...
เอาเป็นว่าค่อยๆเลาะตลิ่งไปก่อนเน้อ
:vvhpy:

Re: มันทรมานจริง ๆ

เสาร์ 12 ก.ย. 2009 1:18 pm

ของผมเป็น "ปลาฟิชโช่" มาในซองไม่ต้องว่ายเลย... สบ๊าย ... สบาย ... :lol: :lol: :lol:

Re: มันทรมานจริง ๆ

อาทิตย์ 13 ก.ย. 2009 10:05 pm

ขอบพระคุณครับคุณน้องเด็กลึกลับ :)

ทุกชีวิตเมื่อเกิดมาแล้วย่อมต้องดำเนินชีวิตไปตามกระแสของกรรมหรือการกระทำที่เกิดจากเจตนาของจิตที่สั่งให้ทำ เรียนรู้ผิดชอบชั่วดีไปตามกระแสชีวิต และไม่ว่าจะดีหรือชั่วจะรวยจะจนสักเพียงใด เราท่านทุกคนย่อมต้องอยู่ในกระแสของสังสารวัฏร์ คือหนีไม่พ้นเกิด แก่ เจ็บ ตาย..

ในคลื่นกระแสของชีวิตที่เรากำลังเวีัยนว่ายอยู่นี้ บางคนก้อกำลังว่ายแบบสบายๆเพราะไม่ค่อยเจอคลื่นลม(วาสนาดี) บ้างก้อกำลังหลบตามโขดหินปะการัง(หลบเจ้าหนี้) บ้างลัดเลาะไปตามริมตลิ่งริมเสาบ้างลอยคออยู่บนผิวน้ำบ้าง(กำลังเมากับคลื่นชีวิต) บ้างก้อว่ายไปตามใต้ท้องปลาวาฬเพราะมีอาหารให้กินตลอด(มีผู้อุปถัมภ์) แต่ไม่ว่าท่านจะเป็นปลาแบบไหนและกำลังว่ายน้ำแบบใดก้อตาม ถ้าไม่มีสติในการแหวกว่ายก้ออาจจะเป็นเหมือนปลาตัวนี้..
p11-1[1].jpg
p11-1[1].jpg (81.49 KiB) เปิดดู 912 ครั้ง

พึงอย่าประมาทเป็นดีครับพี่น้อง :)

Re: มันทรมานจริง ๆ

อาทิตย์ 13 ก.ย. 2009 10:10 pm

0037.gif
0037.gif (8.73 KiB) เปิดดู 903 ครั้ง

เป็นอารายปายเนี่ยะ........

ดีชั่วรู้หมดแต่อดไม่ได้...เฮ้อ! :agy:

Re: มันทรมานจริง ๆ

จันทร์ 14 ก.ย. 2009 6:29 pm

:lol: :lol:
ตอบกระทู้