ก่อนที่จะพูดอะไรทั้งหมด ก็ขอเตือนเรื่องการทรงกำลังสมาธิ เวลาของสมาธิทรงให้ดีและมีสภาพแจ่มใส อย่าลืมว่า #จงอย่ามีความห่วงใยอะไรทั้งหมดขณะที่ทำสมาธิ กำลังใจของเราต้องดีตลอดวัน นั่นคือไม่ยกตนข่มท่าน ไม่สนใจ ไม่แส่ไปหาเรื่องในจริยาของบุคคลอื่น ใครเขาดีเขาจะเลวช่างเขา เราเห็นเขาเลวมากก็คือเราเลวมากเอง ถ้าเราเป็นคนดีในโลกนี้ไม่มีใครเลว ทุกคนอยู่ใต้อำนาจของกรรม และก็ไม่ถือตัวเกินไป อารมณ์อย่างนี้เป็น สะเก็ด ความดีในพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในอุทุมพริกสูตร และก็การเข้าถึง เปลือก ความดี คือ 1. ไม่ทำลายศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้บุคคลอื่นทำลายศีล ไม่ยินดีเมื่อบุคคลอื่นทำลายศีลแล้ว 2. สามารถระงับนิวรณ์ได้ทันทีทันใดที่ต้องการ 3. จิตทรงพรหมวิหาร4 4. และขอแถมอีกนิดหนึ่งคือ ในยอมรับนับถือความดีของพระพุทธเจ้า ความดีของพระธรรม ความดีของพระอริยสงฆ์ มีความรู้สึกว่าชีวิตนี้มันต้องตาย ถ้าตายเมื่อไรขอไปนิพพานเมื่อนั้น เมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัทและบรรดาเพื่อนภิกษุสามเณรท่านทรงอารมณ์ได้อย่างนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดในอบายภูมิต่อไปไม่มีแน่ จะเป็นการเกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉานเหล่านี้ ไม่มีต่อไปอีก มีอย่างเดียว คือมุ่งหน้าไปนิพพาน แลก็ถ้าหากว่าจะต้องเกิดใหม่ ก็มีการจำกัดเวลา ถ้าความเข้มข้นของจิตมีอยู่ เกิดเป็นมนุษย์อีกชาติเดียวเป็นพระอรหันต์ไปนิพพาน ถ้ามีกำลังจิตอ่อนลงมาเป็นอย่างกลางก็เกิดอีก 3 ชาติ จากคนแล้วก็ไปนิพพาน กำลังจิตย่อหย่อนไปมากหน่อย ก็เกิดอีก 7 ชาติไปนิพพาน แต่ว่าถ้าทรงกำลังใจอย่างที่ว่ามาทุกคน สาวกขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วพึงทราบว่า ถ้าตายจากคนไปเกิดเป็นเทวดาหรือพรหม เมื่อพระศรีอารย์มาตรัส ฟังเทศน์จบเดียวอย่างน้อยเป็นพระโสดาบันหรือพระสกิทาคามี ฟังเทศน์อีกครั้งสองครั้ง อย่างน้อยก็ไม่ช้านักได้เป็นพระอรหันต์ ====================== คำสอนพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน จากหนังสือคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม3 หน้า 81-82
#พ่อสอนลูก ธรรมทาน #คำสอนหลวงพ่อ
ลูกรักทั้งหลาย จงจำไว้ว่า ท่านกับเรามีสภาวะเหมือนกันคือ มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความเปลี่ยนไปในท่ามกลางและก็มีการสลายตัวไปในที่สุด
ท่านกับเราที่เสมอกัน เสมอกันโดย ไตรลักษณะ คือ อนิจจัง หาความเที่ยงไม่ได้ ทุกขัง เมื่อมีความเป็นอยู่ต้องทำมาหากิน ทรงอาชีพ เลี้ยงอาชีพ ทำงานการ สุขบ้างทุกข์บ้าง ไปตามสภาพของคนที่มีชีวิต ในที่สุดชีวิตก็สลายตัวไปจงจำไว้ว่าอย่าถือสัญญลักษณ์ของร่างกายเกินไปอย่าถือทรัพย์สินมากเกินไป จงจำไว้ว่าเราจะต้องตาย
ถ้าเรายังดีไม่พอ ตายแล้วเราก็เกิด เกิดแล้วเราก็มีทุกข์ เกิดเป็นคนมีทุกข์อย่างคน เกิดเป็นสัตว์มีทุกข์อย่างสัตว์ เกิดเป็นอสุรกายเป็นทุกข์อย่างอสุรกาย เกิดเป็นเปรตเป็นทุกข์อย่างเปรต เกิดเป็นสัตว์นรกเป็นทุกข์อย่างสัตว์นรก เกิดเป็นเทวดาสุขอย่างเทวดา เกิดเป็นพรหมสุขอย่างพรหม แต่สุขไม่นาน ผลที่สุดก็ละความสุขนั้นมาหาความทุกข์
สู้ไปพระนิพพานไม่ได้ นิพพาน มีความสุขที่เป็น เอกันตบรมสุข เป็นความสุขที่ยอดเยี่ยม จะหาความสุขใด เสมอไม่มี
=============== จากหนังสือ โอวาทหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เล่ม ๔ หน้า ๑๓
.. บารมีคนเราก็ต่างกันนะ ต้องสร้างบารมี ไม่ใช่ไปอยากร่ำรวยเหมือนเขา แต่ไม่ได้สร้างทาน ไว้ เราต้องสร้างทานศีลไว้ก่อน แล้วบารมีจะได้ค่อยเพิ่มพูน ..."
หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร วัดถ้ำสหายธรรมจันทร์นิมิต จ.อุดรธานี
ทำคุณงามความดีมันอบอุ่นไม่ใช่เล่นๆ นะ เป็นอยู่ในใจนี้ ใครไม่เห็นก็ตาม ก็เราเป็นคนทำเอง ทำบุญก็อยู่กับเรา ประกาศจ้าอยู่ในหัวใจเรานี้ ไปที่ไหนก็เย็นสบาย
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด
ธรรมทาน #คำสอนหลวงพ่อ
พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนว่าอย่างไร ? พระพุทธเจ้าบอก พยายามละความชั่ว ประพฤติความดี และทำใจให้ผ่องใส
#การละความชั่ว คือ #ไม่ละเมิดในศีลห้า หรือศีลแปด
#ประพฤติความดี คือ #ประพฤติตามนัยของศีลที่กล่าวมาแล้วนั้น ไม่ละเมิด แล้วก็ปฏิบัติตามศีล ทำจิตใจให้ผ่องใส ก็ได้แก่การระงับจิตจากความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง
ทำไมพระพุทธเจ้าจึงสอนเราอย่างนั้น ? ก็เพราะว่า พระองค์ทรงทราบดีว่า
#อัตภาพร่างกายนี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา
#ร่างกายเป็นแต่เพียงธาตุสี่ คือธาตุน้ำ ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุไฟ ประกอบเข้าเป็นเรือนร่างชั่วคราว
และเมื่อเกิดขึ้นในเบื้องต้นแล้ว มันก็มีความเสื่อมโทรมลงไปทุกขณะ แล้ว ก็มีการสลายตัวไปในที่สุด ที่เราเรียกว่าตาย
ถ้าหากว่า ร่างกายมันเป็นเราจริง เป็นของเราจริง มันก็ต้องไม่แก่ ก็ต้อง ไม่ป่วย แล้วก็ต้องไม่ตาย เราไม่ต้องการให้มันเป็นอย่างนั้น เมื่อถึงจังหวะ นั้น แล้วมันก็มีสภาพเป็นอย่างนั้น
ฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงกล่าวว่า มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
ทีนี้คำว่า “เรา” คือใคร ?
คำว่า เรา คือ #จิตที่อาศัยอยู่ในร่างกาย ร่างกายมีสภาพเหมือนบ้านเช่า ชั่วคราว เมื่อหมดอายุการเช่าแล้ว เขาก็ไล่เราไป บ้านนี่ก็พัง มันเป็น บ้านชั่วคราวเท่านั้น อาการพังอย่างนี้ เราเรียกกันตามภาษาชาวบ้าน เขาเรียกว่าตาย
ความตายนี่มันไม่มีนิมิต มันไม่มีเครื่องหมาย มันไม่มีเวลาแน่นอน ไม่ใช่ ว่าเราเกิดมาแล้วจะต้องครบอายุขัย ๗๕ ปี หรือ ๑๐๐ปี จึงจะตาย มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น มันจะตายเมื่อไรก็ได้ คนเกิดที่หลังเรา ตายให้เราเห็น ก็ตั้งเยอะ คนเกิดพร้อมๆ มากับเรา เขาตายให้เราเห็นก็มีมาก คนที่เขา เกิดก่อนแล้วตายก็มี
นี่ขึ้นชื่อว่า #ความตายเป็นของเที่ยง #ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง
ฉะนั้นขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จงอย่าเมาในชีวิต อย่าเมาในร่างกาย ตามพระธรรมคำสั่งสอน เราต้องการเอาดีกัน
จงนึกไว้เสมอว่า เราต้องตายแน่ คิดไว้
==================== จากหนังสือกรรมฐาน ๔๐ หน้า๑๖-๑๗
|