นวรัตน์ดอทคอม

"รัก ต้องการอยากได้

ชัง ไม่ต้องการ ไม่อยากได้

ทั้งสองมาจากโมหะ คือ ความหลง

ความรักเป็นไปในทางราคะ ความชังเป็นไปในทางโทสะ มาจากโมหะ คือ ความหลง

ทั้งสามเป็นไปคือเชื้อของภพ

ความจริงราคะ โทสะ โมหะ อยู่ที่จิต จิตจึงเป็นตัวก่อภพ"

หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย







#ธรรมะถึงใจ
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

"ร่างกายที่
ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย
มันไม่เห็นกลัว
ความแก่ ความเจ็บ ความตายเลย
แต่ใจมัน...
ไม่ได้แก่ ไม่ได้เจ็บ ไม่ได้ตาย
มันกลับไปกลัว
แทนร่างกายทำไม"

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร จ.ชลบุรี





ผู้ชายเมื่อถึง เวลาบวช อายุได้แล้ว ก็ไปบวช นั่นก็คือ ทดแทนบุญคุณ สร้างบุญ

สร้างบุญขึ้นมา แล้วตัวเองก็ได้ ให้พ่อแม่ได้ด้วย ที่นี้ผู้ที่เป็น อุบาสิกา ไม่สามารถ ที่จะบวชเป็นพระได้ ก็มาบวชเป็นชี

ถึงแม้ว่าเรา ไม่ได้โกนผม แต่ว่าเราบวชใจ ใจมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ธรรมะรุ่งอรุณ “ธรรมะปฏิสันถารการต้อนรับด้วยธรรมเป็นมงคลอันสูงสุด” หน้า ๕๕

สมเด็จพระญาณวชิโรดม พุทธาคมวิศิษฐ์ จิตตานุภาพ พัฒนดิลก สาธกธรรมวิจิตร วิเทศศาสนกิจไพศาล วิปัสสนาญาณธุราทร ธรรมยุตติกคณิสสรบวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี​ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สถิต​ ณ วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร​ พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร

#เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณวชิโรดม
#หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร





“ความอดทนนั้น มีประโยชน์อย่างไร แม้ว่า เราเคยอดทน มาแล้ว แต่ว่าเราก็ต้อง อดทนต่อไป

อดทนนั้น มีอยู่สามอย่าง คือ
อดทนต่อ ความลำบาก
อดทนต่อ ความตรากตรำ
อดทนต่อ ความเจ็บใจ

เราจะทำ สมาธิภาวนา เราจะทำบุญทาน การกุศล เราจะทำความดี ช่วยเหลือคนยากจน เราจะทำความดี ช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์ชาติ”

ธรรมะรุ่งอรุณ เล่ม ๓ หน้า ๔๘

สมเด็จพระญาณวชิโรดม พุทธาคมวิศิษฐ์ จิตตานุภาพ พัฒนดิลก สาธกธรรมวิจิตร วิเทศศาสนกิจไพศาล วิปัสสนาญาณธุราทร ธรรมยุตติกคณิสสรบวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี​ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สถิต​ ณ วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร​ กรุงเทพมหานคร

#เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณวชิโรดม
#หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร







..โอปะนะยิโกน้อมธรรมเข้ามาพิจารณาในตน มาพิจารณาที่ตน จึงจะเรียกว่าเป็นคนรักตน เหมือนศรัทธาญาติโยมมีความรักลูกรักหลาน รักเพื่อนรักฝูงก็ดี อยู่ด้วยความสามัคคีกัน ตักเตือนซึ่งกันและกัน คนหนึ่งได้ข้อมูลหนึ่งมาดี อีกคนหนึ่งไม่ดี ก็พากันแก้ไขกัน ก็อาศัยซึ่งกันและกัน ฉะนั้นคนก็ต้องอาศัยซึ่งกันและกันนี้ คนอื่นก็จะมองเราเมื่อเราทำไม่ดี คนอื่นเขาก็จะมองเห็น ว่าเราทำไม่ดี แต่ตนเองนั้นมองตนเองไม่เห็น ตรงนี้เป็นจุดสำคัญ เหตุฉะนั้นคนรักกันต้องมองดูตนเอง ชำระตนเองแก้ไขตนเอง พัฒนาตนเองในการประพฤติปฏิบัติ ถ้าคนเรามีความรักตนอย่างนี้นี่แหละ ก็เลยขวนขวายมองเห็นในสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ในการกระทำทั้งหลาย ลดละปล่อยวางด้วยตนเอง เหตุฉะนั้นคนที่รู้จักแก้ปัญหาของตนเองก็เลยเข้าใจในหลักธรรมว่า โอ..มันแก้ตรงนี้นี่เอง ถ้าเราไม่แก้ที่ตนเองเราไปสอนแต่คนอื่น จะเรียกว่าแก้ตนเองไหม ก็อย่างนี้แหละ เหมือนอย่างการทำบุญ ถ้าเราไม่ทำ เราพึ่งคนอื่นทำ มันก็เหมือนกับมันไม่ได้สมปรารถนา เมื่อทำด้วยตนเองแล้วก็เลยเต็มใจ ภูมิใจในการที่ได้ทำคุณงามความดี..

..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป..






#ทำแต่กายใจ ไม่ทำมันก็ขาดทุน
เพราะฉะนั้น การปฏิบัติมันต้องดู
เล่ห์เหลี่ยม ดูใจของเรา ใครจะพูด
ขนาดไหน มันก็ไม่เท่าใจเรา
เราต้องดูเราเอง ดูที่หัวใจลงไป
ขณะที่บำเพ็ญอยู่นั้น

ใจมันไม่สงบ เพราะใจไปคิดวุ่นวาย
สิ่งใด อย่างนี้เราต้องหาวิธีแก้ไข
อย่างที่เคยพูดบ่อยๆ แล้วว่า
ต้องใช้คำบริกรรม

เหมือนอย่างที่เราลอยคออยู่ในทะเล
เจอะท่อนไม้ได้อาศัยเกาะไปถึงฝั่งได้
ก็ไม่ถึงแก่ความตาย...

#หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท