นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อังคาร 01 ก.ค. 2025 12:31 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ลมหายใจเข้าออก
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 20 มิ.ย. 2025 10:16 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4972
หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยนท่านเล่าว่า

"...ตอนพาหลวงปู่ (แหวน)​ ไปเจาะเลือด แทงเข็มเข้าไป เลือดไม่มีมาเลย ต้องพากันไปไหว้หาดอกไม้ไปบูชาไปกราบเท้าหลวงปู่เสียก่อนจึงจะเจาะเลือดได้

พอเจาะเลือดแล้วก็พากันมาเอกซเรย์ เอกซเรย์ ๔ ครั้ง ๕ ครั้ง ก็ไม่เห็นภาพเลย ก็ต้องได้หาดอกไม้ธูปเทียนไปบูชาขอหลวงปู่ก่อนจึงถ่ายเอกซเรย์ได้

เหตุฉะนั้น อาตมา (หลวงพ่อเปลี่ยน)​ จึงว่า

คอมพิวเตอร์สมัยนี้ ถ้าหลวงปู่จะกำหนดให้ไฟดับหมดทั้งห้องก็ได้ไม่มีปัญหาอะไร ทำสามารถทำได้ด้วยพลังจิต..."

#หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป






ปฏิบัติอย่างไรจึงจะได้กำไรสูง..

การปฏิบัตินี่เราต้องปฏิบัติให้มันง่าย ๆ และได้กำไรสูง นักค้ากำไรแต่ไม่เกินควร ถ้าเกินควรนั่นหมายความว่าคิดต้องการกำไรเลยนิพพาน นี่เกินควรแน่

ถ้าเป็นมนุษย์ต้องการนิพพาน ยังไม่เป็นการค้ากำไรเกินควร เพราะมนุษย์ทุกคนจะพบจุดความสุขจริง ๆ ก็คือที่นิพพาน ยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด จะถือว่ามีความสุขจริงจังนั้นไม่ได้

..การเอากำไรท่านบอกว่าอย่างนี้..

เวลาหัวค่ำอย่าลืมว่าเราเหนื่อยมามาก เหนื่อยตั้งแต่ตื่นใหม่ ๆ ตื่นขึ้นมากายยังไม่ทำงาน แต่ใจมันคิดแล้ว พอถึงเวลาค่ำร่างกายอยากพักผ่อน ถ้าเราไปเร่งเครื่องตอนนั้นจะลำบาก ร่างกายมันจะพักความง่วงมันก็เกิด เราก็ฝืนความง่วงคิดว่าเวลานี้ต้องทำใช้เวลาเท่านี้ อารมณ์จิตก็จะไม่ทรงตัว เมื่อความง่วงเข้ามาครอบงำความดีก็ไม่เกิด การนึกถึงอะไรจริงจังก็ไม่มี

** ท่านแนะนำว่า..
ถ้าทำไป จะนั่งก็ดี จะนอนก็ดี จะเดินก็ดีการเจริญสมาธิหรือวิปัสสนาญาณไม่ใช่นั่งอย่างเดียว นั่ง นอน ยืน เดิน ใช้ได้

ถ้าอยู่ตามลำพังจะนั่งแบบไหนได้ทุกอย่าง นอนก็ได้ เอนกายก็ได้ ยืนก็ได้ เดินก็ได้ เดินเขาเรียก "จงกรม" เป็นอันว่าทำได้ทุกอิริยาบท

แต่ถ้าบังเอิญเกิดความเพลีย ความง่วงขึ้นมาท่านบอก..จงอย่าฝืน นอนเลย นอนแล้วจับลมหายใจเข้าออก จับคำภาวนา แล้วภาวนาให้หลับไป ขณะใดถ้าจิตยังไม่ถึงฌาน มันจะยังไม่หลับ ถ้าจะถึงฌานเมื่อไร จะตัดหลับทันที

แล้วท่านก็บอกด้วยว่า..เราหลับไปกี่ชั่วโมง ท่านถือว่าเป็นการทรงฌานนั้นตลอดเวลาที่เราหลับจนกว่าจะตื่น ถ้าตายไปในเวลาหลับจะมีผลตามกำลังฌานทันทีนั่นคือ ตกนรกไม่ได้แล้ว

#หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
(หลวงพ่อฤๅษี..วัดท่าซุง)
#เพจคำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
Moddam Thammawong คัดลอกจาก
หนังสือพ่อสอนลูก(ปกสีทอง) หน้า ๔๑๖-๔๑๗ วัดจันทาราม(ท่าซุง)จ.อุทัยธานี







"...ธรรมดาจิตของบุถุชน เมื่อได้รับการกระทบกระทั่งจากสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา ถ้าไม่มีสติปัญญารู้เท่าทันแล้ว กิเลสย่อมแสดงอาการออกมาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นเครือข่ายของความ โลภ โกรธ หลง แล้วก็เกิดความทุกข์ขึ้นในใจ

เมื่อความทุกข์เกิดขึ้น ก็ไปโทษสิ่งภายนอกว่าเป็นต้นเหตุ โดยไม่พิจารณาภายในตัวเหตุที่แท้จริงคือใจตนเองนั่นแหละ เพราะสิ่งภายนอกทั้งหลายทั้งปวงนั้นมันเป็นธรรมชาติทีมีมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว เมื่ออายตนะของเรา คือตา หู จมูก ลิ้น กาย ไปสัมผัสอะไร เขาก็เพียงทำหน้าที่ของเขาเท่านั้น

เช่นตามีหน้าที่เห็นรูป หูก็มีหน้าที่ฟังเสียง เมื่อไปสัมผัสแล้วเขาไม่ได้ไปปรุงไปแต่ง ว่าเป็นนั่นเป็นนี่ มีแต่ใจเท่านั้นไปหลงสิ่งที่มาสัมผัส ให้คุณค่าให้ความหมายสิ่งต่างๆ ว่าดี ว่าชั่วต่างๆนานา แล้วกิเลสน้อยใหญ่ก็เกิดตามมา ท่านถึงว่าให้ฝึกใจ ฝึกด้วยสติ ฝึกด้วยปัญญา พิจารณาให้แยบยล เมื่อจิตมันรู้สาเหตุอย่างแจ่มแจ้งแล้ว มันก็จะวางของมันเอง

นี่คือการฝึกจิตให้มีอำนาจเหนือสิ่งทั้งปวง คืออารมณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นในใจนั่นแหละ ถ้ามีสติ มีปัญญาแล้ว จะเห็นว่าสิ่งทั้งปวงมันเป็นธรรมชาติที่มีอยู่แล้ว ไม่ว่าอะไรจะมาสัมผัสถ้ามีสติ มารทั้งหลายทั้งปวง ก็ไม่สามารถจะเข้ามาสู่จิตสู่ใจได้ มารในที่นี้ก็คือกิเลสที่เกิดในใจของเรานั่นเอง

ฉนั้นท่านจึงบอกว่า ให้ทำจิตให้มีอำนาจเหนือสิ่งทั้งปวง แล้วจะพ้นจากบ่วงแห่งมาร..."

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย






“น้ำสกปรก ไปล้าง สิ่งสกปรก
ยังไงๆ ก็สกปรกวันยังค่ำ
ถ้าจะล้างสิ่งสกปรกให้หมดจด
ต้องใช้น้ำสะอาดเท่านั้น
น้ำสะอาดก็ต้องมากพอ
จึงจะล้างสิ่งสกปรกให้สะอาดขึ้นมาได้
กิเลส เหมือนฝืน เหมือนไฟ
จะดับ “กิเลส” ได้ ต้องใช้ “ธรรม” ดับ
ขึ้นชื่อว่า ชาติบ้านเมือง
ต้องอาศัย คนมี “ธรรม” เท่านั้น
ที่จะพาชาติบ้านเมืองให้อยู่รอดได้”

ธรรมะ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี
แสดงธรรม ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย๓ กรุงเทพฯ







ความรู้สึกอับจนสิ้นไร้หนทาง
เป็นเรื่องน่าหดหู่ แต่หากมีทางให้เลือก
มากเกินไป เราก็อาจง่อยเปลี้ยได้เหมือนกัน
ยามที่มีหนทางหลากหลายให้เลือก เรามัก
กลัวจะเลือกผิด หรือกลัวจะไม่ได้เลือกทาง
ที่ดีที่สุด สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าไม่เลือก
ทางไหนสักทาง

ทุกวันนี้มีคำสอนทางพระพุทธศาสนา
มากมายหลายแนวให้เลือก นับเป็นเรื่องดี
อย่างยิ่ง ที่โลกสมัยใหม่เอื้อให้เราเข้าถึงธรรมะ
ได้ง่ายขนาดนี้ แต่เมื่อมีคุณก็มีโทษพ่วงมาด้วย
ถ้าเราเปิดปิดธรรมะได้ง่ายเพียงแตะหน้าจอ
เราอาจขาดความรู้ซึ้งว่าธรรมะเป็นสิ่งล้ำค่า
ข้อธรรมอาจกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผ่านตา
ในวันนี้ ซาบซึ้งอยู่ชั่วขณะ แล้วไม่นานก็จม
หายไปใต้เรื่องราวอื่นๆ ทั้งหลายทั้งปวง
แทนที่จะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการ
สร้างกำลังใจและกระตุ้นให้มุ่งมั่นปฏิบัติธรรม
เราอาจกลายเป็นเพียงผู้บริโภคธรรมะ ซึ่งได้
แต่สะสมคลิปวิดีโอและลิงค์ที่มีคุณภาพสูง

ธรรมะท้าทายให้เราพิสูจน์คำสอนด้วยการ
นำมาปฏิบัติ ด้วยความจริงใจและวิริยะ
อุตสาหะ สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะได้รับธรรมะ
ด้วยช่องทางใด เราต้องไม่ลืมว่าเป้าหมาย
คือ การชี้นำให้เราก้าวไป
บนเส้นทางสู่สัจธรรม ...

ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร






หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
ธรรมทาน #คำสอนหลวงพ่อ

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
ท่านสร้างระเบียบสร้างคำสอน
การปฏิบัติพระกรรมฐานเอาไว้ครบถ้วน
ทุกอย่าง ท่านหวังว่าจะให้โยมทุกท่าน
ที่สนใจในธรรมมีความเข้าใจ
ในพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

ท่านจึงสร้างคำสอนของท่านไว้
ครบถ้วนทุกอย่าง
ต่อไปนี้ก็จะขอสรุปเรื่องลัด ๆ
ตามอารมณ์อยาก
จะพูดอยากจะเขียนตามใจนึก

มีอยู่คราวหนึ่งหลังจากหลวงพ่อของเราได้มรณภาพลงแล้ว ปีพ.ศ. ๒๕๓๖
เดือนมีนาคมได้จัดงานประจำปีที่ศาลา ๒ ไร่
ได้นิมนต์พระผู้ใหญ่ที่หลวงพ่อ
เคารพนับถืออยู่มาหลายองค์
มีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา
มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ
มีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดเบญจมบพิตร
คราวนั้น หลวงพ่อท่านมรณภาพลงใหม่ ๆ
เราจัดงานกันเฉพาะลูกศิษย์เด็ก ๆ ทั้งนั้น
เมื่อจัดงานก็ต้องเอาของไทยทาน
ไปถวายพระผู้ใหญ่ อาตมาเองในฐานะตัวแทนสงฆ์ของวัดท่าซุง ก็เอาตำราที่
ดร.ปริญญา รวบรวมคำสอนของหลวงพ่อ
มาทำเป็นหนังสือเล่ม มารวมทำเล่ม
เอาคำสอนของท่านทุกอย่าง
เอามารวมเป็นเล่มใหญ่ เอาไว้เป็นตำราทางวัดหรือของญาติโยม มาจัดรวมกับไทยทานนำไปถวายท่านเจ้าประคุณสมเด็จวัดสามพระยา
เจ้าประคุณสมเด็จองค์นี้
ท่านเป็นผู้มีความรอบรู้พระธรรมวินัยทุกอย่าง เป็นผู้ที่รู้จริง ท่านก็บอกกับอาตมาว่า นี่คุณ หนังสือที่ท่านเจ้าคุณเขียนนี่ ที่ท่านเจ้าคุณพูด คุณถือว่าเป็นตำราในพุทธศาสนาได้นะ ถือว่าเป็นตำราได้เลย

เราก็ตอบว่า ครับ สิ่งเหล่านี้นี่ พระผู้ใหญ่ท่านเป็นกองตำราอยู่แล้วเมื่อท่านอ่าน ท่านเป็นนักปฏิบัติ ท่านเป็นนักปริยัติ ท่านรับรองอย่างนี้ ก็ตรงกับที่หลวงพ่อพูดไว้ว่า เป็นคำสอนที่พระพุทธเจ้าให้นำมาสอน พูดอย่างนี้จะหาว่า หลวงพ่อเราอวดอุตริวิเศษกว่าคนอื่นทั้งหมด ถ้าพูดอย่างนี้ เข้าใจอย่างนี้ จะผิดสักหน่อย เพราะพระที่ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ท่านก็พูดเหมือนกันอย่างนี้หลายองค์ ฉะนั้น ท่านทั้งหลายที่เอาหนังสือคำสอนของหลวงพ่อที่ทางวัดพิมพ์แจก
ก็ขอให้มั่นใจได้ว่าไม่ผิดแบบไม่ผิดแผน สามารถจะนำไปปฏิบัติได้ ถ้าปฏิบัติได้ก็จะมีมรรคผล ตามที่กล่าวไปแล้ว

=================
หนังสือประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
(วีระ ถาวโรมหาเถระ)

พระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ
เจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง)






เราจะไปกับพระพุทธเจ้าหรือจะไปกับพญามาร?
คิดดูให้ดี ถ้าเราจะไปกับพระก็ต้องมีสติอยู่กับลมหายใจเข้าออก ด้วยคำภาวนาว่า "พุทโธๆ" ให้เสมอๆ
ตัวมารมันจะมาเรียกร้องอย่างไรก็อย่าไปกับมัน

#โอวาทธรรมคำสอน
พระสุทธิธรรมรังสี (หลวงพ่อลี ธมฺมธโร)
พระสุทธิธรรมรังสี คัมภีรเมธาจารย์ หรือ ท่านพ่อลี
ฉายา ธมมฺธโร เป็นพระวิปัสสนาจารย์สายพระป่าในประเทศไทยศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต และอดีตเจ้าอาวาสวัดอโศการาม (จังหวัดสมุทรปราการ)


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO