นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 03 ก.ย. 2025 5:17 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ความเพียร
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 30 ส.ค. 2025 10:15 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 5038
"ศาลโลกไม่ใช่มีเฉพาะในโลกนี้ ในโลกที่เรามองไม่เห็นอย่าว่าไม่มีศาล ศาลอันนั้นจะเอาซองไหนสีไหนจะเป็นซองอ้วนขนาดไหน ศาลเขาก็ไม่สน

ทำดีก็เป็นคนที่ปลอดภัยจากโทษ คนที่ทำสิ่งที่เป็นโทษจะต้องได้รับโทษ ไม่มีใครไปตัดสิน จะต้องได้รับโดยอัตโนมัติ รับโทษโดยธรรมชาติ

บุญและบาปไม่ยกท่านผู้ใดผู้หนึ่งเป็นบุคคลพิเศษ ในเมืองผีเมืองคนที่ตายไปแล้วจึงไม่มีซองเหลืองซองแดง ซองอ้วนซองผอม ซองใหญ่ซองหนาซองบาง

ธรรมชาติจิตใจเป็นของที่ไม่เกิดไม่ตาย ทำบุญเป็นบุญทำบาปเป็นบาปเหมือนกันหมด

การรักษาเราให้ปราศจากความไม่ยุติธรรมเป็นความถูกต้องที่สุด เป็นการสร้างความยุติธรรมให้เป็นเรา ความยุติธรรมคือสิ่งที่เป็นความยุติธรรมโดยธรรมชาติ ไม่ใช่
ยุติธรรมอย่างถูกใจฉัน

พากันปฏิบัติตามสิ่งที่พระพุทธเจ้านำมาสอน เราจะเป็นผู้ที่ปลอดภัยตลอดกาล เราจะเป็นผู้ที่ปลอดภัยจากกรรมจากเวร หากเราพากันคิดสิ่งเหล่านี้แล้วจะเป็นการสร้างสรรค์สังคมโลกให้น่าอยู่น่าอาศัย

ถ้าหากว่าไม่พากันคิดแล้วโลกจะเป็นอย่างไร ศาลยุติธรรมบางทีก็ไม่ยุติธรรม ศาลยุติธรรม แต่บางทีคนไม่มีความยุติธรรม ไปนั่งตรงไหนตรงนั้นก็ไม่ยุติธรรม"

_______________

#หลวงปู่แบน ธนากโร
วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร







"ดวงดี สร้างเอง"
"เราดี ดีกว่า ดวงดี"
"ดี อยู่ที่เรา ทำดี"
"มีอยู่ ๓"

๑ - เรารักษา
๒ - ปฏิบัติ
๓ - หามาเพิ่ม

โอวาทธรรม หลวงปู่ทองผุด ญาณวโร
วัดภูเขาดิน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย







“ความหลุดพ้นที่มนุษย์ทุกคนพึงหานั้น
อยู่ที่ตนเอง หากตนเองมุ่งปฏิบัติตามคำสอน
ของพระพุทธเจ้า ก็จะได้พบไม่ยาก
ขอให้มุ่งปฏิบัติเถิด

การหลุดพ้นนั้น จะต้องทำจิตใจของตน
ให้หมดกิเลส หมดสิ้นจากทุกข์ทุกอย่าง
หมดสิ้นจากสิ่งที่อยากได้ สิ่งที่เรียกว่า โลภ
โกรธ หลง ตัดสิ่งนี้ให้หมดสิ้น และเจริญ
วิปัสสนากรรมฐานจึงได้พบทางหลุดพ้น”
...
คำสอน หลวงพ่อเกษม เขมโก
สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง






..หากเรากำลังยึดมั่นถือมั่นอยู่ มันก็ยิ่งทุกข์มาก เราก็เห็นทุกข์ ถ้าหากมันหายไปแล้ว มันคลายไปแล้ว มันไม่ยึดอย่างนี้มันก็ไม่มีตนมีตัว เมื่อเรารู้แล้วอย่างนี้ เราก็ละไป ถ้าเราละได้ชั่วครู่ชั่วคราว เดี๋ยวมันจะเกิดขึ้นมาอีก เขาเรียกว่า โลกิยปัญญา ถ้าหากพวกเราท่านทั้งหลายรู้แล้ว เข้าใจแล้วตามความเป็นจริง ละได้หมด ไม่เกิดขึ้นมาอีก ก็เรียกว่า โลกุตรปัญญา..

..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป..





ท่านพ่อลี สอนว่า ....

“การกำหนดลมหายใจนี้ จะต้องพยายามตัดสัญญาอารมณ์ภายนอกออกให้หมด เพราะถ้ามีนิวรณ์มาแล้วก็ไม่สามารถที่จะสังเกตุความละเอียดของจิตและลมได้”





การทำสมาธิ​

สมาธิจะเกิดขึ้นได้ด้วยการภาวนาโดยการบังคับจิตใจให้เข้าสู่จุดเดียวในคำบริกรรม

"... เช่น อานาปานสติ กำหนดลมหายใจ เข้าออก การกำหนดลมหายใจเข้าออก เราไม่ต้องไปคิดว่า “ลมสั้น หรือ ยาว”
หายใจเข้า หายใจออก ไปถึงไหนบ้าง ไม่ต้องไปตามลมเข้าและลมออก ขอให้รู้อยู่กับความสัมผัสของลม
ที่ไหนลมสัมผัสมากเวลาผ่านเข้าออก ส่วน
มากก็เป็น “ดั้งจมูก” จงกำหนดไว้ที่ตรงนั้น ให้ “รู้” อยู่ตรงนั้น
อะไรจะเป็นอย่างไรก็ให้รู้เฉพาะลมที่เข้าออกนี้เท่านั้น ไม่ต้องส่งไปทางไหน ไม่ต้องไปปรุงไปแต่งเรื่องมรรค เรื่องผล

... การบำเพ็ญด้วยความถูกต้อง ด้วยความมีสติอยู่ในจุดลมรวมแห่งเดียวนั้น เป็นการสร้าง “มรรค” คือ สร้างหนทางเพื่อความสงบอยู่แล้ว เมื่อสติมีความสืบต่ออยู่ด้วยลม
รู้ลมอยู่ตลอดเวลา ลมละเอียดก็ทราบ แต่อย่าไปปรุงไปแต่งว่า ลมจะละเอียดอีกแค่ไหนต่อไป ให้ทราบอยู่เพียงกับลมเท่านั้น
ลมละเอียดใจก็ละเอียด ความสุขก็ค่อยปรากฏขึ้นมาเอง นี้เรียกว่า... "
“อุบายที่ถูกต้อง”

พระธรรมเทศนา
พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ใหญ่
พระมหาบัว_ญาณสัมปันโน
[จงสร้างใจ​ ให้ช่วยตัวเอง]​
เทศน์โปรดคุณเพาพงา วรรธนะกุล
ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๑๙





.

#ความตายเป็นของเที่ยงชีวิตเป็นของไม่เที่ยง

ความตายเป็นของเที่ยง ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง จงจำไว้ให้ถึงที่สุด เมื่อจำไว้ทุกวัน ลืมตาขึ้นมาเช้ามีความรู้สึกไว้เสมอว่า เราอาจจะไม่ได้กินข้าวเช้า อาจจะตายก่อนก็ได้ ความตายไม่มีนิมิต ความตายไม่มีเครื่องหมาย

ถ้าเราตายเลว ก็ดูตัวอย่างสัตว์ในอบายภูมิ มีนรกและเปรตเป็นต้น

ก่อนจะตายถ้าเราทำความดี นั่นก็เป็นเรื่องที่เราจะฟังต่อไปข้างหน้าในเรื่องวิมานวัตถุ จะเห็นผลมีความสุข

ถ้าเป็นเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยทรัพย์มีความสุข

ถ้าเป็นเทวดาก็เป็นเทวดาที่มีความสุขสมบูรณ์ไม่ต้องเป็นเปรตไปก่อนแล้วจึงเป็นเทวดา

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
จากหนังสือ "ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า" หน้า ๒๘






“โลกนี้ คือ “โรงละคร”
ที่เก็บค่าดูแพงที่สุด
ซึ่งบางที ก็เท่ากับ“ชีวิต”
ของมนุษย์“ผู้ดู” นั่นเอง”
.
พุทธทาสภิกขุ
ที่มา : จากหนังสือ “อสีติสังวัจฉรายุศมานุสรณ์”
------------------------------------
.
“คนเรา ทุกวันนี้
ดิ้นรน ไขว่คว้าหา...สิ่งที่ไม่มี
และ..สุดท้ายทุกคนก็จะได้ในสิ่งเดียวกัน
คือ...ไม่ได้อะไรเลย”
.
พุทธทาสภิกขุ
----------------------
.
“สิ่งที่มีอยู่ เป็นอยู่ จะต้องแปรเปลี่ยน และดับลงในวันหนึ่ง โดยไม่ยกเว้นได้ เพราะว่า..ถ้าเป็น ความมี ความเป็น แล้ว ต้องเป็นสิ่งที่มีการเกิดและเกิดขึ้นโดยอาศัย "เหตุ-ปัจจัย" อย่างใดอย่างหนึ่ง เสมอ...
.
อันความมี ความเป็นนั้น เป็น"มายา"ทุกชนิด แม้จะอยู่ได้นานสักหน่อยก็ยังต้องแตกดับอยู่ดี.”
.
พุทธทาสภิกขุ
ที่มา : เรื่องยาว "ตอบคำถามบาทหลวง"
พฤศจิกายน ๒๔๘๒







"...สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรทำความผูกพัน
เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง
แม้กระทำความผูกพันและมั่นใจในสิ่งนั้น
กลับมาเป็นปัจจุบันก็เป็นไปไม่ได้

ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกข์
แต่ผู้เดียว โดยความไม่สมหวังตลอดไป
อนาคตที่ยังมาไม่ถึงนั้นเป็นสิ่งไม่ควรไป
ยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน

อดีตปล่อยไว้ตามอดีต...อนาคตปล่อยไว้
ตามกาลของมัน ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จ
ประโยชน์ได้ เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้
ไม่สุดวิสัย..."

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต





“คุ้นเคยกับอารมณ์มีพระพุทโธ
หรือคุ้นเคยกับการท่องพุทโธ
เมื่อถึงคราวคับขัน
ใจจะไม่ไปยึดมั่นเกาะเกี่ยว
กับอะไรอื่นที่ไม่คุ้นเคย
แต่จะไปเกาะอยู่กับพระพุทโธ
ที่เป็นยอดสิริมงคลทั้งปวง
ย่อมได้รับสิริมงคลนั้น
อันจักนำให้พ้นพาลภัยใหญ่น้อย
ความคุ้นเคยกับสิ่งดีมีมงคล
จึงเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง”
...
พระคติธรรม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
กรมหลวงวชิรญาณสังวร







ความคิดสำคัญนัก
แต่สติสำคัญที่สุด...เพราะต้องมีสติ
จึงจะรู้ทันความคิดของตนว่าเป็นอย่างไร

จากบทนิพนธ์เรื่อง ฝึกใจ
จากหนังสือ : ธรรมะ จาก พระสังฆราช
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก






การปล่อยวางไม่ได้หมายความว่าเรา
จะหยุดความเพียรพยายามในการดำเนินชีวิต
การปล่อยวางไม่ได้ทำให้เราละเลยหน้าที่
และความรับผิดชอบ เราไม่ได้ปล่อยวาง
ในตัวการกระทำ แต่ปล่อยวางความสัมพันธ์
ที่ไม่ถูกต้องต่อการกระทำนั้นต่างหาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราปล่อยวางอุปนิสัย
ที่ชอบปล่อยให้ ‘ตัวฉัน’ ‘ของฉัน’ มาสร้าง
ความมัวหมองในโลกของเรา
แมลงวันที่ตกลงไปตายเพียงตัวเดียว
ทำให้แกงเสียหมดทั้งหม้อได้ฉันใด
การยึดความคิดว่ามี ‘ตัวฉัน’ และ ‘ของฉัน’
ย่อมทำให้เกิดความเสียหาย แม้กระทั่ง
สถานการณ์ที่มีคุณค่ามากที่สุดได้ฉันนั้น ...
...
พระพรหมพัชรญานมุนี (ชยสาโรภิกขุ)


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 28 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO