นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 15 ธ.ค. 2025 2:44 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ความเพียรพยายาม
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 15 ธ.ค. 2025 11:53 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 5147
"บุญผู้ดูแลพยาบาลภิกษุสามเณรผู้อาพาธ เท่ากับบุญได้อุปัฏฐากพระพุทธเจ้า

เรื่องนี้เฮาบ่ได้กล่าวเอง พระพุทธเจ้าท่านตรัสอานิสงส์เรื่องนี้ไว้แล้ว

บุญกุศลผู้อุปัฏฐากภิกษุสามเณรอาพาธนี้มีมาก มากขนาดที่ว่าจะติดตามบุคคลนั่นไปทุกภพชาติ จนถึงวันเข้าพระนิพพาน"

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม





จิตอิสระ
จิตข้างในเหมือนกับมันซ้อนกันอยู่
จิตซ้อนจิต ผู้รู้ซ้อนผู้รู้
เพราะมันมีตัวละเอียดลึกกว่าตัวที่เราเห็น
นี้เขาเรียกว่าฟอกจิตให้สะอาด
เราฟอกจิตของเราให้สะอาด
เข้าไปสะอาดเข้าไปเรื่อยๆ
สุดท้ายจิตปราศจากความสกปรก
จิตอิสระ ไม่มีความเศร้าหมอง

#หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล







ถ้าเราไม่ทำบาป ก็จะไม่มีความเดือดร้อน
ใครจะว่าอย่างไรก็ตาม เราไม่ว่าเขา
เขาติฉินนินทา เขาก็ว่าใส่ตัวเขาเอง

#โอวาทธรรมคำสอน
( หลวงปู่ขาว อนาลโย )
วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดหนองบัวลำภู
พระนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
สายของ พระอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

#หลวงปู่ขาว_อนาลโย
#วัดถ้ำกลองเพล #หลวงปู่ขาว






"สมบัติที่มนุษย์ต้องการ ไม่ทราบว่าจะกอบโกยเอาไปถึงไหน ได้มาก็เพียงแต่เอาเลี้ยงชีวิตเท่านั้น
เลี้ยงชีวิตให้นานตายหน่อย นั่นละประโยชน์
ของมนุษย์สมบัติ เพียงแค่นั้นแหละ "

โอวาทธรรม
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี





“มีบุญ กุศล มีหิริ (ละอายต่อบาป)
โอตตัปปะ (เกรงกลัวต่อบาป)
มีวินัย มีธรรม มีปัญญา มีได้มันต้องฝึกฝน ...
มันต้องเป็นของน้อย ไปสู่ของมาก
จากของยาก ต่อไป ก็ง่ายเอง” ...
...
หลวงปู่จาม มหาปุญโญ.




#เสบียงบุญ..!!
ชีวิตของเรานี้ หากจะหาเครื่องเปรียบเทียบ
ก็ให้เทียบกับใบไม้ก็ได้ เริ่มแต่กระจอกระจีปลายกิ่งปลายก้าน จากนั้นผลิสีเขียว กาบใบ ใบเขียว โตเต็มที่ แก่ แล้วก็เหลืองแดง ที่สุดก็ร่วงหล่นลงสู่ดิน

สัตว์ผู้เกิดมาย่อมตกหล่นดับตาย ตายแล้วไปสู่ปรโลก คือ โลกหน้า ด้วยบุญบ้าง ด้วยบาปบ้าง​ ในการเดินทางต้องมีเสบียง ต้องตระเตรียมอุปกรณ์สัมภาระเครื่องใช้เครื่องเสบียงอยู่กิน เพื่อความสะดวกปลอดภัย เหมือนกับการที่เราจะเดินทางไปที่นั้นที่นี่ ก็ต้องเตรียมสัมภาระไว้อีกมากมายนัก แต่การเดินทางในโลกนี้มีสิ้นสุดจุดหมายปลายทาง ไม่ยาวไกลส่วนการเดินทาง หนทางในวัฏฏะยาวนานและเกินไกลยิ่งนัก..!!

ผู้ท่องเที่ยวอยู่ในสังสารวัฏนี้ลำบากกับเสบียงบุญนี้มาก จึงจำต้องรวบรวมไว้ให้มาก คือ ทำบุญกุศล ทำความสุขใจอิ่มใจ ทำความรู้
ใส่ตนไว้ให้มากๆ คนเดินทางไกลขาดเสบียง
ก็ลำบาก คนเดินทางในสังสารวัฏขาดบุญกุศลก็ตกระกำลำบากในภพชาติต่างๆ ตกไปในกำเนิดต่างๆ อยู่ในภพแดนเกิด ๓ แดนกาม
โลก มนุษย์ สัตว์. เทวดา เทพเทวา. พรหมโลก พรหมทั้งหลาย คนบุญน้อยมาเกิดก็ลำบาก ติดขัด ข้องคาไปหมด ทุกข์ยากแม้ไปเกิดเป็นสัตว์ ก็เป็นสัตว์ที่ลำบาก ดูแลเลี้ยงไม่ดี ถูกทรมานกักขังเพราะไม่มีเสบียงคือ บุญ หากเมื่อรู้ตัวว่าตัวยังจะว่ายวนอยู่ในโลกนี้ ก็ให้ทำบุญ เพิ่มเติมธรรมะปัญญา ให้แน่นหนาพอกพูน ให้มากขึ้น และสำนึกอยู่เสมอๆ ว่า..
เรานี้ด้วยความลำบากในการเดินทางย่อมตกมาถึงอย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้น จงทำที่พึ่งแก่ตน รีบพยายามเป็นคนดีแต่โดยเร็ว ย้อนกลับ ผันตัวให้ตรง สะสมวันละเล็กวันละน้อย อย่าให้จิตร่อยหรอ การเพิ่มพูนทีละน้อยย่อมเติมเต็มมากขึ้นได้ จึงว่าอย่าประมาทว่า ...

#๑_ความสิ้นไปของบุญ
#๒_ความเพิ่มพูนของบุญ

ถ้ารู้สึกเบื่อหน่ายนักแล้วในสังสารวัฏนี้
ก็ให้รีบขจัดมลทินในใจ
สำรวจกิเลสในใจ กากมลทินในใจ

#๑_ความมักโกรธ
#๒_ความลบหลู่คุณท่าน_การไม่รู้คุณของท่าน #๓_ริษยา #๔_ตระหนี่
#๕_มายา #๖_มักอวด #๗_พูดปด
#๘_มิจฉาลามก #๙_มิจฉาทิฏฐิ

มลทินใจเหล่านี้มีอยู่ในใจตนมากน้อยเพียงใด เมื่อรู้ว่ามีก็ให้ละหักทิ้ง ให้ทำลาย ทุกชีวิตถูกชรานำไป ถึงวัยชราแล้ว เตรียมพร้อมที่จะตาย ตายแล้วจะไปด้วยกับอะไรบุญหรือบาป ช่วงระหว่างภพไม่มี ที่พักระหว่างภพไม่มี จะเตรียมอะไรบ้างก็เดี๋ยวนี้เท่านั้น จะให้ทาน จะรักษาศีล จะทำสมาธิจิตภาวนา ก็รีบให้ทัน
พอถึงเวลาก็ไปได้อย่างสบายใจ ตัดกังวลใดๆ หลับตาพร้อมที่จะตาย

"... เมื่อได้เสบียงแล้ว พอแล้วก็ให้พากเพียร
กำจัดมลทินของตนในตนทีละน้อย ทุกขณะโดยลำดับ กำจัดให้ได้ทุกวัน และบ่อยๆ ซ้ำๆ ย้ำๆ ทุกอิริยาบถ ทุกลมหายใจเอาความดีใส่ตัว กำจัดชั่วออกจากใจ เป็นกำไรของชีวิต
เมื่อคนทำดีได้มาก ก็เข้าใกล้พระนิพพานได้เท่านั้น ..."
------------------------------------------------------
#โอวาทธรรม
#หลวงปู่จาม_มหาปุญฺโญ
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ต.คำชะอี อ.คำชะอี
จ.มุกดาหาร (พ.ศ.๒๔๕๓-๒๕๕๖)





ระวังการปรุงของใจเราเองให้ถูกต้อง
...
จะสุขก็เพราะใจปรุงให้สุข
จะทุกข์ก็เพราะใจปรุงให้ทุกข์
ดังนั้นสิ่งที่ควรระมัดระวังที่สุด
คือการปรุงของใจคนนั้นแหละ
มิใช่การกระทำของคนอื่น
คนอื่นจะทำอย่างไร
เราระวังการปรุงของใจเราเองให้ถูกต้อง
แล้วความทุกข์ของเราจะไม่เกิด
เพราะการกระทำของเขาเลย
...
พระคติธรรม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
กรมหลวงวชิรญาณสังวร





"..พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนว่าอย่าประมาทเลย อย่าถึงประมาท อย่าประมาท มียศอย่าลืมยศ มีลาภอย่าหลงในลาภ มีสรรเสริญอย่าหลงในสรรเสริญ มันจะมีอะไรก็ให้มันมีเถอะในโลกนี้แต่อย่าเมามันนะ อย่าเมา ท่านไม่ให้เมา มันจะรวยก็ให้มันรวยถ้ามันจะรวยได้ มันจะจน เอาไว้ไม่ได้มันจะจนก็ให้มันจนไปอย่าไปเมามัน มีจนก็อย่าเมาจน มีรวยก็อย่าเมารวย วันมีทุกข์ก็อย่าเมาทุกข์ วันมีสุขก็อย่าเมาสุข วันมีหนุ่มก็อย่าเมาหนุ่ม วันมีแก่ก็อย่าเมาแก่ อย่าไปเมามันเลย เรื่องทั้งหลายเหล่านี้มันเปลี่ยน ๆ ๆ ไปอยู่อย่างเนี้ย ไม่ว่าใครต่อใครมันเป็นอยู่อย่างนี้.."

โอวาทธรรมคำสอน
พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
(พ.ศ.๒๔๖๑-๒๕๓๕)





" เมื่อความดีเกิดขึ้นแล้ว จะมีความดีใจ พอใจ ภูมิใจ ในชีวิตของตัวเอง ให้ลงทุนทำความดีในปัจจุบันชาตินี้ ให้เกิดขึ้น ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ของตัวเองให้ได้ ตามคำสอนของพุทธศาสนา ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่พระองค์วางไว้ "

โอวาทธรรม
หลวงปู่คำแปลง ปุณฺณชิ
วัดหนองบัวคำแสน อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู







"การให้ธรรมะพ่อแม่ เป็นการทดแทนพระคุณที่สูงสุด"(สมเด็จโต พรหมรังสี)

ลูกเอ๋ย...ยามที่พ่อแม่ของเจ้ามีอายุมากขึ้น ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียนความแข็งแรงของร่างกายที่เคยมีก็ลดลง ใจน้อย โกรธง่าย ความจำก็เสื่อมขี้หลงขี้ลืม จิตใจก็หมดความสุขสดชื่น ถึงแม้พวกเจ้าจะคอยเอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดสักเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจช่วยให้พ่อแม่ของเจ้ามีความสุขได้เต็มที่ เพราะพวกเจ้าทุกคนต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เจ้าช่วยท่านให้ได้รับความสุขเพียงการให้กินอยู่หลับนอน อันเป็นความสุขทางกายเท่านั้น แต่จิตใจของท่าน หาได้ร่าเริง

สดชื่น ผ่องใสไม่ ….

เจ้าจงจำไว้ว่า การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริงก็คือ การให้ธรรมะด้วยการสอนหลักธรรมง่ายๆให้พ่อแม่ของเจ้า พาท่านไปทำบุญทำทานสอนท่านให้รู้จักการปฏิบัติบูชา สวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตา ธรรมะจะอยู่ในจิตใจของพ่อแม่เจ้าทุกภพทุกชาติ ถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณที่สูงสุด

เจ้าจงจำไว้นะลูกเอ๋ย....."ธรรมโอสถ".....คำสอนของสมเด็จโต

ท่านได้บันทึกเอาไว้ด้วยลายมือของงท่าน อันเป็นอมตะวาจา
ขออนุญาตเผยแผ่เป็นธรรมทานเป็นอนุสติ




***ธรรมปกิณกะ***

"ปฏิบัติในศีลให้บริสุทธิ์"

..... ไอ้การบูชาด้วยการเอากระดูกมาเก็บไว้ แล้วก็หาดอกไม้ธูปเทียนมาเป็นเครื่องสักการะ การบูชาอย่างนี้มีผลเหมือนกัน แต่ว่าน้อยเต็มที บูชาพันครั้ง สู้การปฏิบัติบูชา คือปฏิบัติตามที่ท่านปฏิบัติมาแล้วครั้งเดียวไม่ได้ ย่อมมีอานิสงส์มากกว่า เพราะว่าการปฏิบัติตามท่าน ถ้าทำบ่อยๆอาจจะถึงอริยมรรค อริยผล อย่างท่านก็ได้ นี่เป็นเรื่องราวของหลวงพ่อโหน่ง ที่ฉันเล่าค้างไว้ นำมาเล่า ให้จบเรื่องแล้วก็จบอย่างย่อๆ พอที่ฉันรู้นะ เรื่องประวัติต่างๆ ยิ่งไปกว่านี้ฉันไม่รู้ เพราะว่าฉันยังเล็กมาก คำว่าเล็กนี่ หมายความว่ายังเป็นพระเล็กๆพรรษาน้อยๆ แต่ความสนใจยังมีน้อยในประวัติของคนอื่น เพราะตอนนั้นฉันก็สนใจอยู่แต่หลวงพ่อปานเท่านั้น เพราะฉันเป็นคนใกล้ชิด ฉันจะดูท่านทุกอย่าง มองท่านทุกอย่าง อยากจะลอกแบบปฏิปทาทุกอย่างของท่านไว้ แต่ฉันก็ทำไม่ได้ ทำได้เหมือนกัน แต่ก็เป็นบางอย่าง ไม่ใช่ทุกได้ทุกอย่าง บางประการที่ฉันได้ ไอ้ที่ฉันได้ก็คือ
๑. ไม่ติดสถานที่
๒. ไม่ติดบุคคล
๓. ไม่สะสมในทรัพย์ สมบัติ
๔. ชอบการก่อสร้าง เป็นสาธาณะไรนะ
๕. ปฏิบัติสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน
๖. มีจิตเมตตาปราณีแก่บุคคลผู้ควรเมตตา....(๙/๑๐)

โดย พระเดช พระคุณ
หลวงพ่อพระราชพรหมยานมหาเถระ
( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ )
วัดท่าซุงจังหวัดอุทัยธานี

'คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ๗๗'

"ทางสายพระอริยบุคคล"
๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๘






ศิษย์ : #เพื่อนกำลังจะไม่อยู่ในโลกนี้
พรุ่งนี้จะไปเยี่ยมเขา
#เขาไม่เคยปฏิบัติมาก่อน
ควรบอกเขาก่อนจะไปอย่างไรดีคะ
เพื่อให้เขาไปในที่ที่ดี

พระอาจารย์ : ก็อย่างนี้แหละ
มันจะเอากันง่ายๆ บอกปั๊บไปได้ปุ๊บเลย

แล้วคนที่มานั่งหลังคดหลังแข็งมานั่งรักษาศีลนี้
มันก็ไม่มีกำลังจิตกำลังใจที่จะปฏิบัติซิ

รอให้เวลาใกล้ตายแล้วให้เพื่อนมาบอกว่า
ไปที่ดีนะจ๊ะ พุทโธไปนะจ๊ะ

ทั้งปีทั้งชาติไม่ยอมพุทโธ
เวลาจะตายมันจะมีกระจิตกระใจจะพุทโธหรือ

อย่าไปทำอะไรเลย
ปล่อยให้เขาไปตามบุญตามกรรมของเขาเถอะ

สายไปเสียแล้ว เหมือนคนขึ้นเครื่องไปแล้ว
ไปทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว
ปล่อยเขาไป ..เครื่องจะออกแล้ว.

โอวาทธรรม
#พระอาจารย์สุชาติ_อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

#ที่มา สนทนาธรรมะบนเขา
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๙







เหมือนที่ท่านกล่าวกับ พาหิยะว่า เห็นก็สักว่าเห็น คือเห็นแล้วไม่ปรุงแต่ง ว่าเป็นเราเป็นของเราเป็นตัวของผม ทุกอย่างก็เป็นของโลก ได้เข้าใจความจริงว่า ทุกอย่างเป็นของโลก

เราไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ละอะไร เพียงแต่ให้รู้ความจริงว่ามันเป็นของโลก เราเพียงแต่พร้อม ยินดีที่จะคืนให้กับโลกเขาไปเท่านั้นเอง ตัวเราก็ไม่มีแล้ว ที่ได้กล่าวเอาวิชชาดับสังขารดับ คือพอมีความรู้ มีสติรู้ ความรู้เกิดขึ้น การปรุงแต่งมันก็ดับไป ความทุกข์มันก็ไม่เกิด

ที่เราทุกข์ก็เพราะว่า เราเห็นรูปเราก็มาปรุงแต่งดีไม่ดีสวยไม่สวย ถูกใจไม่ถูกใจ ฟังเสียงไพเราะไม่ไพเราะ เพราะเรายังมี อวิชชาคือความไม่รู้ คือไม่รู้ว่ามันไม่มีตัวมันไม่ใช่ของเรา แล้วเมื่อตื่นขึ้นมาก็รู้สึกสบายที่สุด เพราะความที่ไม่มีของเรา สรรพสิ่งล้วนเป็นของโลก

ที่บอกว่า บ่อน้ำที่มีปลาจำนวนมาก นั่นหมายถึงลาภสักการะ ทรัพย์สินเงินทอง สมบัติต่างๆ เหมือนกับคนฝันเห็นปลาจะได้ลาภ นั่นแหละ ทีนี้เราก็มัวมุ่งอยู่กับลาภนั้น จึงผ่านสระน้ำนั้นไปไม่ได้ สาละวนอยู่กับปลาในบ่ออยู่อย่างนั้น

ต่อมาก็ต้องผ่านงู คือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรา ที่เรารักเขา ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงผู้ชาย ญาติพี่น้อง เปรียบเสมือนงู ที่รึงรัดจิตใจเราเอาไว้ ถ้าเราผ่านงูไปได้ก็เหมือนเราผ่านสิ่งที่เรารักเราชอบไปได้ เพราะเรารู้ว่าสิงเหล่านั้นมันก็ไม่มีตัวมีตนอยู่จริง แต่ที่เราไปไม่ได ก็เพราะเรารักเอาไว้ ผูกพันธ์ ยึดมั่นถือมั่นเอาไว้

แล้วก็ไปผ่านสุนัข ซึ่งหมายถึงศรัตรูคนที่คิดทำร้ายเรา คนที่ไม่ชอบเราหรือคนที่โกรธเกลียดเรา เราก็พลอยไปโกรธไปเกลียดกับเขาเข้าไปอีก ต้องผ่านตรงนี้ไปได้อีกที่ ถึงจะขึ้นยอดเขาไปได้ พอไปถึงยอดเขาก็ไปนั่งกรรมฐานธรรมดาเหมือนที่เราเคยทำ

แต่ในนั้นมันเป็นนิมิตฝัน เขาก็มาบอกว่า หมดเวลาแล้ว แต่เราก็ไม่ได้มีความกลัวอะไร ตายก็ดีแล้วเราก็ไม่ต้องทุกข์ไม่ตองแบกสังขาร ไม่ต้องทรมาน เราพิจารณา ให้เป็นธาตุดิน ดินก็ไปสู่ดิน แต่ก็อัศจรรย์ตรงที่ว่าเมื่อพิจารณาว่าดินไปสู่ดินความรู้สึกว่าตัวเราก็ละลายหายไปเลย ดินก็ไปสู่ดิน น้ำก็ไปสู่น้ำ ลมไฟก็เหมือนกัน ความรู้สึกว่าตัวเรามันก็หายไปจริงๆ แล้วมันสบายที่สุด

สัจจะธรรม คำที่พ่อสอน
รวบรวมจากการสนทนาธรรมกับหลวงพ่อ
ณ.เรือนรับรอง วัดเกรียงไกรใต้ วันเสาร์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๖






“...ภาวนา พุท โธ ให้ได้ตลอดทุกลมหายใจเข้าออก อย่าขี้เกียจ ให้ได้ขันติอดทน ใช้ความเพียรพยายาม วิริยะอุตสาหะ ค่อยๆทำ ขี้เกียจก็ต้องทำ สะสมไปตามกำลังของตัวเอง...”

โอวาทธรรม:
หลวงปู่ล้วน จันทสาโร


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 33 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO