นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 02 พ.ค. 2024 2:35 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: กุศลธรรม
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 22 ม.ค. 2024 6:18 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4546
…ทำความชั่วจึงเป็นเหมือนกับว่ายตามน้ำ
ทำความดีเหมือนกับว่ายทวนน้ำ

.อันไหนจะยากจะง่ายกว่ากัน
ว่ายทวนน้ำก็ต้องยากกว่า ๒ เท่า
ต้องมีความอดทนมากกว่า
ว่ายตามน้ำไม่ต้องมีความอดทนเลย
ไม่ต้องว่ายเลย เพียงทำให้ตัวลอยเท่านั้น
กระแสน้ำก็พาไปแล้ว

.ปัญหาของพวกเราอยู่ตรงนี้
กระแสของพวกเรามันทวนกระแส
ของพระนิพพาน ของสวรรค์ มันจึงยากกัน
ครูบาอาจารย์ ท่านจึงสอนให้ทวนกระแส.

…………………………………………
.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

จุลธรรมนำใจ ๑๒ กัณฑ์ที่ ๓๗๙
วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑







"ค่อย ๆ
สอนจิต ให้รู้...ขึ้นมา
ไม่ใช่...บังคับมัน(ให้รู้)

ถ้าบังคับ...
เดี๋ยวก็จะ เป็นบ้า."
____________________________________
หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง.





คนที่ไม่มีพระรัตนตรัย
เป็นที่พึ่ง จะเป็นที่พึ่งของ
ใครไม่ได้ พึ่งตัวเองก็ไม่ได้

ไม่มีทางออก

บางคนพอคิดอะไรไม่ออก
ก็คิดสั้นฆ่าตัวตายไป
ให้เป็นวิบากกรรม
ติดตามไปในภพหน้า
ชาติหน้าต่อไปอีก
ชั่วกาลนาน

มีหลายคนแล้วที่
ประสบกับปัญหาเข้า
ขั้นวิกฤติ ยามเข้าตาจน
แล้วรอดปลอดภัย
จากเหตุการณ์ จาก
ปัญหาร้ายแรงมาได้
อย่างคาดไม่ถึง

เป็นเพราะเขาระลึก
นึกถึงคุณของพระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์
เป็นที่พึ่งบ่อยๆ เพียง
น้อมระลึกนึกถึงก็ได้บุญกุศล

ทำให้ผ่านพ้นวิกฤต
ไว้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

วิสุทธิเมตตาธรรม
คำสอน หลวงปู่ท่อน ญาณธโร






" #ทำความชั่วขณะใด
ผลของกรรมชั่วปรากฎที่ใจในขณะนั้น
ทำความดีขณะใด
ผลของกรรมดี ปรากฏที่ใจขณะนั้น "
________________________________________
พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร ( หลวงปู่แบน ธนากโร )








ในโลกนี้ เราเลือกได้ ว่าเราจะเลือกดี หรือเลือกเอาไม่ดี

เรามาปฏิบัติวิปัสนานั้น เรามาฝึก ยอมรับความจริง กายนี้ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

ยอมรับความจริง ให้เป็นไปตามหน้าที่ แก้ใขทุกเมื่อ

พระเดชพระคุณ หลวงพ่อ จำเนียร สีลเสฏโฐ






"กงจักรอันใหญ่หลวงคือ ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย มันกำลังบดเราอยู่ มันเป็นของจริง เราจะมัวไปหอบเอาอันโน้น อันนี้มา มันก็เป็นธรรมเมาเท่านั้นแหละ อารมณ์ก็สัญญานี่แหละ สัญญาไปจำมันมา ใจเรารับมันมา คิดไป คิดมา มันก็เดือดร้อนอีก เวลานี้เรามาทำความพอ อะไร ๆ ก็ให้มันพอ หลงก็พอแล้ว โลภก็พอแล้ว โกรธก็พอแล้ว อันนี้เป็นรากเป็นเง่าของกิเลสตัณหาทั้งหลาย ความพอใจก็เพราะตัณหา ความไม่พอใจก็เพราะตัณหานี่แหละ..."

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ






"น้ำมัน กับน้ำท่า
มันต่างกัน เหมือนกับคนฉลาด ก็ต่างกับคนโง่

พระพุทธเจ้า
ก็ทรงอยู่กับรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระอรหันต์ พระองค์จึงทรงเห็นสิ่งเหล่านี้...
เป็นเพียง...สิ่งสักว่า เท่านั้น

พระองค์...
ทรงปล่อยวางมันไปเรื่อย ตั้งแต่ทรงเข้าพระทัย
แล้วว่า...
ใจ...ก็สักว่าใจ
ความคิด...ก็สักว่าความคิด
พระองค์ไม่ทรงเอามันมาปนกัน ถ้าคิดได้
รู้สึกได้อย่างนี้ เราก็จะแยกมันได้

ความคิด ความรู้สึก
อยู่...ทางหนึ่ง
ใจ...ก็อยู่...อีกทางหนึ่ง

เหมือนกับน้ำมัน กับน้ำท่า
อยู่ในขวดเดียวกัน แต่...มันแยกกันอยู่."
___________________________________________
หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง.







"ผู้ปฏิบัติธรรม...
ต้องทำตัวดุจผ้าขี้ริ้วซึ่งไม่มีราคา ใครจะเช็ดเท้า หรือเหยียบย่ำไปด้วยดินโคลนของโสโครก หรือสะอาดอันใด ก็ไม่มีความรังเกียจ หรือยินดียินร้าย ดังเช่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ซึ่งทรงลดทิฐิมานะของพระองค์ ในการเป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ ขัตติยราชชาติสกุล ลง
มาเป็นนักบวชอย่างคนธรรมดาสามัญ ถือบิณฑบาตเที่ยวเดินไปตามหมู่บ้านชนบทน้อยใหญ่ โดยมิได้ทรงคำนึง ว่าอาหารที่ได้มานั้นจะเป็นของดีเลวหยาบ หรือประณีตประการใด พระองค์ก็ทรงรับไว้และบริโภคได้ทั้งสิ้น

ฉันใดก็ดี ผู้ปฏิบัติทั้งหลายก็ควรจะต้องดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์ พยายามปลด ปล่อย ละ วางทิฐิมานะ ถือตัวถือตน ความโอ้อวดในคุณธรรม ความรู้ความฉลาด และชาติสกุลของตน ๆ ว่าเราเป็นพระ เป็นเณร เป็นอุบาสิกา เราเป็นคนดี คนวิเศษกว่าคนนั้นคนนี้

เราจะต้องทำตัวให้มีความรู้สึกดุจผ้าขี้ริ้ว
หรือพรมเช็ดเท้า ยอมรับความดีความชั่วทั้งหลายได้โดยดุษณภาพ หรือโดยชื่นตาชื่นใจ
ถ้าหากเราไม่ยอมลดทิฐิมานะของตนลง
ต่อเหตุการณ์ของโลกเหล่านี้ได้แล้ว เราก็ไม่สามารถที่จะก้มหัวลง สู่...ข้อปฏิบัติได้อย่างเต็มใจ."

................................................................

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
บันทึกธรรมของท่านอาจารย์ที่แสดง
ณ วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
เมื่อวันที่ ๒๐–๒๑ ธันวาคม ๒๕๐๒
(แม่ชีมธุรปาณิกา บันทึก)








"ให้พากันละบาปและบำเพ็ญบุญ อย่าให้เสียชีวิตลมหายใจไปเปล่าที่ได้มีวาสนามาเกิดเป็นมนุษย์"และ"เราเกิดเป็นมนุษย์มีความสูงศักดิ์มากแต่อย่านำเรื่องของสัตว์มาประพฤติ มนุษย์ของเราจะต่ำลงกว่าสัตว์และจะเลวกว่าสัตว์อีกมาก เวลาตกนรกจะตกหลุมที่ร้อนกว่าสัตว์มากมาย อย่าพากันทำ"

โอวาทธรรม:หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล





ธรรมะอรุณสวัสดิ์...รับวันใหม่
.............................
เวลาชีวิตจริงประจำวันของฆราวาส
เราไม่ได้มานั่งนิ่ง ๆ อยู่
วางภาระธุระทุกอย่าง ไม่ทำอะไร
กำหนดอยู่ข้างในกายใจตัวเอง
มันก็ทำไม่ได้ใช่ไหม...?

ชีวิตฆราวาสต้องทำงาน
ต้องพูด ต้องฟัง ต้องคิด
ต้องมีสมมติอารมณ์เข้ามา
จะไปนั่งนิ่ง ๆ หลับตาในการทำการงานก็ไม่ได้
ต้องรู้เรื่อง รู้สมมติ
ฟังเขาพูดจิตก็ต้องแปลไปว่า
พูดอะไรหมายความว่าอย่างไร

ฉะนั้นการเจริญสติในชีวิตประจำวัน
ที่เราอยู่กับชีวิตวิถีการงานมันจึงต้องแบ่งกันไป
ในการรู้ทั้งเรื่องของ...
สมมติบัญญัติอารมณ์ต่าง ๆ ก็ต้องรู้
สภาวะปรมัตถ์ที่เป็นปัจจุบันก็ต้องรู้
มันต้องรู้ทั้งสองด้าน

การปฏิบัติมันก็จะต้องภาระมากขึ้น
ในการที่จะต้องบริหารจิตใจ
ที่จะต้องรับไปทั้งสองฝ่ายสองด้าน
ทั้งอารมณ์บัญญัติอารมณ์ปรมัตถ์สลับกันไป
จะไปเน้นปรมัตถ์อย่างเดียวก็ไม่ได้
การงานก็ไม่รู้เรื่อง ทำไม่ถูก

ส่วนถ้าไปแต่บัญญัติไปแต่สมมติ
ไม่เคยรู้ตัว ไม่รู้สภาวะ ก็คือไม่ได้ปฏิบัติ
ก็เหมือนคนทั่วไปที่ไม่ได้ปฏิบัติ
จิตใจก็จะไปเรื่องสมมติ
ไปเรื่องอดีตอนาคตสัตว์บุคคลตัวตนเราเขา
ไม่เคยที่จะรู้ตัวในการจะใส่ใจ
ดูกายดูใจดูสภาวะ
ซึ่งจิตใจมันก็จะวุ่นวาย

จิตใจที่ครุ่นคิดมากวุ่นวายมาก
มีเรื่องราวประสบเหตุการณ์
ที่ต้องเสียใจก็จะเสียใจมาก โกรธมาก
ฟุ้งมาก โลภ โกรธ หลง
ก็ทำให้จิตใจวุ่นวาย เป็นทุกข์

ทุกข์ใจก็มาทุกข์กาย
ทุกข์กายก็ไปทุกข์ใจ

คนไม่ได้ปฏิบัติธรรมมันก็จะมีทุกข์เยอะ
แต่ถ้าเรามีกรรมฐาน
แทรกอยู่ในวิถีชีวิตประจำวัน
ความทุกข์เราก็จะลดลง กายใจก็จะเบาลง
ถึงจะมีทุกข์ก็ยังลดลง
หรือทุกข์กายแต่ใจไม่ทุกข์
หรือทุกข์น้อยลงสำหรับผู้ปฏิบัติ

ผู้ไม่ปฏิบัตินี่มันทุกข์เยอะ
เวลาสูญเสียก็เศร้าโศกมาก
เวลาผิดหวังก็ทุกข์อกทุกข์ใจมาก
เวลาเจอปัญหาเจอเรื่องราวอะไรต่าง ๆ
จิตใจสับสนวุ่นวาย ฟุ้งซ่าน
คิดมาก เครียด หนักอกหนักใจ
ถ้าไม่ปฏิบัติมันก็จะไปแบบนั้น
............................
ธัมโมวาท โดย‎หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา







#เพียรสอดส่องมองย้อน

"...ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว
มันก็แปรปรวน แตกดับไป ไม่มีอะไรเที่ยงยั่งยืนเลย
จะเป็นเรื่องดี เรื่องชั่วอะไรก็ตาม มันเกิดขึ้นแล้วมันก็
ดับไป จึงไม่เป็นสิ่งที่ควรยึดถือเอา โดยเฉพาะเรื่องชั่ว
เรื่องที่จะทำให้ใจเกิดความโลภ ความโกรธ ความหลง
ไปต่างๆ นานา มันล้วนแต่เป็นเรื่องที่ไม่ควรยึดถือไป
ทั้งนั้นนะ

ถ้ายังยึดถือไว้ มันก็จะก่อให้เกิดความโลภ ความโกรธ
ความหลงขึ้นมา ก่อให้เกิดมานะทิฏฐิขึ้นในใจ ก็จะทำ
ให้ใจหันไปทางอกุศล วิตกไปในทางอกุศล แล้วเมื่อใจ
มันน้อมไปทางอกุศลแล้ว มันก็ใช้กายทำ ใช้วาจาพูด
ไปในทางอกุศล ความชั่วร้ายทั้งหลายที่แสดงออก
ไปทางกาย ทางวาจานั่นนะ มันก็ออกไปจากจิตที่มัน
ไม่สงบนี่เอง อย่าไปโทษคนอื่นว่าอย่างโน้นอย่างนี้
มาเบียดเบียนตน ตนถึงได้โกรธ ตนถึงได้เดือดร้อน
เป็นทุกข์ ไม่ควรจะไปโทษคนอื่นอย่างนั้น โทษตนเอง
ที่ไม่ฝึกจิตใจ ให้ตั้งมั่นต่อกุศลธรรม มันถึงไม่มีปัญญา
รู้เท่าความดีความชั่วในโลกนี้ พระพุทธเจ้าท่านจึงสั่ง
สอนให้ปราบตัวเองนั่นแหละ ไม่ใช่ไปปราบคนอื่น..."

#ที่มา หนังสือ ๑๐๐ ปี ชาตกาล หน้า ๒๖๒ - ๒๖๔
พระสุธรรมคณาจารย์ ( หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ )






มากกว่า ๒๕๕๐ ปีที่ผ่านมาแล้ว
พระตถาคตอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า
ได้ตรัสพยากรณ์ถึงภัย ๕ ประการที่จะมาในอนาคตว่า
๑ ภิกษุจักชอบจีวรสีงาม ละผ้าบังสุกุล
๒ ภิกษุจักชอบอาหารบิณฑบาตรอันประณีต
ละการบิณฑบาตร ละการฉันในบาตร
๓ ภิกษุจักพอใจในเสนาสนะอันสวยงาม ละโคนต้นไม้
๔ ภิกษุจักคลุกคลี ในภิกษุทั้งหลาย ในภิกษุณีทั้งหลาย
ในสามเณรทั้งหลาย ในคนวัด ( ลูกศิษย์ลูกหา )
แล้วจักพูดคุย ถือพรรค ถือพวก ถือศิษย์ ถือญาติโยม
บอกใบ้เพื่อ ลาภยศ ลาภผล

“โอวาทธรรมหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ”
คัดจาก หนังสือโพธิ์พระเบื้องพุทธบาท
( มหาปุญฺโญวาท ๕ )


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO