นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 22 ต.ค. 2025 10:54 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: การทำบุญ
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 08 ต.ค. 2025 9:18 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 5089
ทำจิตเหมือนรากแก้ว
รากแก้วมันอยู่ข้างใน
สุดรากแก้วตรงไหน
ให้เรา ระลึกอยู่ ตรงนั้น
จิตเราก็จะไม่วอกแวกไปที่อื่น

#หลวงพ่อเยื้อน ขนฺติพโล






ทุกยุค ทุกสมัย “สัปปุริสธรรม” เป็นธรรม
สำคัญ การอบรมสัปปุริสธรรมไม่ใช่สิ่ง
สุดวิสัย ทุกคนสามารถอบรมตนให้มี
สัปปุริสธรรมได้ เพิ่มความประณีตละเอียด
ลออให้การแก้ปัญหา พบเห็นอะไร
หมั่นใคร่ครวญให้จงดี ได้ยินได้ฟังอะไร
มองให้เห็นต้นตอของเรื่องที่ได้ยินได้ฟังนั้น
รู้ประมาณในการเชื่อ รู้จักกาลเวลา ควรพูด
ควรทำหรือไม่อย่างไร ถ้าไม่รู้จักสิ่งที่ควรรู้จัก
ทั้งปวง คือ ไม่รู้จักเหตุ ไม่รู้จักผล ไม่รู้จัก
ประมาณ ไม่รู้จักกาลเวลา ไม่รู้จักประชุมชน
ไม่รู้จักบุคคล ก็เหมือนไม่รู้จักตนนั่นเอง ...
...
พระคติธรรม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
กรมหลวงวชิรญาณสังวร







"..เราเป็นชาวพุทธต้องมองเหตุบ้างซิ มองแต่ผลอย่างเดียวจะเกิดประโยชน์อะไร เกิดมาทั้งชาติก็มีแต่กินกับนอนและเที่ยวเตร็ดเตร่เร่ร่อนหาหัวนอนปลายเท้าไม่ได้ เป็นอยู่อย่างจำเจ จะหาความอบอุ่นแก่จิตใจได้ที่ไหน ก็มีแต่ความรุ่มร้อนเผาใจละซิ วันคืนหนึ่งๆ ผ่านไปต้องคิดหาสารคุณ อย่ามีแต่ความสนุกเฮฮา ตื่นลมตื่นแล้งกันไปไม่มีสาระอะไรติดตัวติดใจ จะหวังพึ่งอะไรมนุษย์เราซึ่งมิใช่ท่อนไม้ท่อนฟืน มันมีหัวใจดวงรู้ๆ ครองร่างอยู่กับทุกคน ทำไมไม่เหลียวแล จะหวังพึ่งอะไรถ้าพึ่งใจตัวเองไม่ได้แล้ว พึ่งลมหายใจ ลมก็หมดไป พึ่งร่างกาย กายก็แตก พึ่งน้ำในกาย น้ำก็สลาย พึ่งไฟในกาย ไฟก็กระจาย กายทั้งร่างมีแต่เรื่องแตกกระจาย แล้วจะพึ่งอะไร พึ่งบ้าน บ้านก็จะพัง พึ่งสมบัติเงินทองก็ล้วนแต่สิ่งจะพังทลาย ยังเพลินเมามัวมั่วสุมอยู่หรือ มนุษย์เราตัวฉลาดแท้ๆ ไม่สมควรกับความเป็นดังที่กล่าวมา.."

อนาลโยวาท
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
(พ.ศ.๒๔๓๑-๒๕๒๖)






.

#การทำบุญมีสามวิธี

หลวงพ่อ : อีกประการหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าสมัยพระพุทธกัสสป ท่านเทศน์ไว้อย่างนี้ คือ

"บุคคลใดทำบุญด้วยตนเอง ไม่ชักชวนคนอื่น ถ้าเกิดในชาติต่อไป จะร่ำรวยโภคสมบัติ แต่ขาดเพื่อนขาดบริวารสมบัติ"

"ถ้าดีแต่ชักชวนเขา ไม่ทำเอง ชาติต่อไปมีเพื่อนมาก แต่ตัวเองจน"

"ถ้าทำบุญด้วยตนเองด้วย ชักชวนผู้อื่นด้วย รวยด้วย มีพรรคพวกมากด้วย"

นี่ท่านเทศน์แบบนี้นะ
ถ้าเราทำคนเดียวได้ก็ทำ
ทีนี้ถ้าเราชวนเขาด้วย แต่ว่าการชวนนี่ก็ลำบากนะ ถ้าชวนเขาทำบุญด้วย ก็อย่าหวังว่าเขาจะให้เรานะ คิดว่าเขาให้หรือไม่ให้ก็เป็นเรื่ิองของเขา คือแนะนำเขาว่าเวลานี้เราทำโน่นทำนี่ จะทำบุญร่วมด้ยไหม

ถ้าบังเอิญเขาไม่ทำร่วมด้วยก็อย่าไปโกรธเราถือว่าเราชวนเขาทำความดี
ถ้าเราโกรธเขาเข้า บุญเราจะด้อยลงไป เพราะตัวโกรธเข้ามาตัด

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
_________
จาก "ธัมมวิโมกข์" ปีที่ ๓๖ ฉบับที่ ๔๐๕ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๗ หน้า ๑๐๔


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO