"..#ก่อนจะมาเป็นเราแต่ละคนในภูมิมนุษย์นี้ ต่างก็ได้เป็นอะไรต่อมิอะไร มาแล้วมากมาย นับชนิดนับชาติไม่ได้ เป็นกันทั้งเทวดาสัตว์ใหญ่เล็ก รวมทั้งมนุษย์ชายหญิง คนดีคนจน คนสวยคนไม่สวย คนพิการคนไม่พิการ ขาวดำ ไทยจีน แขกฝรั่ง ต่างเคยมีเคยเป็นกันมาแล้วทั้งนั้น แม้เป็นผู้ระลึกชาติได้ก็จะสลดสังเวชยิ่งนัก และอาจจะสละละวางความโลภความโกรธความหลงได้เป็นอันมาก
#เห็นสุนัขขี้เรื้อนสักตัว แล้วลองนึกว่าครั้งหนึ่งเราก็เคยเป็นเช่นเดียวกัน เคยกระเซอะกระเซิงเที่ยวหาอาหารกิน ถูกคนตี ถูกสุนัขด้วยกันกัด ถูกใครทั้งหลายที่ได้มาประสบพบผ่านแสดงกิริยาวาจารังเกียจเกลียดชัง ไม่ยอมแม้แต่จะให้เข้าไปใกล้เพื่ออาศัยร่มเงากันแดนกันฝน ก้อนอิฐก้อนหินก็ถูกทุ่มขว้างใส่ให้ต้องถึงเลือดตกยางออก ตกใจกลัวภัยนานา แต่จะบอกกล่าวอ้อนวอนให้ผู้ใดเห็นใจก็ทำไม่ได้ อย่างมากก็เพียงเปล่งเสียงโหยหวนที่หามีผู้เข้าใจในความทุกข์ร้อนไม่
แม้นึกไปในอดีตเช่นนี้ สมมุติตัวเองว่าในภพชาติหนึ่งเป็นเช่นนี้ นึกให้จริงจังเช่นนี้ จะเกิดความกลัวกรรมเพราะย่อมได้ความเข้าใจว่า กรรมไม่ดีแน่แท้ที่ทำให้ชีวิตต้องเป็นเช่นนั้น.."
พระนิพนธ์ 'ชีวิตนี้น้อยนัก' สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
กราบ กราบ กราบ...โอวาทธรรมคำสอน หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
... " การภาวนา คือ วิธีเตือนตน สั่งสอนตน ตรวจตราดูความบกพร่องของตน ว่าควรจะแก้ไขจุดใดตรงไหนบ้าง"
จากประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต โดย พระธรรมวิสุทธิมงคล หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี
พระกรรมฐานมันมีหลายประเภทแท้เด้....
ประเภทนึงพาญาติพาโยมภาวนา....
ประเภทนึงพาญาติโยมสวดมนต์โคบๆๆๆๆๆ....
ประเภทนึง พาผู้แส่ผู้สาวไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่ แยงก้นกัน บ่ทันดนกะตาย...แม่นบ่ เหมารถคันดี ๆ ซะแหล่ว...
“เลี้ยงวัวใกล้นา เลี้ยงม้าใกล้ข้าว“ เหมารถเหมาลา แล้วกะพาผู้สาวไปเที่ยวแหล่วบัดหนิ
“เว่าหน่อยบ่พอคาย เว่าหลายเป็นโทษ“ แม่นบ่ ...!
คติธรรม หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร
...โลกถูกความแก่และความตายบดขยี้อย่างนี้เอง ปราชญ์ทั้งหลายรู้เท่าทันกระบวนความเป็นไปของโลกแล้ว จึงไม่เศร้าโศก...
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
การเข้าคอร์สอบรมวิปัสสนา ๗ คืน ๘ วัน ก็ถือว่ายังเป็นเวลาที่น้อยอยู่การฝึกอบรมปฏิบัติ มันก็จึงยังไม่เพียงพอต่อดวงตาแห่งธรรม เราก็ต้องนำไปปฏิบัติต่อ
จะรอปีหน้ามาเข้า อีก ๓๐๐ กว่าวันปล่อยไปตามเรื่อง มันก็ไม่ไหว เหมือนเสื้อผ้าที่ใส่ทุกวันแล้วไม่ซักเลย เก็บปีหน้ามาซักสัก ๗ วันมันก็ไม่ไหว กว่าจะซักไปได้ กว่าจะผ่านนิวรณ์ง่วงเหงาหาวนอน ฟุ้งซ่าน หมดไป ๓ วันแล้ว ฉะนั้นปฏิบัติพอจะได้จริง ๆ ไม่กี่วัน #ชีวิตทำงานทำการดำเนินชีวิต #ก็เจริญภาวนาไป #ซักฟอกจิตใจไปด้วย #เราจึงจำเป็นต้องซัก #เสื้อผ้าใส่ไปซักไป #จะรอเก็บมาซักเก็บมาปฏิบัติทีมันก็ไม่ไหว #ต้องคอยขัดเกลาไป ทำไป ฝึกไปเรื่อย ๆ
โดยเฉพาะรอไม่ได้ #ชีวิตนี้มันรอไม่ได้ #ความตายไม่เคยผลัดเพี้ยน เราไม่สามารถผลัดเพี้ยนต่อความตายได้ ว่ารอก่อน ฉันให้ได้อายุครบ ๗๕ ปีเต็มอายุขัยค่อยตาย เขาไม่ได้ฟัง พญามัจจุราชไม่ได้ฟังเราหรอก
แล้วเราเท่าไรแล้วตอนนี้ ผ่านมาครึ่งหรือยัง ถ้าโดยวันหนึ่งก็เข้ามาตอนบ่ายหรือเย็นแล้ว อย่างน้อยก็ครึ่งวันไปแล้วเท่าที่ดู
ความตายมาถึง #เราต้องนึกไว้เรื่อยๆความตาย #มันจะช่วยให้เราไม่ประมาท #นึกถึงความตายทำให้ไม่ประมาทในชีวิต #ลงสู่อมตธรรมได้ #พระพุทธเจ้าตรัสมรณานุสติ #พอมันเกิดความไม่ประมาท #มันก็จะพากเพียรวิริยะอุตสาหะ #ไม่ย่นย่อท้อถอยต่อการปฏิบัติ #ที่สุดก็สามารถทำที่สุดแห่งทุกข์
ส่วนมากก็คือเราประมาท พระพุทธเจ้าจึงให้ความสำคัญถึงความไม่ประมาท เพราะพอประมาทเสียแล้ว มันก็หมดแล้ว คุณธรรมความดีทั้งหลายมันก็เลยไม่ได้ทำ
จึงได้ตรัสเตือนไว้เป็นปัจฉิมวาจาว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราขอเตือนพวกเธอทั้งหลายว่า #สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปสิ้นไปเป็นธรรมดา #เธอทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด นี่เป็นพระวาจามีในครั้งสุดท้ายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ต้องปฏิบัติประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่นให้เต็มที่ กับวันเวลาที่ผ่านไปหมดไป ผ่านไปแต่ละวัน ๆ ชีวิตเราก็สั้นลง เหลือน้อยลง ๆ
ธรรมบรรยาย เส้นทางสายนิพพาน ธรรมปิดคอร์สกรรมฐานผู้เรียนพระอภิธรรม ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ............................. ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา
"บุคคลผู้ประสงค์จะแก้บาปนั้น นอกจากการนั่งสมาธิภาวนาแล้ว ไม่มีวิธีอย่างอื่นที่จะแก้ได้ เพราะมีอานิสงค์มาก เป็นวิธีแก้จิตที่เป็นบาป ให้กลับมาเป็นบุญได้ แก้จิตที่เป็นโลกีย์ ให้เป็นโลกุตระได้ เมื่อแก้จิตให้บริสุทธิ์ดีแล้ว บาปอกุศลก็หลุดหายไปเองพึงเห็นองคุลิมาลเป็นตัวอย่าง"
โอวาทธรรม - หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
เมื่อทำบุญเสร็จไปแล้ว ให้พวกเราตั้งจิตอธิษฐานนะ สาธุเน้อ ผู้ข้า เกิดมาภพใดชาติใด คำว่าลำบาก อย่าได้มี ให้มีแต่ความเจริญ รุ่งเรืองในศีลในธรรม อย่าได้พบคนพาล อย่าได้พบ สิ่งที่มันไม่ดี
คติธรรมหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
#โอวาทธรรม หลวงปู่จาม มหาปุญโญ
"...ธรรมะอันหนึ่งเป็นสังขารธรรม เป็นสังขตธรรม คือแปรปรุงไปเรื่อยตามเรื่องของโลก ตามเรื่องของ เรื่องจึงเป็นโลก ใครมาถือเอาธรรมะนี้ก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ บ่ใช่ตัวบ่ใช่ตน
แล้วอีกอันก็คือวิสังขารธรรม เป็นธรรมะอันที่มิใช่ สังขารใดๆ เพราะหมดการปรุง หมดการแต่ง หมด อนิจจัง หมดทุกขัง เป็นอนัตตา เป็นธรรมะ แต่มิใช่ ธรรมะอันกำเริบอีกเหมือนแต่ก่อน เป็นฐีติธรรม ยืนตัวอยู่โดยธรรม รูปเป็นธรรม นามเป็นธรรม ว่าไปก็เป็นเรื่องเข้าใจยากเพราะคิดเอาไม่ได้ คาดคะเนเอาไม่ได้ ต้องรู้ด้วยตนเอง ต้องเห็นด้วย ตนเอง
คำว่า เห็นด้วยตนเอง คือว่า สังขารทั้งปวงนั้นเป็น ของมีอยู่ แต่งตามของที่มีอยู่ ปรุงมาแต่ของที่มีอยู่ แล้วก็เมาหลงในของที่มีอยู่ จึงเป็นสังขาร หากไม่หลง ไม่เมา ไม่ทุกข์แล้วประการใดๆ ก็เป็นวิสังขารธรรม เป็นธรรมะหมดอาการ คือหมดอาการปรุงแต่งใดๆ..."
#ที่มา หนังสือ บทธรรม พระจาม มหาปุญโญ
|