#หลวงปู่ทุย ฉนฺทกโร พิจารณาบังสุกุล
ท่านก็เมตตาสอนเรื่องการทำบังสุกุล มีสองประเภท คือการทำลับหลัง ๑ และ การทำต่อหน้าอีก ๑
ท่านบอกเมื่อถวายเสร็จแล้ว ก็อุทิศไปให้ผู้มีบุญมีคุณ พบทุกข์ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้าสุขให้สุขยิ่งขึ้นไป ถึงหม๊ดด...หลวงปู่บอก
ท่านก็ยังเทศน์ย้ำ " บุ ญ ไ ม่ ต้ อ ง เ สี ย เ งิ น "
"เราก็เกิดมาในโลกนี้ เพื่อมาสร้างบารมี ไม่ใช่เกิดมาเล่น เกิดมาแสวงหาความสุข สนุกชั่วคราว ไม่มีประโยชน์อะไร
ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ความตายเป็นของแน่นอน โลกนี้เป็นแต่ทางผ่าน เท่านั้นเองล่ะ มาเกิดแล้ว หมดอายุ หมดบุญแล้วก็ผ่านไป ก็หาที่เกิดใหม่
บุญบาปนำไป หมดบุญ หมดกรรมที่นำไปเกิด ในที่นั้นๆ ก็วกกลับมาเกิด บนโลกนี้อีก มาเฝ้าโลกนี้อีก อยู่มาเฝ้าแล้ว ไม่เห็นมีใครได้อะไร ได้แต่บุญกับบาปที่ทำ
เราก็เกิดในโลกนี้ ไม่ใช่ว่ามาเกิดเล่นนะ ให้คิดให้พิจารณากันให้ดี เกิดมาเพื่อมาสร้างบารมี อาศัยบุญบารมี นำดวงจิตนี้ให้พ้นจากทุกข์ ไปตามลำดับนะ"
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
เพิ่นว่าพุทโธนี้คือความตื่น ตื่นของใจมันอยู่โต เหตุนี้เพิ่นจังว่าพระอรหันต์บ่มีอาบัติ บ่มีข้องมีคาหยัง เป็นผู้มีสติอยู่ตลอดเวลา ว่าสำหรับเรื่องธาตุขันธ์ ความหลงความลืมเป็นธรรมดาของมัน ขั่นมีชาติ เป็นธรรมชาติธรรมดา คือเกิดแก่เจ็บตาย เป็นไปตามธรรมชาติ ธรรมชาติมีจังซั่น
ส่วนพระนิพพานนี่บ่เป็นธรรมชาติ เป็นแท่งธรรม แท่งธรรมหรือเป็นก้อนธรรม นี่สมมติเอา ขั้นมันเป็นก้อนมันละลาย แต่นี่มันบ่มี
หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ
“ให้เป็นคนดีเด้อ บ่ต้องอยากเก่งอยากดังดอก ถ้าเฮาดีอิหลีแล้ว ความเก่งจะตามมาเองบ่ต้องประกาศ คนเก่งบางคนนั้นก็ใช่ว่าจะดี คนดีนี่สิหายาก มีค่ากว่าทรัพย์สินหลายเท่า ไผสิเก่งกะช่างเขา ไผสิดังกะช่างเขา แต่เฮาเฮ็ดโตเฮาให้ดีกะพอ"
(โอวาทธรรม หลวงปู่ศิลา_สิริจันโท)
"เราก็เกิดมาในโลกนี้ เพื่อมาสร้างบารมี ไม่ใช่เกิดมาเล่น เกิดมาแสวงหาความสุข สนุกชั่วคราว ไม่มีประโยชน์อะไร
ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ความตายเป็นของแน่นอน โลกนี้เป็นแต่ทางผ่าน เท่านั้นเองล่ะ มาเกิดแล้ว หมดอายุ หมดบุญแล้วก็ผ่านไป ก็หาที่เกิดใหม่
บุญบาปนำไป หมดบุญ หมดกรรมที่นำไปเกิด ในที่นั้นๆ ก็วกกลับมาเกิด บนโลกนี้อีก มาเฝ้าโลกนี้อีก อยู่มาเฝ้าแล้ว ไม่เห็นมีใครได้อะไร ได้แต่บุญกับบาปที่ทำ
เราก็เกิดในโลกนี้ ไม่ใช่ว่ามาเกิดเล่นนะ ให้คิดให้พิจารณากันให้ดี เกิดมาเพื่อมาสร้างบารมี อาศัยบุญบารมี นำดวงจิตนี้ให้พ้นจากทุกข์ ไปตามลำดับนะ"
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
ฝึกจิตรู้ชีวิต
การทำสมาธิหรือการฝึกจิต คือการค้นคว้า การเรียนรู้เรื่องชีวิตจริงของตัวเองโดยไม่ต้อง ผ่านทฤษฎี ไม่ต้องผ่านหนังสือ ไม่ต้องผ่านใคร เราเอาชีวิตของเราเป็นตัวทดลอง เราเป็นหนูทดลองตัวเอง เราจึงเรียกว่าเป็น เรื่องของปัจจัตตัง สำคัญที่ตัวรู้ ลมหายใจ เข้าก็รู้ รู้ตลอด ตอนต้น ตอนกลาง ตอนปลาย หายใจออก รู้ตอนต้น ตอนกลาง ตอนปลาย เราต้องทำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง หากเราบังคับมากเกินไป มันก็ไม่ได้ผล และจะมีเสียงสะท้อนในลักษณะปวดหัว แน่นหน้าอก เป็นต้น หากความเพียรพยายาม ของเราน้อยไป จะมีอาการสะท้อนคือ จิตจะเผลอไปหรือหลับไป เป็นต้น สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการภาวนา ล้วนแต่เป็นข้อมูลให้เราฉลาด ให้เราปรับ การกระทำของตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนท้อแท้ ฟุ้งซ่าน ไม่สงบ แป๊บเดียว จิตไปโน่นไปนี่ นี่เป็นข้อมูลว่า ทุกวันนี้ จิตใจของเราอยู่ในสภาพเช่นไร คือมันไม่ใช่ ฟุ้งซ่านเพราะการนั่งสมาธิ ไม่ใช่การนั่งสมาธิ เป็นเหตุให้ฟุ้งซ่าน มันฟุ้งซ่านอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าในชีวิตประจำวัน เราไม่รู้ตัว … พระพรหมพัชรญาณมุนี พระอาจารย์ชยสาโร บ้านบุญ วันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๗
|