นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 02 พ.ค. 2024 12:19 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 03 ก.พ. 2024 10:41 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4546
“เอาสติมาตั้งที่ กาย เวทนา จิต ธรรม แล้วขณิกสมาธิก็เกิดขึ้นมา เมื่อขณิกสมาธิเกิดขึ้นมาแล้ว ก็จะรู้เห็นตามความเป็นจริง ฉะนั้นคนมีวิริยะจะพบความสําเร็จ หากก้าวถอยแล้วปล่อยจิตของเราลอยละล่อง ก็จะเป็นเช่นเดียวกับปลาตาย ไม่ยอมว่ายทวนกระแสน้ำเลย"
...............................
#โอวาทธรรม
พระเดชพระคุณพระพรหมมงคล วิ.
(หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล)





ถ้าเราคิดว่าเกิดมา"ใช้กรรม"เราก็จะใช้กรรมไม่จบไม่สิ้นแต่ถ้าหากเราคิดว่าเกิดมา"สร้างกรรมดี"เราก็จะทำสิ่งดีๆเพื่อสะสมบุญ

โอวาทธรรม:พระอาจารย์จรัน อนังคโณ





#ทุกข์

..." ทุกข์ เดี๋ยวนี้เกิดขึ้นเพราะเสียข้าวของ ทุกข์เพราะความพลัดพราก ทุกข์เพราะอยากได้แล้วไม่สมหวัง ทุกข์เพราะสิ่งเหล่านั้น ทุกข์เพราะคนนั้นๆ ทุกข์จนมากมายถึงอย่างนี้

... แต่ความจริงแล้ว ทุกข์เพราะไม่รู้ในตัวปรุงตัวแต่ง ไม่รู้เท่าทันในตัวสังขาร ที่มันเป็นตัวนำฟืนนำไฟเป็นตัวเพาะเชื้อ คือฟืนไฟ มันทุกข์เพราะอันนี้ ทุกข์เพราะกิเลสตัณหา กิเลสตัณหาก็เกิดจากการปรุงการแต่ง ตัวสังขารนี่ล่ะเป็นเหตุ ทุกข์เพราะอันนี้ ในเมื่ออันนี้ไม่มี ได้ก็ไม่ทุกข์ เสียก็ไม่ทุกข์ ไม่มีอะไรก็ไม่ทุกข์ มีอะไรก็ไม่ทุกข์เพราะสิ่งที่มีนั้น มีลาภก็ไม่ทำให้ทุกข์ ไม่มีลาภเสื่อมลาภก็ไม่ทำให้ทุกข์ มียศก็ไม่ทำให้ทุกข์ เสื่อมยศก็ไม่ทำให้ทุกข์ เพราะขาดตัวที่ทำให้ทุกข์เกิด มันได้ดับไปแล้ว

...จึงให้พากันตรวจดูให้กว้างขวาง ความสับสนวุ่นวาย ความฟุ้งซ่านอยู่ตรงไหน แก้ตรงจุดความสับสนวุ่นวายนั้น วิธีแก้มีหลากหลาย แก้ด้วยเหตุผล เอาความเป็นจริงยกขึ้นมา ให้ความฟุ้งซ่านยอมรับให้ใจยอมรับ ในเมื่อใจยอมรับความเป็นจริง ใจก็สงบ ไม่ต้องมีเหตุผลอะไร "
______________________________________________

พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร ( หลวงปู่แบน ธนากโร )
วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร






ความสุขทั้งหลายเกิดจากศีลผู้ที่จะไป"นิพพาน"ก็ไปได้เพราะ"ศีล"

โอวาทธรรม:หลวงตาศิริ อินฺทสิริ





..คนเข้าวัดฟังธรรมจำศีลก็เพื่อชำระกายวาจาใจนั่นเอง เพื่อให้ร่างกายผ่องแผ้วสะอาดบริสุทธิ์ คือเป้าหมายของพวกเราทั้งหลาย เหตุฉะนั้นควรที่จะภูมิใจในชีวิตที่เราได้มาพบพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่สูงสุด สุดยอดของการทำคุณงามความดี เรียกว่านิพพานังปรมังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สุขอย่างยิ่งที่เราปรารถนาอยู่นั้น ก็ค่อยๆเป็นไป ค่อยๆเดินทาง ให้ปฏิบัติไปเรื่อยๆ เหมือนเราเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางที่เราจะไปในเมืองนั้น ก็เดินไปเรื่อยๆก็จะใกล้เข้าไปเรื่อยๆ แก้ปัญหาไปเรื่อยๆ มันก็จะทำให้ถึงที่สุดแห่งความทุกข์ได้เหมือนกันทุกท่านทุกคน..

..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป..
วัดอรัญญวิเวก ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่





บุญ ตามความหมายที่แท้จริง หมายถึงการชำระใจให้สะอาด การชำระใจให้ผ่องแผ้ว ถ้าเราทำบุญแล้วเราไม่ได้ทำใจของเราให้โปร่งเบา หรือชำระจิตใจของเราให้สะอาด อันนั้นก็เป็นบุญที่แท้ไม่ได้
การทำบุญด้วยหวังผลดลบันดาล คือ ให้ร่ำรวย มีชื่อเสียง หรือว่ามีหน้ามีตา มียศศักดิ์ มีอำนาจ
ประการที่สอง บุญที่แท้จะต้องก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วย ถ้าทำบุญแล้วคนอื่นไม่ได้ประโยชน์ หรืออานิสงค์ไม่เกิด ไม่แผ่ไปถึงผู้อื่น อันนั้นก็เป็นบุญไม่ได้ เช่น มีความเข้าใจว่า ทำบุญด้วยการไปเช่าวัตถุมงคลแล้ว ก็สามารถไปดูดทรัพย์จากคนอื่นได้ การไปดูดทรัพย์อย่างนี้เป็นการเบียดเบียน
ผู้อื่น จะเรียกเป็นบุญที่แท้ในทางพุทธศาสนาไม่ได้ ขอให้พิจารณาเวลาทำบุญว่า ถ้าทำแล้วไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่น แล้วไม่ก่อให้เกิดความสงบใจ หรือช่วยลด ช่วยละกิเลสในจิตใจของเราแล้ว ก็ให้เข้าใจว่า "ไม่ใช่บุญ"

#สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ






"..สงสารมนุษย์ที่มัวเพลิดเพลินกับเงาไม่เข้าเรื่องราวกับเด็กอมมือ ตายแล้วก็จะล่มจมกันที่น่าเสียดายและสงสารมาก แต่ช่วยอะไรไม่ได้ พากันทำตัวเหมือนสัตว์ที่เขาขังไว้ต้มแกงเป็นอาหาร ยังมัวเพลินกันอยู่ ดูซิ สัตว์ที่เขากำลังจูงไปฆ่ามันรู้ตัวเมื่อไร ยังเพลินกัดหญ้าไปตามทาง ถ้ามันรู้จะไม่เพลินกัดหญ้าเป็นอันขาด นอกจากมันจะไล่ขวิดไล่ชนคนที่จูงมันพุงทะลุไปในเวลานั้นเท่านั้น คนที่เชื่อธรรมที่ให้ความปลอดภัยไร้ทุกข์แก่สัตว์โลก ก็เป็นคนประเภทสัตว์ที่รู้ตัวว่าเขากำลังจูงไปฆ่านั่นเอง จะไม่ประมาทนอนใจ รีดไถกอบโกยกันแบบสัตว์กัดกินหญ้าตามทางในเวลาที่เขาจูงไปฆ่า จะงดสิ่งเลวร้ายมหาภัยแก่ตนและผู้อื่นทันทีไม่ชักช้า ก้มหน้าทำแต่ความดีงามสุจริตยุติธรรมต่อกันถ่ายเดียว โลกก็สงบร่มเย็นเพราะต่างเห็นใจกัน.."

โอวาทธรรมโดย
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี (พ.ศ. ๒๔๓๑ -๒๕๒๖)




นักพูดหาง่าย นักปฏิบัติหายาก
เพราะเขาเรียนกันแต่พูด
มิใช่เพื่อปฏิบัติ
พูดแล้วได้เงินและดังด้วย
ปฏิบัติไม่ได้เงิน ไม่ดังแต่ได้ธรรม

หลวงปู่เทสท์ เทสรังสี




“ถึงจิตจะไม่สงบก็ไม่ควรให้มันออกไปไกล
ใช้สติระลึกไปแต่ในกายนี้ ดูให้เห็น
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อสุภสัญญา
หาสาระแก่นสารไม่ได้ เมื่อจิตมองเห็นชัดแล้ว
จิตก็จะเกิดความสลดสังเวช
เกิดนิพพิทา ความหน่าย คลายกำหนัด
ตัดอุปาทานขันธ์ได้เช่นเดียวกัน”

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล







จิตเราไปยึดในวัตถุ วัตถุก็เปลี่ยนแปลง

จิตเราไปยึดในอารมณ์ อารมณ์ก็เปลี่ยนแปลง

…………. จิตเราไปหวังอะไร ……….

,,,,,, ให้เที่ยงแท้แน่นอน ไม่ได้เลย ,,,,,

พระคุณ #หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ







การที่จะชี้ให้เห็นใจของตนได้เร็วที่สุด

คือต้องโดนกระทบ เมื่อกระทบแล้วคิดไม่คิด ปรุงไม่ปรุง

ตนก็จะรู้ตัวเองเป็นอย่างดี หากมีสติเท่าทันตนเองนะ

โอวาทธรรม พระชินวัตร ฐิตโสภโณ (ครูบาแหวง)


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO