อย่าไปตำหนิคนอื่่น ถ้าจะตำหนิให้ตำหนิตนเอง เราก็ว่าเราดี เขาก็คงว่าเขาดี คนเรามันก็มีทั้งดีและไม่ดีอย่าไปว่ากัน ถ้าจะตำหนิก็ให้ตำหนิตนเอง
อย่าอยากได้อะไรมากมาย อยากได้มากก็กิเลสมาก อยากได้น้อยก็กิเลสน้อย ฝึกละความอยาก จะได้ละกิเลสออกจากตัว
ให้หมั่นทำบุญ รักษาศีล ตั้งใจภาวนา ละตัว ละตน ถ้ายังมีตัวมีตนก็ไม่ถึงนิพพาน ศาสนาพุทธเราก็มีแค่นี้ ให้หมั่นทำจะได้ไปถึงนิพพานกัน
โอวาทธรรม
#หลวงปู่ปั่น สมาหิโต
"ข้อวัตรปฏิบัติสำคัญสุด..."
"ขอให้สอนคนเข้าถึงพระรัตนตรัยเถอะ....
สิ่งเหล่านี้มันจะไม่จำเป็น พอพูดอย่างนี้มันต้องอธิบาย เดี๋ยวจะหาว่าไปลบล้างพระพุทธรูปอีก มันจะเสีย
จิตระดับของคน ถ้าจิตระดับไหน มันจะยึดเอาระดับนั้น เพราะฉะนั้นไม่ควรที่จะลบล้างกัน เพราะระดับจิตมันไม่เท่ากัน แต่เพียงแต่ว่า.... ถ้าถึงขั้นตรงนั้นแล้ว จะกราบได้ทั้งพระอิฐ พระปูน จะกราบได้... น้อมเข้ามาภายในอีกด้วย มันไม่ใช่จะสุดโต่ง ไอ้พวกสุดโต่ง แก่นก็แก่นเอาเลย ก่อนที่จะมีแก่นไม้ มันก็มาจากกระพี้ กระพี้ก็เปลือก เปลือกก็สะเก็ด ไปพูดอย่างนี้ ไปสุดโต่งไม่ได้นะ มันจะผิด พูดจะต้องอธิบายให้เขาใจด้วย ไม่งั้นหล่ะโอ้ย อะไรก็มีแต่ปรมัตถ์ๆ คนยังไม่ถึงระดับ คนพูดยังไม่ถึงระดับเลย มันก็จะอะไร นึกเอามันก็นึกได้ ความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ ยิ่งข้อวัตรปฏิบัติ เป็นการที่จะก้าวไปถึงตรงนั้น อะไรก็จะไม่เอาๆ
เหมือนเด็กทุกวันนี้แหละ ทำอะไรก็จะทำสบายๆ แต่อยากได้เงินเยอะ คนทุกวันนี้ปฎิบัติก็ไม่ปฎิบัติ อยากจะได้มรรคผลเร็วๆ อันเดียวกันนั้นแหละ มันลัดไปลงเหว มันไม่ลัดไปไหนนั้นนะ ลัดไปลงเหว ทางที่กรมทางเขาตัดให้ เขาส่องกล้องเขาคิดแล้ว เขาจึงตัดไป พอตัดเขา เขาก็ตัด ถ้าตัดไม่ได้เขาจึงโค้งไป
#คำสอนของพระพุทธเจ้าก็เหมือนกัน...
"#เป็นสาวกชาตธรรม คือตรัสไว้ชอบแล้วนั้น ตัดทั้งตรัส"
อย่างกรมทางหลวง เขารู้ว่าทางนี้จะไปไหน เขาตัดจนสมบูรณ์แล้ว ใกล้สุดแล้ว
#คำสอนพระพุทธเจ้ามาตรัสชอบแล้ว.... จะมารื้ออะไร ทางลัดอย่างนั้น ทางลัดอย่างนี้ รู้เร็วอย่างนั้น รู้เร็วอย่างนี้ ปัดโธ่!....นี้มันกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ
ในวงชาวพุทธเราเนี่ย มันก็เข้าได้กับคนขี้เกียจ คนมักง่าย มันจะเอาความมักง่ายไปทำลายกิเลส....
"หลวงปู่มั่น" พ่อแม่ครูจารย์ว่า สลบ 3 ครั้ง พ่อแม่ครูจารย์เท่าไหร่ นั่งจนก้นพอง ก้นแตก
ตัวมีแต่เสื่อแตก หมอนแตก แบกหมอนแบกเสื่อไปนิพพาน #พยายามอย่าหาความสะดวกสบาย.... หาวิธีที่จะบรรลุธรรมได้ง่ายๆ พระพุทธเจ้าหามาพอแล้ว จะไปเอาอะไร เอาความคิดเป็นสวรรค์นิพพาน ถึงบอกคิดเอามันได้เมื่อไหร่ นู่น ไปทำเอา
#ท่านว่า.... ปริยัติ ศึกษาเล่าเรียนมาก่อน ปฏิบัติเข้าไปสิ สมแก่เหตุ ปฏิเวธ เกิดขึ้นมาจากเหตุคือการกระทำ..
พระยุคนี้ คนยุคนี้ ดูไม่ได้ฟังไม่ได้เลยนะ..... เราถึงสอนลูกศิษย์ลูกหาเรา #ข้อวัตรสำคัญที่สุด ถ้าพระไม่มีข้อวัตร พระไม่มีพื้นฐาน เมื่อไม่มีพื้นฐานมันจะเอาอะไร ฐานตั้งแต่ ศีล สมาธิ ปัญญา และข้อวัตรทำความเป็นพระ หล่อหลอมความเป็นพระ มันต้องมาจากพวกนี้ทั้งนั้น ไม่เอาอะไรทั้งนั้นพระยุคนี้ เพราะฉะนั้น....
เมื่อมันไม่มีสิ่งเหล่านี้ ปากพูดอย่างหนึ่ง กระทำอีกแบบหนึ่ง จิตใจไปอีกแบบหนึ่ง ท่านถึงให้มีข้อวัตรปฏิบัติไง..."
โอวาทธรรม
#พระอาจารย์โสภา สมโณ
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
"ลมปากมนุษย์มันพอใจมันก็ว่าให้ดี ที่ลมปากมนุษย์มันไม่พอใจมันก็ด่าให้ว่าให้ อย่าไปเป็นทุกข์เป็นร้อนทำใจของเราให้วางเฉย พุทโธอยู่ในดวงใจให้จิตใจเย็นสบายเป็นเครื่องอยู่อาศัยภายในใจของเรานี่เอง
บางคนเมื่อถูกความติเตียนนินทาเหมือนเอาน้ำร้อนมาลวกเข้าไป เต้นเหย็งๆ คือว่าไม่ภาวนา ว่าลมแรงยังไม่แรงเท่าลมปาก เขาว่าอย่างนั้น ลมแรงนั้นนานๆ จึงจะพัดมาทีหนึ่ง แต่ลมปากมนุษย์นั้นมันพัดอยู่ทุกวันเวลา ใครไม่ภาวนาก็เป็นทุกข์เป็นร้อน ถ้าเขาสรรเสริญเราก็ไม่ควรดีใจ ถ้าเขานินทาว่าร้ายป้ายสีก็ไม่ควรเสียใจ เพราะความสรรเสริญนินทานี้ ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน ความเที่ยงแท้แน่นอนมันอยู่ในจิตใจทุกคน ตั้งจิตตั้งใจให้มั่นคง"
โอวาทธรรม...หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
“ความเที่ยงแท้แน่นอนในโลกนี้ จะเอาที่ไหน ไม่มี ผู้ปฏิบัติจงรู้เท่าทัน รู้เท่าทันแล้วก็ปล่อยวาง อย่าเข้าไปยึดไปถือ อย่าไปยึดว่าตัวกูของกู ตัวข้าของข้า ตัวเราของเรา เราเป็นนั้นเป็นนี้ ตัวเราของเราไม่มี มีแต่ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม มีแต่หลักอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาทั้งโลก”
โอวาทธรรม..หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
"เห็นสิ่งใด ไม่ชอบสิ่งใด ให้วางเฉย กรรมทั้งหลายทั้งปวง เมื่อถึงเวลาจะส่งผลเอง"
โอวาทธรรม...สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
|