นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 02 พ.ค. 2024 3:22 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ศีล สมาธิ ปัญญา
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 15 ม.ค. 2024 4:53 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4546
"..ศีล นั้นอยู่ที่ไหนมีตัวตนเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้รักษาแล้วก็รู้ว่า ผู้นั้นเป็นตัวศีล ศีลก็อยู่ที่ตนนี้ เจตนาเป็นตัวศีล เจตนาคือจิตใจ คนเราถ้าจิตใจไม่มีก็ไม่เรียกว่าคน มีแต่กายจะทำอะไรได้ ร่างกายกับจิตต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เมื่อจิตไม่เป็นศีล กายก็ประพฤติไปต่างๆ มีโทษต่างๆ ผู้มีศีลแล้วไม่มีโทษ จะเป็นปกติแนบเนียนไม่หวั่นไหว ไม่มีเรื่องหลงหา หลงขอ
คนที่หา คนที่ขอต้องเป็นทุกข์ ขอเท่าไหร่ยิ่งไม่มี ยิ่งอดอยากยากเข็ญ

กายกับจิตเราได้มาแล้ว มีอยู่แล้ว ได้มาจากบิดามารดาพร้อมบริบูรณ์ จะทำให้เป็นศีลก็รีบทำ ศีลมีอยู่ที่เราแล้ว รักษาได้ไม่มีกาล ได้ผลไม่มีกาล

ผู้มีศีลย่อมเป็นผู้องอาจกล้าหาญ ผู้มีศีลย่อมมีความสุข ผู้จักมั่งคั่งบริบูรณ์ไม่อด ไม่ยาก
ไม่จน ก็เพราะรักษาศีลให้สมบูรณ์ จิตดวงเดียวเป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา
ผู้มีศีลแท้เป็นผู้หมดเวรหมดภัย.."

พระครูวินัยธร(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร






#คำว่า...อนุโมทนา...
เป็นคำที่แสดงความรู้สึกที่เรียกว่า...มุฑิตา

มุฑิตา...นั้นคือความรู้สึกผ่องใสเบิกบาน
ที่เกิดขึ้นในจิตที่สามารถชื่นชมอย่างแท้จริง
ในความดี ความงาม ความเจริญ และความสุข
ที่เป็นบุญเป็นกุศลของผู้อื่น

มุฑิตา...คือคุณธรรมที่คอยประหัตประหารความอิจฉา

สำหรับผู้ที่เจริญมุฑิตาภาวนา...เป็นประจำ
จะเป็นแหล่งความสุขในชีวิตประจำวัน...

#พระอาจารย์ชยสาโรภิกขุ







#ในวันหนึ่งๆ_สูเจ้าเพิ่มบุญได้อยู่หรือ..!!

"... เป็นบุญอยู่หรือเป็นศีลธรรมพระพุทธะ
อยู่หรือ.. ​สูเจ้ายังจะได้เกิดในโลกอันนี้อีก
อย่าทำบาปนะ
... ไหว้พระ ทำบุญให้ทาน ศีล ๕ ฝึกหัดไป
ถ้าไม่ได้ข้อวัตรเบื้องต้นนี้แล้ว ก็นับว่า.. แย่ที่สุด ..."

#พุทโธ_พุทโธ_พุทโธอยู่ในใจ..!!

"... ฝึกภาวนาบ้างหนา อย่าเอาแต่จะให้
ทานอย่างเดียว การให้ทานก็ดีอยู่หรอก
แต่ให้มีศีล ๕ ด้วย ให้ภาวนาด้วย ..."
------------------------------------
#หลวงปู่จาม_มหาปุญโญ
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม จังหวัดมุกดาหาร






” มีแต่งานอดิเรก “

…งานทางโลกที่ทำไปนี้
ประโยชน์จะตกอยู่ที่ร่างกายกับที่กิเลส
เพราะจะเอารายได้มาหาความสุขทางโลกกัน

.ถ้ามีรายได้พอจุนเจืออัตภาพร่างกายแล้ว
มีเวลาที่จะปฏิบัติธรรมได้
ก็ควรหยุดงานทางโลก
เพื่อมาปฏิบัติธรรมจะดีกว่า

.ครูบาอาจารย์ทุกรูปก็ทำอย่างนี้กัน
งานทางโลกท่านก็สละหมดแล้ว
ท่านถึงเป็นสรณะเป็นที่พึ่งของเราได้
เป็นที่พึ่งของท่านได้

.เพราะท่านสละงานทางโลกไป
แล้วก็ทุ่มเทกับงานทางธรรม
ปฏิบัติธรรมอย่างเดียว
ศึกษาปฏิบัติธรรมจนสำเร็จ
ก็จะไม่มีงานที่จะต้องทำอีกต่อไป.

…………………………………………
.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

จุลธรรมนำใจ ๑๙ กัณฑ์ที่ ๔๐๖
วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๒






การทำบุญทำทาน บ่แมนสิให้พระไปจกกระเป๋าญาติโยม เขากะมีปากมีท้อง มีลูกมีเต้าสิต้องเลี้ยงดู ให้เขาทำบุญด้วยจิตอันเป็นกุศลของเขาเอง จั๊งสิได้อานิสงส์หลาย พระมีแต่บาตรมีแต่บริขารที่พระพุทธเจ้าเพิ่นแต่งไว้ถ่า นั้นหละนาของพระ พระพุทธเจ้าเพิ่นเฮ็ดไว้ถ่า บาตรหน่วยเดียวกินบ่เบิด ศาลากะสิบืนสร้างอยู่ แต่สิสร้างตามกำลังที่มีอยู่ เฮ็ดไปเรื่อยๆ ญาติโยมถ้าเขามีใจศรัทธาอยากทำบุญนำเขากะสิมาซอยเองหละ สิให้ทางนี้(ทางนี้ ท่านหมายถึงตัวของท่านเอง)ไปขอดไปเคี่ยวกะบ่คือ ศาลาที่มีอยู่กะพอใช้อยู่ แต่ว่ายามเป็นการเป็นงาน แต่พระกะบ่พออยู่ ญาติโยมได้ไปลี้กินข้าวในป่า นี้หละ เอาตามสภาพกรรมฐาน อยู่ง่ายๆ กินง่ายๆ อยู่นำดงนำป่าไปจั๊งซั้นเหล่ว ครูบาอาจารย์บ่พาอยู่หรูๆหราๆจั๊กเทือ พระป่าพระดงกะจั๊งซี้หละ ขาดแน่พอแน่มันธรรมดา นี้หละอยู่แบบกรรมฐาน นอนอยู่กะได้ภาวนา ย่างอยู่กะได้ภาวนา เฮ็ดเวียกอยู่กะได้ภาวนา บ่มีคนมากวน พากันภาวนาเด้อ พุทโธๆ ย่ำมันเข้าไปโลด อย่าพากันประมาท พระพุทธเจ้าเพิ่นบ่ตั๋วเฮาดอก

โอวาทธรรม
พระอาจารย์บุญมา อภิปุญโญ
วัดป่าบุญมาวาส ต.ชื่นชม อ.ชื่นชม จ.มหาสารคาม





"..คนเราถ้ายอมรับความจริงตามหลักศาสนาที่สอนไว้ ตัวย่อมได้รับความเป็นธรรม คือตัวเย็น ผู้เกี่ยวข้องมากน้อยก็เย็น โลกร่มเย็นไม่ค่อยมีการทะเลาะเบาะแว้งแย่งชิง เพื่อแข่งดิบแข่งดีกันให้เดือดร้อนไปทั้งสองฝ่าย ซึ่งสุดท้ายก็เป็นไฟไปตาม ๆ กัน ไม่มีใครได้ครองความสุขดังใจหวัง เพราะเอาใจดวงกำลังเป็นไฟทั้งกอง เข้าไปเป็นหัวหน้าว่าความในกิจการในโรงในศาล ในเรื่องต่าง ๆ ไม่มีประมาณ ด้วยเหตุนี้แลคนเราจึงหาประมาณความทรงตัวได้ยาก อยู่ที่ไหนก็ร้อนเป็นฟืนเป็นไฟไม่เป็นสุข เพราะใจแบกกองไฟไว้กับตัวตลอดเวลา ไม่คิดจะปลงวางลงบ้าง พอได้หายใจไกลทุกข์ประสบสุขเสียบ้าง.."

พระครูวินัยธร(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร อ้างอิงที่มาหนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ






"..กามกิเลส.."

"..การต่อสู้กามกิเลส เป็นสงครามอันยิ่งใหญ่
กามกิเลสนี้ร้ายนัก มันมาทุกทิศทุกทาง
พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริง ก็ถอนได้

กามนี้มันหมุนรอบโลก มันเป็นเจ้าโลก
กามกิเลสนี้แหละ ที่ทำให้เกิดสงครามต่อสู้กัน
เกิดก็เพราะกาม ตายก็เพราะกาม รักก็เพราะกาม ชังก็เพราะกาม

กามทุกอย่างนี้เรียกว่ากามกิเลส
การต่อสู้กามกิเลสเป็นสงครามอันยิ่งใหญ่
กามกิเลสนี้ร้ายนัก มันมาทุกทิศทุกทาง
ความพอใจก็คือกิเลส ความไม่พอใจก็คือกิเลส กามกิเลสนี้อุปมาเหมือนแม่น้ำ
ธารน้ำน้อยใหญ่ไม่มีประมาณไหลลงสู่ทะเลไม่มีที่เต็มฉันใดก็ดี กามตัณหาที่ไม่พอดี ภวตัณหา วิภวตัณหา เป็นแหล่งก่อทุกข์ ก่อความเดือดร้อนไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งหมดอยู่ที่ใจ สุขก็อยู่ที่ใจ ทุกข์ก็อยู่ที่ใจ ใจนี่แหละคือตัวเหตุ ทำความพอใจให้อยู่ที่ใจนี่

หมั่นเพียรและตั้งสัจจะให้มั่น
รักษาศีล รักษาตา รักษาหู รักษาตัว รักษาปาก สำรวมอินทรีย์ รักษาธาตุ ๔
ขันธ์ ๕ พิจารณาเข้าไป ตจปัญจกกรรมฐาน ๕ กายคตากรรมฐาน พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงก็จะถอนได้

พวกหมู หมา เป็ด ไก่ มันก็เสพกามกันทั่วแผ่นดิน อย่าได้ไปอัศจรรย์
มีแต่ศีล สมาธิ ปัญญา ผู้ใดรักษาศีล
ภาวนาเข้าจนเกิดสมาธิแล้ว สติก็ดิ่งเข้าไปแล้ว
ก็จะได้ทำจิตทำใจของตนให้บริสุทธิ์
พระธรรมแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ ท่านชี้เข้าหาใจนี่แหละ
ทำใจให้บริสุทธิ์ ให้มีสติสัมปชัญญะนำคืนออกให้หมด ถ้ามีสติแล้วก็นำความผิดออกจากกายจากใจของตน อย่าหลงสมมติทั้งหลาย มีรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อย่าเอามาหมักไว้ในใจ

กามตัณหาเปรียบเหมือนแม่น้ำไหลไปสู่ทะเล ไม่รู้จักเต็มสักที อันนี้ฉันใด ความอยากของตัณหามันไม่พอ ต้องทำความพอจึงจะดี
เราจะต้องทำใจให้ผ่องใส ตั้งอยู่ในศีล ตั้งอยู่ในทาน ตั้งอยู่ในธรรม ตั้งอยู่ในสมาธิก็ดี
ทุกอย่างเราทำความพอดี ความพอใจนำออกเสีย ความไม่พอใจก็นำออกเสีย
เวลานี้เราจะพักจิต ทำกายของเราทำใจของเราให้รู้แจ้งในกายในใจของเรานี้ รู้ความเป็นมา วางให้หมด วางอารมณ์ วางอดีตอนาคตทั้งปวง ที่ใจนี่แหละ

เรื่องสังขารนี้ สังขารมันปรุง สังขารมันแต่ง
มันเกิด มันแก่ มันเจ็บ มันดับ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา วางอยู่นี่แหละ อดีตอนาคตมันก็มานี่แหละ ตัดอดีตอนาคตลงหมด จิตดิ่งอยู่ในปัจจุบัน รู้ในปัจจุบัน ละในปัจจุบัน วางในปัจจุบัน ทำจิตทำใจของเราให้สว่าง ให้รู้แจ้งในมรรคในผล ในศีล สมาธิ ปัญญา
เอาที่ใจนี้แหละ ให้มันสำเร็จขึ้นที่ใจ

เวลาปฏิบัติจริงกิเลสมันมาได้ทุกทิศทุกทาง
ใจนี้มันสำคัญ เหตุมันเกิดจากใจนี้ ตั้งสัจจะจริงกายจริง วาจาจริงใจ อย่าหลงไปตามเขา ตามอารมณ์ ละทิ้งความที่เกิดขึ้นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย สมบัติของเจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหมดนี้
เป็นที่ตั้งของทาน เป็นที่ตั้งของมรรค เป็นที่ตั้งของพระนิพพาน จงละและวางให้เป็นพุทโธ ละวางหมดก็เป็นสุข ปล่อยวางก็สบาย.."

พระธรรมเทศนาโดย
หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO