นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 14 ก.ค. 2025 7:38 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 03 ก.ค. 2025 4:55 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4984
"ที่จริงแล้ว ทุกคนรู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว
แต่ไม่พยายามรับรู้ความจริงนั้น
ว่าเป็นความจริงสำหรับตนเองด้วย
มักจะให้เป็นความจริงสำหรับผู้อื่นเท่านั้น

ดังที่ปรากฏอยู่เสมอ ผู้ที่ว่าคนนั้นไม่ดี
อย่างนั้นอย่างนี้ และตัวเองก็เป็นเช่นนั้นด้วย
โดยตัวเองก็หาได้ตำหนิตัวเอง เช่นที่ตำหนิผู้อื่นไม่

ถ้าจะให้ดีจริงๆ ถูกต้องสมควรจริงๆ แล้ว
ก็ต้องเชื่อพระพุทธเจ้า ท่านทรงสอนให้เตือนตน
แก้ไขตนก่อนจะเตือนผู้อื่นแก้ไขผู้อื่น"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ






ยึด สิ่ง ใด...ก็ตกเป็นทาสของสิ่งนั้น

เมื่อไม่ยึด ก็ไม่ทุกข์ เมื่อไม่ถือ ก็ไม่หนัก

เหตุของความทุกข์ก็มีเพียงเท่านี้

รู้แล้ววางเป็นก็เย็นสบาย

ไม่มีวาสนายังไงก็ไม่พบ ธรรมของพระ

พุทธเจ้า เป็นธรรมที่เลิศเลอที่สุดแล้ว

เกิดมาไม่มีวาสนา ยังไงก็ไม่พบ ยังไง

ก็ไม่สนใจ ยังไงก็ไม่ปฏิบัติไม่เลื่อมใส

ธรรมของพระพุทธเจ้า มันจะเป็นเหมือน

ไก่แจ้ไปพบพลอยนั่นแหล่ะ.

โอวาทธรรมคำสอน
องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน






นักภาวนาส่วนใหญ่อยากให้จิตสงบ
ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักความสงบ นึกเอาเองว่า
ความสงบคืออาการผ่อนคลาย ไม่คิดอะไร
ความสงบแบบนี้ก็มีเหมือนกัน หลวงปู่มั่น
เรียกว่า สมาธิหัวตอ ไม่ใช่สัมมาสมาธิ
ของพระพุทธเจ้า

ในการภาวนาสิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวรู้
ในการภาวนาเราจึงต้องมุ่งพัฒนาตัวรู้คือจิต
ให้พ้นจากการรู้ผิดรู้ถูกอย่างลูบๆ คลำๆ
เป็นผู้รู้ตามความเป็นจริง สมาธิไม่ใช่อาการ
เฉยเพราะไม่รับรู้สิ่งใดเลย สมาธิคือเฉย
เพราะรู้เท่าทันอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง
มั่นคง เพราะรู้ ตื่น เบิกบาน ...

พระอาจารย์ชยสาโร






"ไม่ว่าชาติไหนก็ตาม เรามีพ่อหนึ่ง มีแม่หนึ่งเท่านั้น ไม่เกินจากนี้ไปได้ พ่อแม่เป็นแดนเกิด ถ้าไม่มีท่านเราไม่สามารถจะเกิดมาได้ ท่านต้องทุกข์ยากลำบากเลือดตาแทบกระเด็น กว่าจะเลี้ยงดูเราเติบโตขึ้นมาได้ แม้ในยามคลอด แม่ก็ต้องเสี่ยงชีวิต ไม่รู้ว่าจะคลอดลูกออกมาให้อยู่รอดปลอดภัยได้ หรือว่าตัวเองจะต้องสิ้นชีวิตลงไป ถ้ากำลังกายไม่ดีพอ

ดังนั้นว่าวิธีทดแทนที่ง่ายที่สุด ดีที่สุด ก็คือ การปฏิบัติในทาน ในศีล ในภาวนา ที่มีอานิสงส์สูงสุด ถ้าหากว่าในความเป็นพระเป็นเณร เราบวชปุ๊บ พ่อแม่จะได้กุศลในส่วนนี้ทันที

ในอรรถกถาท่านกล่าวไว้ว่า พ่อแม่ได้เสียกันในวันนั้น แล้วก็มีอันต้องแยกย้ายจากกันไป ปรากฏว่ามีลูกติดท้องไปด้วย พอคลอดลูกออกมาก็พลัดพรากจากกันไปอีก โดนคนอื่นเก็บเอาไปเลี้ยง

เป็นอันว่าเด็กนั้นตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่ที่แท้จริงเป็นใคร แต่ถ้าเขาได้บวชเมื่อไร อานิสงส์จะเป็นของพ่อกับแม่เขาทันที บุญพิเศษประเภทเดียว ที่พ่อแม่ไม่ต้องอนุโมทนาก็ได้รับ คือบุญของการบวชพระบวชเณร เรียกว่าบุญของเนกขัมบารมี

คราวนี้ถ้าหากว่าเราเป็นผู้หญิง เราไม่สามารถบวชพระบวชเณรได้ วิธีที่พ่อแม่จะได้บุญนั้นก็คือ สร้างความเป็นพระอริยะเจ้าให้เกิดขึ้นกับเราให้ได้ ทันทีที่เราก้าวถึงความเป็นพระโสดาบัน นั่นเราเป็นพระแล้ว ยิ่งกว่าพระเณรทั่ว ๆ ไปเสียอีก

อันนั้นอานิสงส์จะเต็มที่กับบุคคลที่เป็นพ่อเป็นแม่ของเรา นั่นหมายถึงว่า เวลาเราบวชมา อุทิศส่วนกุศลไปให้ญาติพี่น้องของเรา ที่ล่วงลับไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นญาติผู้ใหญ่ก็ตาม ผู้น้อยก็ตาม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ท่านจะได้มีส่วนโมทนาในความดีของเราที่อุตส่าห์สร้างสมเอาไว้"

คัดลอกข้อความเพียงบางส่วนมาจาก
ปกิณกธรรมจากเกาะพระฤๅษี วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๐ หน้าที่ ๒






“จะพูดอะไร ให้ถามตัวเอง
ถ้าไม่จำเป็น ก็อย่าพูด
ถ้าเราควบคุมปากตัวเองไม่ได้
เราจะควบคุมจิตใจได้อย่างไร” ...
...
หลวงพ่อเฟื่อง โชติโก






"..พระพุทธเจ้าให้นั่งพิจารณาดู และให้เข้าวัดทุกวัน จะนั่งอยู่ก็ดี จะนอนอยู่ก็ดี กราบที่พึ่งของเราเสียก่อน คือกราบครั้งที่หนึ่ง "พุทโธ" นึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของเรา กราบครั้งที่สอง "ธัมโม" นึกถึงพระธรรมเป็นที่พึ่งของเรา กราบครั้งที่สาม "สังโฆ" นึกถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่งของเรา เข้าวัดพักนี้แหละ เอาใจของเรานึกถึงพุทโธ ธัมโม สังโฆ สามหนแล้วมารวมว่า พุทโธ พุทโธ พุทโธ คำเดียว รักษากาย หลับตา งับปาก ลิ้นก็ไม่กระดุกกระดิก ระลึกพุทโธไว้ในใจนี่แหละ เข้าวัดกันตรงนี้ ให้เข้าวัด วัดอยู่ที่ตรงนี้ จะได้รู้จะได้เห็นความสุข มิใช่อื่นสุข นอกจากใจเราสงบแล้ว ไม่มีอื่นสุข.."

โอวาทธรรมคำสอน
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร
อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
(พ.ศ.๒๔๔๒-๒๕๒๐)






. #หลักธรรมดา..!!

"... ไม่มีใครไม่มีมาร แต่มารมันเกิดแล้วมัน
ก็ดับ ไม่มีมารใดถาวร ตายหมด มีมารก็ตาย ไม่มีมารก็ตาย แต่ว่ามารมันไม่ได้ขึ้นบนที่สูง

... เวลาตาย.. เวลาเราจะทำดี.. มารมาขวาง เวลาเราตายไป มันไม่ได้ขึ้นสูงเหมือนเรามันเป็นมารกรรมเก่า มารภพภูมิ มันอยู่ที่จะตามเราทันตอนไหน

... เป็นมนุษย์ต้องหูหนัก อย่าหูเบา ถ้าหูเบา
เราก็เป็นมารตามมัน พระพุทธเจ้ายังมีมาร
แล้วสูเป็นใคร ไม่มีใครที่ไม่มีมาร และไม่มี
ใครไม่พบทุกข์

... ที่จริงหลักธรรมะคือหลักธรรมดา แต่ว่า.. เราเข้าใจธรรมดาไหม ? ถ้าเราเข้าใจธรรมดาแสดงว่าเข้าใจธรรมะ ก็ธรรมะมันเกิดจากสิ่งที่มันเกิดอยู่แล้ว ..."
----------------------------------
#พระครูพิศิษฐ์อรรถการ
(พ่อท่านคล้าย จันทสุวัณโณ)​วัดสวนขัน
ต.สวนขัน อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช






#ที่อยู่ของผู้ที่รักษาศีล

"เปรตคนที่ยังไม่ตายนะโยม มีโยมอยู่นั้นละอาตมาดูแลหลวงปู่แหวนแต่ก่อน บัดนี้ก็เลยโกรธให้หลวงพ่อ หลวงพ่ออยู่กับอาตมา ขว้างมีดนี้ผ่านหน้าอาตมาไปติดต้นไม้ ขว้างมีดแหลมๆ ถ้าหากว่าไม่ใช่พระจะแทงตาย เลยว่างั้น โกรธให้หลวงพ่อ หลวงพ่อแก่พรรษากว่าอาตมา ไปโกรธให้ท่านทำไม​ ว่าท่านดุใช่ไหม ท่านดุให้ว่ามันไม่ดูกิจวัด กิจวา ไม่กรองน้ำอะไรให้พระ คอยกินกับพระเฉยๆ กินอิ่มแล้วมันก็หนีไป แล้วมันก็มาเฉยๆ ท่านก็ว่าให้ คืนเดียวเลยนะ พอคืนเดียวอาตมาเห็นนอนตัวยาวประมาณสัก ๔ เมตร นอนลุกไม่ได้ว่างั้นเถอะ คราง นอนครางอยู่ โอ้..มันเอาปัจจุบันตั่วนิ ตื่นมาเมื่อเช้าลุกไม่ได้เลยโยมคนนั้นอยู่วัด ลุกไม่ได้ ๔ วัน โกรธให้หลวงพ่อ เลยเป็นเปรต เปรตยังไม่ทันตายแสดงให้เป็นเปรตให้ฟัง ไม่ต้องพูดหรอกมันยาวเอาแค่นี้พอ มันเยอะ อาตมาเห็นเยอะ พระก็เป็นเยอะเหมือนกันไม่ใช่ของน้อย"

"พระภูมิเจ้าที่ส่วนมากเขาจะมีศีลอยู่ ๓ ข้อ เขาไม่ได้เป็นเปรตพระภูมิเจ้าที่ ๓ ข้อได้เป็นพระภูมิ ๔ ข้อ ได้เป็นรุกขเทวดา ๕ ข้ออยู่ในสวรรค์ เขาจะมีปราสาทอยู่บนต้นไม้พวกนี้ศีล ๔ ไม่ครบ ๕ เรียกว่ารุกขเทวดา จึงห้ามให้พระไม่ให้ตัดต้นไม้ ต้นไม้เก่าๆใหญ่ๆไม่อยากตัด ไม่ให้ตัด เพราะพวกนี้อยู่ บางต้นนี้มีอยู่เป็น ๑๐ นะ เทวดาที่เฝ้าต้นไม้ ทีนี่พระภูมิมันมีศีล ๓ มันก็ยังดีกว่าเปรต กินได้อยู่ โยมเอากล้วย เอาแอบเปิ้ลลูกใหญ่ๆไปให้ยังกินได้ เอ้าบัดนี้ โยมไปกิน ลูกหลานไปกิน แท้ที่จริงไม่ต้องไปใส่มากถึงขนาดนั้นหรอก"

".. แต่คนนี้มันก็แปลกอย่างหนึ่ง อาตมาไปดู แต่ก็ไม่ถือว่าโยมหลง เขาเอากล้วยดีๆผลไม้ดีๆไปเลี้ยงศาลพระภูมิ แต่เวลาเลี้ยงพระนั้นกล้วยก็ไม่มีสักลูกเลย ไม่ถวายพระเลย อาตมาไปโดนสวดมนต์หลายที่แล้ว ผลไม้ดีๆเขาไปเลี้ยงพระภูมิหมด พระไม่ได้ฉันเลย ๙ องค์ นั่งดูเฉยๆ ก็ช่างมันเถอะคงเป็นกรรมของเรา กรรมของพระ ไม่ได้กินดีเท่าศาลพระภูมิ ไม่เป็นไรหรอกเขากินได้ เขามีศีลอยู่บ้าง.. "

".. แท้ที่จริงแล้วคนเรานี้ดีกว่าเขานะ คนเราดีกว่า คล้ายๆว่าอย่างนี้ดีกว่านะ คนที่มันจนกว่าเราไม่มีศีลเท่าเราแต่มันหาอาหารให้เรา เข้าใจบ่ ไปบ้านมันมีแค่นี้แหละก็กินด้วย แต่เราเป็นคนรวยกินแต่ดีๆแต่สามารถกินกับมันได้ กินได้ไม่พอจะเจ็บท้อง ก็พอจะกินได้ท่านไม่ห้าม ท่านห้ามแต่เปรตเท่านั้นเองครูบาอาจารย์เอาแค่นี้พอเนาะ..."

#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน_ปัญญาปทีโป
วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่






"..พระพุทธเจ้าให้นั่งพิจารณาดู และให้เข้าวัดทุกวัน จะนั่งอยู่ก็ดี จะนอนอยู่ก็ดี กราบที่พึ่งของเราเสียก่อน คือกราบครั้งที่หนึ่ง "พุทโธ" นึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของเรา กราบครั้งที่สอง "ธัมโม" นึกถึงพระธรรมเป็นที่พึ่งของเรา กราบครั้งที่สาม "สังโฆ" นึกถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่งของเรา เข้าวัดพักนี้แหละ เอาใจของเรานึกถึงพุทโธ ธัมโม สังโฆ สามหนแล้วมารวมว่า พุทโธ พุทโธ พุทโธ คำเดียว รักษากาย หลับตา งับปาก ลิ้นก็ไม่กระดุกกระดิก ระลึกพุทโธไว้ในใจนี่แหละ เข้าวัดกันตรงนี้ ให้เข้าวัด วัดอยู่ที่ตรงนี้ จะได้รู้จะได้เห็นความสุข มิใช่อื่นสุข นอกจากใจเราสงบแล้ว ไม่มีอื่นสุข.."

โอวาทธรรมคำสอน
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร
อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
(พ.ศ.๒๔๔๒-๒๕๒๐)


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: AdsBot [Google] และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO