นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 03 พ.ค. 2024 4:48 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ภาวนาได้บุญมาก
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 31 ส.ค. 2023 5:06 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4546
“ ต้องเห็นว่า เป็นธรรมดา “

…สิ่งที่เราเห็นว่าเป็นธรรมดา
นักปราชญ์เช่นพระพุทธเจ้า
กลับเห็นว่า..เป็นทุกข์

.สิ่งที่เราเห็นว่าเป็นทุกข์
นักปราชญ์กลับเห็นว่าเป็นธรรมดา

.เราเห็นความแก่ เจ็บ ตายเป็นทุกข์
แต่ท่านกลับเห็นว่าเป็นธรรมดา
เกิดมาแล้วต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย
ท่านจึงไม่คิดที่จะหนีมัน

.พวกเรากลับเห็นมันเหมือนเป็นไฟ
เราจึงพยายามหนีความแก่
หนีความเจ็บไข้ได้ป่วย หนีความตายกัน

“ แต่..หนีเท่าไหร่ก็หนีไม่พ้น “.

…………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

กำลังใจ ๓๘ กัณฑ์ที่ ๓๗๘
วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๑







คำถาม #ทำไมภาวนาถึงได้บุญมากกว่าการทำทาน?

หลวงปู่ ; ภาวนาแล้วใจเป็นบุญ เป็นกุศลทำความชั่วไม่ได้ ถ้าไม่ภาวนาทำความชั่วได้ทั้งหมด ผู้ภาวนาจิตสงบแล้วบาปอกุศลก็ไม่กล้าทำ แม้ในที่ลับที่แจ้งไม่มีใครเห็นก็ทำไม่ได้ ละอาย ละอายเทวดา ผู้มีหูทิพย์ มีตาทิพย์ท่านรู้ท่านเห็น ทำความชั่วไม่ได้ทำได้แต่ความดี

คำถาม แสดงว่าถ้าเราภาวนายังไม่ได้สมาธิก็ยังไม่ได้บุญเหรอค่ะหลวงปู่ ?

หลวงปู่; ภาวนาจิตไม่สงบ ศึกษาดูอะไรเป็นเหตุล่ะจึงไม่สงบ ต้องละที่เหตุล่ะ ต้องตามดู ต้องศึกษาย้อนคืนหาเหตุ จิตไม่สงบอะไรละเป็นเหตุ มันกังวลเรื่องอะไรล่ะจิตของเราน่ะ จิตถึงไม่สงบ ตามไปแก้ที่เหตุละที่เหตุ เพราะอะไรทุกอย่างเป็นผลมาจากเหตุ เล็งเข้ามาให้เห็นประโยชน์ของความไม่ประมาท รีบสร้างเอาคุณงามความดีน่ะ นี่แหละคำว่าทานก็ดี เสียสละกิเลสความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นทานน่ะได้บุญมากกว่าอย่างอื่น ทานกิเลสความโลภ ทานแล้วเราก็ไม่โลภ ทานกิเลสความโกรธทานแล้วเราก็ไม่โกรธ ทานกิเลสความหลงทานแล้วเราก็ไม่หลง กิเลสลดน้อยลง ชาติการเกิดของเราก็ลดลง กิเลสหมดไปก็สิ้นภพสิ้นชาติ กิเลสมากชาติความเกิดของเราก็มากแหละ เพื่ออนาคตเพื่อให้มันพ้นทุกข์ มันจะไปทางไหนละกิเลสของเรา สังขารความเป็นมนุษย์ไม่เที่ยงนะ จะไปได้สังขารอะไรล่ะอนาคตข้างหน้าน่ะ อะไรทุกอย่างให้เห็นปัจจุบันนี่แหละ พูดถึงความตายก็ดี ให้รู้ให้เห็นเมื่อยังไม่ตาย ตายแล้วดวงจิตดวงวิญญาณที่ไม่ตาย เขาจะไปที่ไหนล่ะ รู้เห็นความตายตัวที่ไม่ตายก็จะรู้จะเห็นอีก เขาจะไปไหนเราก็ดูว่าไปแล้วเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ที่นั่นดีหรือไม่ดี ถ้าเป็นทุกข์ไม่ดีเราก็ตามไปแก้ แก้ภพแก้ชาติ ผู้ภาวนาตามไปดู ตัณหา ความโลภ ความโกรธ ความหลงแหละมันจะบอก ว่าเป็นห่วงอะไรล่ะจิต นั่นแหละตัณหาจิตมันบอกแล้ว ไปที่ไหนก็รู้แหละทีนี้ มุ่งภาวนาปล่อยวางทั้งหมด มันยึดอะไรเป็นของเรา รู้ละรู้ปล่อยวาง ถ้าละได้ปล่อยวางได้หมดแล้ว ผู้รู้ก็ปล่อยวางอีก ปล่อยวางจากผู้รู้ไปทั้งหมด

เอาล่ะ พอแล้วพูดมากก็เหนื่อย

หลวงปู่ อว้าน เขมโก เทศน์ ณ วัดป่านาคนิมิตต์ จ.สกลนคร เมื่อ 28 พฤษภาคม 2565






"คนเรา ไม่ได้เป็นไปตามชื่อ
แต่เป็นไปตามการกระทำของตนเอง
เพราะถ้าเป็นไปตามชื่อแล้ว
พระพุทธเจ้า จะมาตรัสสอนพวกเรา
ให้เชื่อเรื่องกรรมทำไม"

หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO