ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง อันนี้ต้องท่องเยอะ ๆ นะโยมนะ ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง เราเป็นเจ้ากรรมนายเวรให้ใครไม่ได้นะจ๊ะ จะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของแม่ ของลูก...ก็ไม่ได้ เราเป็นลูกจะไปควบคุมแม่ เราเป็นแม่จะไปควบคุมลูกมากจนเกินไปก็ไม่ได้ แต่ว่าชี้แนะ ประคับประคอง ให้เหตุให้ผล อธิบายให้ฟัง...อะไรแบบนี้ได้ แต่ว่าบังคับให้เป็นไปตามใจเราทุกอย่างไม่ได้นะโยมนะ เพราะว่ามันจะกลายเป็นทุกข์ด้วยกันทั้งคู่เลยนะ
#พระอาจารย์เอกลักษณ์ #ปญฺญาคโม #วัดพุทธพรหมยาน
“หางานให้ใจ”
“ภาวนา คือ การอบรมจิตใจของเรา เช่น กำหนดพุทโธ เวลาเรา เข้าห้องพระเป็นเวลาที่เราว่างการว่างงาน สลัดปัดทิ้งเสียทั้งหมดให้มีงานบำเพ็ญใจ คือ จิตตภาวนาโดยถ่ายเดียวเท่านั้น ว่า อรหํ สมฺมา สัมฺพุทโธ
สวดมนต์ย่อ ๆ ได้ตามกำลังของเรา
แล้วให้นั่งเงียบหรือจะนั่งแบบไหนก็ตาม
สำคัญให้จิตเงียบสงบจากความคิดปรุงเรื่องสกปรกโสมมอันเป็นฟืนเป็นไฟต่าง ๆ เข้ามาสู่คำบริกรรม คือ พุทโธ หรือธัมโม หรือสังโฆ บทใดก็ตาม ให้มีสติจดจ่ออยู่กับคำบริกรรมบทนั้น ๆ เฉพาะใจ
ใจเมื่อมีงานให้ทำ คือ พุทโธเป็นงานของใจ หรือธัมโม หรือสังโฆ ตลอดอานาปานสติ เป็นงานของใจ
ให้สติจดจ่ออยู่กับงานนี้ไม่ต้องยุ่งกับงานอื่นใดเลย แล้วใจจะรวมกระแสแห่งความวุ่นวายส่ายแต่ของตน เข้ามาสู่จุดแห่งคำบริกรรมนี้
ความรู้อันนี้ก็จะเด่นขึ้นมาภายในตัวของเรา เมื่อจิตสงบเข้ามาเท่าไรความสงบความสุขจะปรากฏประจักษ์ขึ้นกับใจของเรา”
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
#วัดป่าบ้านตาดวัดเกษรศีลคุณ
ถ้าต้องการมีความสุข ก็ต้องกำจัดกิเลส กิเลสของตัวเอง กิเลสที่ใจตนเอง ไม่ใช่ไปตั้งหน้ากำจัดกิเลสของคนอื่น ... ... สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
" เครื่องแต่งตัวจะมีค่าราคาสูงขนาดไหน
และเนื้อตัวที่สะอาดดูดี ก็ มิได้หมายความว่า
ใจนั้นจะสะอาดด้วยเสมอไป
ฉะนั้นจงอย่าดูกันภายนอก
อย่าตัดสินคนอื่นที่ภายนอก "
พระครูปลัดจิรายุส จิรวฑฺฒโน( ครูบาทรงธรรม ) วัดป่าคายวนาราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
"...อย่าหวั่นไหวในคำติชมของคนทั้งหลาย เราทำดีเขาว่าดีก็มี เราทำชั่วเขาว่าดีก็มี เราทำดีเขาว่าชั่วก็มี ทั้ง ๓ อย่างนี้ ล้วนเป็นเครื่องหวั่นไหวทั้งสิ้น
ฉะนั้น ให้ยึดเอาการกระทำดี กระทำถูกของตนเองบนพื้นฐานแห่งองค์ศีลและหลักธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นสำคัญ ใครจะติชมอย่างไร ไม่ต้องยินดียินร้าย
ธรรมดาลมมันจะต้องพัด เปรียบเหมือนผลไม้ที่พอเริ่มเกิดออกมา มันก็จะต้องมีด้วงแมลง คอยกัดกินทำอันตราย คนเราที่ตั้งใจจะทำความดี ก็มักมีศัตรูคอยปองร้ายเช่นเดียวกัน
ให้เราทุกคนทำตัวให้เป็นประโยชน์เหมือนต้นไม้ ยึด พุทธานุสสติ เป็นราก, เมตตา เป็นลำต้น และขันติ เป็นยอดพุทธคุณให้ฝังไว้ในจิตใจ เมตตา ฝังไว้ในกายวาจา ขันติ เป็นแม่เหล็กอย่างแข็งแกร่ง..."
ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
..ทำดีย่อมได้ดี.. มีคนทั้งหลายเป็นส่วนมากเคยมาหาอาตมาบอกว่า..กฐินก็ทอด ผ้าป่าก็ทอด อุโบสถศีลก็รักษา บุญกิริยาใด ๆ ทั้งหมดปรากฏว่าทำทุกอย่าง แต่ทว่าบุญกุศลของตนนี้ไซร้ ไม่สามารถจะช่วยตนให้พ้นจากความทุกข์
ความรู้สึกอย่างนี้ เป็นความรู้สึกที่ผิดที่สุด คนทำบุญก็ได้บุญไปแล้ว ทั้งนี้เพราะอะไร?
คำว่า "บุญ" ก็คือ "ความดี" แต่สำหรับว่าทุกขเวทนาที่เกิดแก่ตนนี้นั้นมันเป็นผลของความชั่ว
ดังที่เคยแนะนำแก่พุทธบริษัทมาแล้วว่า..ผลของความดี หรือ ความชั่ว อย่างหยาบก็ได้แก่ "ศีล" ถ้าเราสร้างความดีอย่างหยาบได้ เราก็มีความสุข ถ้าความดีอย่างหยาบที่เรียกว่าอย่างต่ำที่สุดได้แก่ "ศีล"
ถ้ารักษาไม่ได้มันก็เป็นปัจจัยของความทุกข์ บางคนมีความดีในชาตินี้ครบถ้วน แต่ผลของความทุกข์มันก็ยังเข้ามาเบียดเบียนนั้น ผลของความชั่วในชาติของอดีตมันติดตามมา
ดังเราจะเห็นได้ว่า แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี สมัยเมื่อองค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ก่อนที่องค์สมเด็จพระประทีปแก้วจะเสด็จดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพาน ๑ วัน ปรากฏว่าวันนั้นตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำเดือน ๖
สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าสั่งให้พระอานนท์ประกาศแก่ภิกษุสงฆ์ทั้งหลายว่า..
"...อานันทะ ดูก่อน อานนท์ วันนี้เราจะไปสู่เมืองกุสินารามหานคร ใครจะไปกับเราบ้าง ก็บอกให้บรรดาพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายตามไปได้ตามอัธยาศัย..."
ปรากฏว่า ในเวลานั้นบรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายประมาณ ๒ แสนรูป ติดตามสมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา ในขณะที่เสด็จพระพุทธดำเนินนำบรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายไปประมาณ ๖๐ โยชน์
ความจริงพระพุทธเจ้าเหาะได้บรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายที่ติดตามไปก็เป็นพระอรหันต์ แต่ว่าไม่ใช่ทั้งหมดทีเดียว เกือบหมดก็เหาะได้ ถึงแม้ว่าพระทั้งหลายเหล่านั้นไม่สามารถจะเหาะได้ ด้วยอำนาจบุญฤทธิ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็สามารถจะพาพระทั้งหลายเหล่านั้นเหาะได้เช่นเดียวกัน
แต่ทว่า องค์สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่เหาะทั้ง ๆ ที่กำลังป่วยหนัก นี่จะเห็นว่ามีคนหลายคนอยากจะดูพระแสดงปาฏิหาริย์ ความจริงเรื่องปาฏิหาริย์นี่ ถ้าไม่มีความจำเป็นจริง ๆ เขาไม่ทำกัน
#หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม(ท่าซุง) จ.อุทัยธานี #เพจคำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน Moddam Thammawongคัดลอกจากหนังสือคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๖ หน้า ๓-๔
โอวาทธรรม คำสอน หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม อายุของมนุษย์นี้น้อยนัก เวลาแห่งความตายใครเข้ามาทุกวินาที จึงไม่ควรประมาท ควรรีบทำกิจที่ควรทำ รถแล้วคมเพลิดเพลินหลงใหลมัวเมาในสิ่งต่างๆ ให้เบาบางลง อย่างที่พระพุทธเจ้าทรงเตือน #โอวาทธรรม #คำสอน #หลวงพ่อจรัญ #ฐิตธัมโม
โอวาทธรรม คำสอน หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม อายุของมนุษย์นี้น้อยนัก เวลาแห่งความตายใครเข้ามาทุกวินาที จึงไม่ควรประมาท ควรรีบทำกิจที่ควรทำ รถแล้วคมเพลิดเพลินหลงใหลมัวเมาในสิ่งต่างๆ ให้เบาบางลง อย่างที่พระพุทธเจ้าทรงเตือน
#โอวาทธรรม #คำสอน #หลวงพ่อจรัญ #ฐิตธัมโม
#โอวาทธรรม #หลวงปู่เจี๊ยะ_จุนโท
โอวาทธรรมหลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท
ใจของคนเรานี่ มันคลุกคลีอยู่แต่ด้วยเรื่องโลกๆ ต่างๆ นานา และก็ทำให้ไม่สบายใจ ทำใจให้วุ่นวายเดือดร้อน กระวนกระวาย เพราะเราเข้าใจว่า เรื่องโลกนั้นเป็นสาระแก่นสาร จึงทุ่มเทจิตใจเข้าไป อย่างไม่มีการตรึกตรองพิจารณา ถ้าเปรียบอย่างหนึ่งเปรียบเหมือนแมลงเม่า เมื่อได้เห็นเปลวไฟอย่างนั้นแล้ว พากันบินโถมเข้าไป ผลที่สุดก็ไหม้ ลงร่วงอยู่ในกองไฟทั้งหมด ชีวิตของเราก็ย่อมเป็นเช่นนั้น ไม่เป็นสาระแก่นสาร หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
|