พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
พฤหัสฯ. 06 พ.ย. 2025 5:38 am
จิตกับกายมันคนละส่วนกัน
เวลากายมันแตกจิตมันก็ออกไปหาที่เกิดใหม่
เฮาเฮ็ดดี มันกะไปสู่บ่อนดี
เฮาเฮ็ดชั่ว มันก็้พาเฮาไปบ่อนชั่ว
สำคัญอยู่ที่จิตที่ใจนั้นละ
ร่างกายเฮามันบ่ได้รู้เรื่องหยัง
มีแต่จิตเป็นผู้รับรู้พามันไปใสมันกะไปเดะกายเฮา
พาไปทำดีทำชั่วก็จิตใจอันเดียวนี้ละ ...
โอวาทธรรม
#หลวงปู่ปั่น สมาหิโต (อายุ ๙๙ ปี)
"... ธรรมที่พระพุทธเจ้าสอน
ไม่เหลือวิสัยที่คนเราจะปฏิบัติได้
ถ้าเหลือวิสัยแล้วพระพุทธองค์จะไม่สอน
ธรรมที่พระพุทธองค์สอนให้ผลได้จริง
เราเองต่างหากปฏิบัติไม่จริง เหลาะแหละ
แล้วจะให้ได้ผลได้อย่างไร ..."
โอวาทธรรรม หลวงปู่เลี่ยม ฐิตธมฺโม
"..ธุดงควัตรที่เกี่ยวกับการเยี่ยมป่าช้า เป็นธุดงค์เครื่องปลุกเตือนพระและหมู่ชนมิให้ประมาทในเวลามีชีวิตอยู่ โดยเข้าใจว่าตัวจะไม่ตาย ความจริงก็คือคนที่เริ่มตายเล็กตายน้อยตายไปอยู่ทุกเวลานั่นเอง เพราะคนที่ตายจนถึงกับย้ายบ้านใหม่ไปปลูกสร้างกันอยู่ที่ป่าช้าจนดาษดื่นแทบจะหาที่เผาและที่ฝังกันไม่ได้ ก็ล้วนแต่คนที่เคยตายเล็กตายน้อยมาแล้ว เช่น พวกเราผู้ยังมีชีวิตอยู่นี่เอง จะเป็นคนแปลกหน้ามาจากที่ไหน พอจะเห็นว่าเราเป็นคนที่แปลกกว่าเขา แล้วประมาทว่าตนจะไม่ตาย ที่ท่านสอนให้เยี่ยมญาติพี่น้องผู้เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกัน ก็เพื่อเตือนไม่ให้หลงลืมญาติพี่น้องอันดั้งเดิมในป่าช้านั่นเอง เพื่อจะได้ท่องบ่นไว้ในใจว่า เรามีความแก่ เจ็บ ตายอยู่ประจำตัวทั่วหน้ากัน ไม่มีใครจะกล้าอุตริเย่อหยิ่งตัวว่า จะไม่เกิด แก่ เจ็บ ตายได้ เมื่อสายทางแห่งวัฏฏะที่ตนยังท่องเที่ยวเรียนสูตรอยู่ยังไม่จบ.."
ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองจ.สกลนคร
***สกิทาคามีจิตใจเบาลง***
... ต่อมา ปฏิฆะ อารมณ์ที่ไม่ชอบใจก็ใช้พรหมวิหาร ๔ หรือกสิณ ๔ พรหมมวิหาร ๔ คือ
๑. เมตตา ความรัก
๒. กรุณา ความสงสาร
๓. มุทิตา จิตใจอ่อนโยน
๔. ความวางเฉย
ใช้อารมณ์นี้เพื่อการทรงตัว หรือว่าใช้พรหมวิหาร ๔ ไม่ถูกกับจริตของตนก็ให้ใช้ กสิณ ๔ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งคือ
๑. สีแดง
๒. กสิณสีเหลือง
๓. กสิณสีเขียว
๔. กสิณสีขาว
เอาเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ให้ทรงตัวไว้ กสิณจะเข้ามาช่วยตัดโทสะความโกรธให้หายไป ในเมื่อถึงอนาคามีแล้วความโกรธจริงๆไม่มี ความรักในระหว่างเพศไม่มี แต่ความโกรธแบบงิ้วมี รู้จักไหม งิ้วมันโกรธกันน่ะ อยู่หน้าฉาก โอ๊ย...จะตีกันตาย พอเข้าไปในโรงกินข้าว หรือข้าวต้มรวมกันแล้ว.....
โดยพระเดชพระคุณ หลวงพ่อพระราชพรหมยานมหาเถระ
( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ )
วัดท่าซุงจังหวัดอุทัยธานี
'ธรรมปฏิบัติ ๗๓'
"ทางสายพระอริยบุคคล"
๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
"..ขอให้พวกเราเผชิญกับความจริง คือการเปลี่ยนแปลงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าของเรา เพราะฉะนั้น เราจะต้องเป็นผู้มีใจเข้มแข็ง ในชีวิตของเราทุก ๆ คน จะตกไปอยู่ที่ไหน ก็สร้างคุณงามความดี ถึงแม้จะหมดชีวิตไป ก็อย่าทิ้งคุณงามความดี คือข้อประพฤติปฏิบัตินั่นแหละมันดี อย่างอื่นมันดีไม่ได้หรอก อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโรสิยา ตนแหละเป็นที่พึ่งของตน คนอื่นใครจะเป็นที่พึ่งเราได้ อันนี้มันเป็นความจริง อะไรทุกสิ่งทุกอย่าง ถึงคราวมันจะเป็นไปแล้วก็เป็นไป อย่าไปคิดอะไรมากลำบากตัวเองเปล่า ๆ จงอุตส่าห์ทำมาหาเลี้ยงชีพโดยสุจริต ดำรงชีวิตสร้างความดีต่อไป ให้มีความสามัคคี เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือกัน มีความเมตตาอารีต่อกัน จะอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครอยู่ได้นานเท่าไหร่หรอก เดี๋ยวเราก็พากันจากกันไปหมดนั่นแหละ.."
โอวาทธรรมคำสอน
พระโพธิญาณเถระ (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี
(พ.ศ.๒๔๖๑-๒๕๓๕) จากหนังสือ : อุปลมณี หน้า ๕๒๖
“เกิดเป็นคนเหมือนกันแต่ใจมันไม่เหมือนกัน
ใจนี่แหละทำให้คนต่างกัน ไม่ใช่ร่างกาย
ทรัพย์สมบัติเงินทองของนอกกาย
พระพุทธเจ้าท่านก็เป็นมนุษย์เหมือนพวกเรา
แต่พระทัยของพระองค์เป็นโลกวิทู รู้แจ้งโลก
ที่ต่างจากมนุษย์ทั่วไปก็คือ พระทัยของ
พระองค์บริสุทธิ์นั่นแหละ พระอรหันต์
ทั้งหลายก็เหมือนกัน ท่านก็เป็นคนเหมือน
พวกเรา แต่ท่านไม่เหมือนพวกเราในเรื่อง
หัวใจที่ใสบริสุทธิ์ คือเป็นคนเหมือนกันแต่
หัวใจมันต่างกัน ท่านผู้ประเสริฐมีพระพุทธเจ้า
เป็นต้นเหล่านี้ ท่านเป็นผู้ฝึกตนมาดี เก็บเกี่ยว
เอาทุก ๆ เรื่องมาสอนตน ในที่สุดท่านก็
กลายเป็นผู้ประเสริฐขึ้นมาได้ท่ามกลาง
โลกที่โสมม” ...
...
พระครูสุทธิธรรมรังษี (หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท)
วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก
จ.ปทุมธานี (พ.ศ.๒๔๕๙-๒๕๔๗)
"...อดีตมันล่วงไปแล้ว มันล่วงมาแล้ว จะเอามาเป็นอารมณ์ให้ใจเศร้าหมองทำไม อนาคตยังมาไม่ถึง อย่าไปคิดมัน ให้มันมาเจอก่อนจึงคิด ให้พิจารณาปัจจุบัน พิจารณาร่างกายนี้ ของแตกของเน่านี่ มันจะตายวันไหน มันจะเป็นอย่างไร พิจารณาให้เห็นว่า มันไม่พ้นความตายแล้ว ตายนอนทับกันอยู่
รีบทำความเพียร รีบบำเพ็ญภาวนาให้ศีล ให้สมาธิ ให้ปัญญาเกิดขึ้น ความชั่วที่เก็บมาให้มันเผาจิต ต้องเปิดออกปัดออกเอาแต่ความดีเข้ามาสู่ดวงจิตดวงใจของตน ให้ใจเบิกบานใจร่าเริง ให้ใจกว้างอย่าให้ใจแคบ..."
หลวงปู่ขาว อนาลโย
“ให้พากันสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน
คนเราต่างจากสัตว์เดรัจฉาน
ก็คือได้ไหว้พระก่อนนอนนี่แหละ
ส่วนสัตว์เดรัจฉานอยากนอน
มันก็ทิ้งตัวลงนอนเลย อย่าเห็นแก่นอนซี่
ไหว้พระสักหน่อยจะได้ดีกว่าเดรัจฉาน”
...
คำสอน หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
จิตกับกายมันคนละส่วนกัน
เวลากายมันแตกจิตมันก็ออกไปหาที่เกิดใหม่
เฮาเฮ็ดดี มันกะไปสู่บ่อนดี
เฮาเฮ็ดชั่ว มันก็้พาเฮาไปบ่อนชั่ว
สำคัญอยู่ที่จิตที่ใจนั้นละ
ร่างกายเฮามันบ่ได้รู้เรื่องหยัง
มีแต่จิตเป็นผู้รับรู้พามันไปใสมันกะไปเดะกายเฮา
พาไปทำดีทำชั่วก็จิตใจอันเดียวนี้ละ ...
โอวาทธรรม
#หลวงปู่ปั่น สมาหิโต (อายุ ๙๙ ปี)
"..จงพึ่งตัวเอง จงเป็นแสงสว่างของตัวเอง
จงเป็นผู้นำตัวเอง จงรับผิดชอบตัวเอง
จงพิจารณาตัวเอง จงมีตนเป็นที่พึ่ง
#ที่พึ่งภายในตนเองสำคัญมากกว่าที่พึ่งภายนอก ซึ่งมาจากคนอื่น ถึงคนอื่นจะช่วยได้ ก็ช่วยได้เฉพาะ
#เพราะตนเองต้องช่วยตนเองก่อน พระพุทธเจ้าก็เป็นแต่ผู้ชี้ทางแนะนำสั่งสอนให้เท่านั้น
.
ฉะนั้น จงพึ่งตัวเอง จงเป็นแสงสว่างนำตัวเอง อย่าหวังพึ่งสิ่งภายนอก ทุกคนต้องต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคแห่งวิถีชีวิตของตนด้วยตนเอง พระพุทธเจ้าก็ดี ครูบาอาจารย์ บิดามารดา ญาติ มิตรสหาย ผู้มีไมตรีจิตสนิทสนมรักใคร่
#ก็เพียงแต่เป็นผู้เอาใจช่วย เป็นกำลังใจ เป็นเครื่องกระตุ้นบำรุงขวัญเท่านั้น.."
โอวาทธรรมคำสอน
ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต (ธมฺวิตกฺโกภิกขุ)
เอาความจริงของชีวิตในปัจจุบันนี้
มาเป็นส่วน ... ของการภาวนา
ให้มันเห็น ... ตามความเป็นจริง
ให้มันคาย ... จากความยึดถือ
คายจากความสำคัญตัวตน ให้มันสงบระงับ
ความสงบระงับ นี่แหละ คือความเป็นสมณะ ...
...
พระพรหมวชิรญาณโสภณ
(หลวงปู่เลี่ยม ฐิตธมฺโม)
เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง
"ผู้ปฏิบัติจะออกจากทุกข์ได้ก็เพราะมาเห็นสมมุตินี่แหละ ทุกข์เพราะสมมุติ สมมุติว่าเป็นโน่นเป็นนี่ เราไม่สมมุติ หยุดสมมุิตล่ะ มันก็เป็นวิมุตติ
หลุดพ้นหมดสิ่งสาระพัดทั้งหลาย หลุดพ้นเหตุเหตุใด
พ้นเพราะเราไม่สมมุติ มันก็เป็นวิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ เราได้เห็นแล้วก็พ้นจากสมมุติ"
..... หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.