นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อังคาร 30 เม.ย. 2024 12:45 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: จิตใจสงบ
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 06 มี.ค. 2024 5:34 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
"วันนี้สุขภาพดี พรุ่งนี้อาจป่วยก็ได้
วันนี้ธุรกิจรุ่งโรจน์ พรุ่งนี้ธุรกิจอาจล้มละลาย
วันนี้ครอบครัวราบรื่น แต่พรุ่งนี้ครอบครัว
อาจแตกแยก ยังไม่ต้องพูดถึงคนรักที่วันนี้ยังอยู่
แต่พรุ่งนี้อาจล้มหายตายจากไป

จำเพาะคนที่ตระหนักถึงความไม่แน่นอนของชีวิต
เห็นความไม่เที่ยงของสุขที่มีอยู่ จึงจะตระหนัก
ถึงความจำเป็นในการเข้าหาศาสนา หรือปฏิบัติธรรม

แต่ส่วนใหญ่แล้ว มักเพลิดเพลินในความสุข
จนประมาท มองไม่เห็นความเป็นอนิจจังของชีวิต
และโลก จึงไม่คิดจะเตรียมพร้อม จะตื่นตัว
ก็ต่อเมื่อภัยมาประชิดตัว แต่ถึงตอนนั้นก็อาจสาย
ไปก็ได้ คือ โดนทุกข์ท่วมทับปางตาย ถึงตอนนั้น
จึงค่อยเห็นคุณค่าของธรรม และนึกถึงศาสนาขึ้นมา"

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล





“ขอจงแน่ใจว่า การทำดีแม้ไม่มีใครเห็น
ความดีก็ย่อมสำเร็จโดยสมบูรณ์แล้ว

ในขณะเดียวกัน ความชั่วที่ถูกกระทำลง
แม้ไม่มีใครรู้เห็น ความชั่วก็ย่อมสำเร็จ
โดยสมบูรณ์แล้วเช่นเดียวกัน

บุคคลผู้มีความมั่นใจดังนี้
ย่อมพร้อมพลีตนสามารถเสียสละ
ความสุขสบาย หรือแม้แต่สละชีวิตได้
เพื่อรักษาความถูกต้องชอบธรรม”

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณฯ



อย่าอิจฉา คนดี … อย่าทำให้เขา เลิกทำดี …

…. อย่ากีดกั้น .. คนดี ไม่ให้ได้ดี ….

…… จะเป็น มิจฉาทิฏฐิ ….

พระคุณ #หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ




#อัตตนา_โจทยัตตานัง
จงสำรวจตรวจตาดูตัวเอง
อย่าไปค้นคิดหาความผิดของผู้อื่น
ใครจะดีจะชั่ว จะผิดจะถูกมันก็เรื่องของเขา
ไม่ใช่เรื่องของเรา อย่าไปเอาเข้ามาให้ตัวเองเป็นทุกข์...

ในโลกนี้ มีดีมีชั่ว มีผิดมีถูก มันเป็นธรรมประจำโลก
ออกจากโลกนี้ไม่มีดีมีชั่ว

เราไม่สามารถไปแก้โลก แก้คนอื่นสิ่งอื่นได้หรอก
ให้แก้ที่ใจเรานี้ จบที่นี้ พ้นทุกข์ก็พ้นที่ใจนี่

โอวาทธรรม
พระราชวชิรวาที วิ.
(หลวงปู่สมบูรณ์ ขันติโก)




ถ้าเราอยากจะเรียนภาษาอังกฤษก็ต้องเรียนเอ (A) บี (B) ซี (C) ดี (D) ให้คล่องเสียก่อน อักขระให้จบเสียก่อน ภาษาไทยก็เหมือนกัน ถ้าเราจะเรียนสูงขึ้นไปก็ต้องเรียน ก.ไก่ ข.ไข่ ฃ.ขวด ค.ควาย ให้จำให้แม่นเสียก่อน จากนั้นก็เรียนอักขระ จากนั้นก็ผสมอักขระ จากนั้นจึงจะเรียนขั้นตอนต่อไปได้ นี่ก็เหมือนกัน ถ้าเราจะภาวนา เราจะข้ามขั้นโดยที่ไม่มีสมาธิเอาเสียเลยเป็นไปไม่ได้นะลูกหลาน มันเริ่มตั้งแต่ศีลนั่นแหละ ต้องมีศีลเสียก่อน

ทำไมจึงเกี่ยวข้องกับศีล ศีลสำรวมกายวาจาให้เรียบร้อย ให้เป็นผู้มีศีลก่อน ถ้าเป็นผู้มีศีลแล้ว สำรวมกายวาจาแล้ว เราก็ไม่มีโทษ นั่งภาวนาจิตใจของเรานิ่งจิตใจของเราก็สงบ ไม่วิตกกังวลในเรื่องต่าง ๆ

ถ้าหากว่า จิตใจเราไม่มีศีล ไปฆ่า ไปตี ไปลักขโมย ไปทำอะไรสิ่งที่มันชั่วมาหยก ๆ แล้วมานั่งภาวนา ไม่มีทางที่จิตใจจะสงบได้ มีแต่เรื่องวิตกกังวล ว้าวุ่น ปรุงนั้นปรุงนี้ ปรุงนี้ปรุงนั้น จะสงบได้ยังไง เพราะตัวเองไปทำความชั่วมาใหม่ ๆ หมาด ๆ ไม่สำรวมกาย ไม่สำรวมวาจา จะมานั่งภาวนาเป็นไปไม่ได้นะ

เพราะฉะนั้น มันเกี่ยวเรื่องศีลด้วย ศีลคือรักษากายวาจาให้เรียบร้อย เมื่อกายวาจาเรียบร้อยแล้วนะ เราก็มานั่งภาวนา เราไม่ได้ทำความชั่วเสียหาย การกระทำของเราไม่ได้ฆ่าสัตว์ ไม่ขโมยทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่ดื่มสุรา แล้วก็วาจาของเราก็ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ วาจาของเราสำรวมเป็นผู้มีศีล ในเมื่อกายวาจาของเราเป็นผู้มีศีลแล้ว เรานั่งภาวนา จิตใจของเราก็เข้าสู่ความสงบนิ่งนะ

เมื่อจิตใจของเราเข้าสู่ความสงบนิ่ง เป็นหนึ่งได้ จากนั้นเราจะรู้ได้ว่าร่างกายของข้าพเจ้าเป็นส่วนหนึ่ง จิตใจของข้าพเจ้าเป็นส่วนหนึ่ง จากนั้นก็มองกาย มองกายแล้วก็มองใจ ในเมื่อมองใจ พระพุทธเจ้าท่านก็บอกว่า มนุษย์เรานี้มันหลงอะไร หลงร่างกาย ตามที่จริงมันหลงอย่างอื่นนั่นแหละ แต่พระพุทธเจ้าให้พิจารณา ให้ดูร่างกายของตนเองก่อน ลองพิจารณาดูสิ ร่างกายของเรานี้เราเกิดมาเห็นไหม เกิดมาแล้วก็แก่ แก่แล้วก็เจ็บ เจ็บแล้วก็ตาย จริงไหม ในเมื่อพิจารณาเห็นความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตายของคนอื่น เราก็เหมือนกันนั่นแหละ ไม่เป็นอย่างอื่น ไม่แพ้กัน เราก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย ในที่สุด

เพราะฉะนั้น หลักของพระพุทธศาสนาท่านบอกว่า ร่างกายไม่ใช่ตัวตนของเรานะ ใจนะ ใจก็คือความรู้สึกนึกคิดนั่นแหละ ให้พิจารณาว่าร่างกายไม่ใช่ตัวตนของเรานะ ถ้าหากว่าเป็นของเรา จะบอกว่า ร่างกายอย่าแก่นะ อย่าเจ็บนะ อย่าตายนะ มันบอกได้ไหม มันบอกไม่ได้ ในเมื่อเป็นสิ่งที่บอกไม่ได้แล้วจะเป็นของเราได้อย่างไร มันเป็นแต่เพียงพึ่งพาอาศัยกันเท่านั้นเอง

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “รักษาศีล ฝึกสมาธิ เพื่อปัญญาสู่ความหลุดพ้น”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๕


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO