นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 03 พ.ค. 2024 9:43 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: มีสติปัญญาว่องไว
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 30 ก.ค. 2023 5:26 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4547
"วันพระทำบุญไม่ใช่แค่ใส่บาตรพระ ปฏิบัติดูแลพ่อแม่ ดูแลลูกและญาติพี่น้อง สิ่งนี้ก็ได้บุญเหมือนกัน"

คำสอน
พระอาจารย์มาร์ติน ปิยธัมโม
วัดภูฆ้องทอง จ.หนองบัวลำภู






คนไม่มีบุญก็เปรียบเทียบเหมือนคนไม่มีเงิน คนไม่มีเงินไปต่างประเทศเป็นอย่างไร หน้าดำคร่ำเครียด จิตใจหม่นหมองเศร้าสร้อยไปหมด เพราะไม่มีเงิน ไปเห็นถังขยะ คนไม่มีอันจะกินก็ไปเขี่ยกินล่ะทีนี้ ไม่มีเงินที่จะซื้ออาหาร ตรงกันข้ามกับคนมีเงิน คนมีเงิน เมื่อออกเดินทางไปต่างประเทศพอไปถึงเอาเงินซื้อเลย เพราะมีเงินนี่ อยู่ที่ไหนไปที่ไหนสะดวกสบายทั้งหมด เพราะมีเงินไป

อันนี้ก็เหมือนกัน พวกเราให้สั่งสมบุญเอาไว้ เมื่อสั่งสมบุญเอาไว้ถ้าหากว่าตายจากชาตินี้ไป เหมือนเดินทางไปต่างประเทศ พวกเราก็จะได้รับความร่มเย็นเป็นสุข ไม่เดือดร้อน ไปที่ไหนไปสวรรค์ชั้นไหนตลอดจนไปพรหมโลก ไปนิพพาน ถ้าเรามีบุญต้องเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าเราไม่มีบุญก็เหมือนกับกันไม่มีเงิน ไปที่ไหนก็ลำบาก

เพราะฉะนั้น พวกเราควรสั่งสมบุญเข้าสู่จิตใจของเราให้มาก การทำบุญไม่ใช่จะมีทานอย่างเดียว รักษาศีลก็ใช่ ไหว้พระสวดมนต์ นั่งภาวนาก็ใช่ ปฏิบัติบิดามารดาล้วนแล้วแต่เป็นบุญกุศลทั้งนั้น มีหลายๆ ทางที่เป็นหนทางสร้างบุญสร้างกุศลเข้าสู่จิตใจ แต่ถ้าหากว่าพวกเราไม่ได้ทำบุญเอาไว้ ไม่ได้เตรียมเอาไว้ เวลาถึงมรณะเข้ามาก็กลัว กลัวตายอย่างมากๆ เพราะว่าไปข้างหน้าไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าจะได้รับความสุขสนุกสบายอย่างไร เพราะว่าเราไม่ได้เตรียมพร้อม ไม่ได้สั่งสมบุญเอาไว้

แต่ถ้าหากว่าคนที่มีบุญเคยสั่งสมบุญเอาไว้แล้วอย่างพ่อแม่ครูบาอาจารย์อย่างหลวงตาอย่างนี้ ท่านว่า เฮ้ย! กลัวทำไม ถึงคราวแล้วเหรอ ถึงคราวก็ไปสิ กลัวทำไม ทุกคนจะอยู่ค้ำฟ้าได้อย่างไร ทุกคนต้องตาย ท่านเตรียมพร้อม ท่านคิดไว้แล้ว บุญกุศลของท่านพร้อมแล้ว พร้อมที่จะรับทุกอย่าง ไปข้างหน้าท่านก็ไม่มีทางที่จะทุกข์ได้ เพราะท่านได้สั่งสมบุญกุศลไว้เต็มเปี่ยมแล้ว เตรียมเงินไว้พร้อมแล้วที่จะเดินทางไปที่ไหนก็ได้รับความสะดวกสบายทั้งนั้นแหละ อันนี้คือท่านผู้มีบุญ ท่านผู้เตรียมเป็นผู้ไม่ประมาท

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “ภาวนาหนทางสร้างหลักใจ”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๔๘





"..ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า ระลึกถึงพุทโธเบิ๊ดมื้อกะได้บุญเบิ๊ดมื้อ ระลึกเบิ๊ดคืนกะได้บุญเบิ๊ดคืน ถ้าคนมีสติ มีปัญญา เฮ็ดเองได้ อันนี้มันขี้ค้าน พุ้น!! มันไปเล่นในโทรศัพท์ ฟังร้อง ฟังลำ ไปเบิ่งรูปนั้น รูปนี้ มันบ่เบิ่งจะของ มันบ่เคยกำหนดจิตมาเบิ่งจะของจั๊กเทือ มีแต่ส่งออกไปข้างนอก

พระคือกันเดี๋ยวนี้ ไปหาเล่นเกมเล่นเกิมนำเขาพุ้นเด้ในโทรศัพท์ระวังให้ดี ไปเล่นเกมนำเขา คำเบิ่งหัว มันหัวโล้นบ่ คำเบิ่งผ้าเหลืองบ่ มันเป็นอิหยังหนิ ให้สำเหนียกจะของเบิ่งแน อย่าสิได้ลืมเนื้อลืมตัว มันบ่แมนแนวเด้ มันสิไปบ่รอด ตั้งใจมาบวชไปให้มันรอด มันไปอยู่ทางโลกกะตายคือเก่า มาปฏิบัติกะแตกตายคือเก่า เพราะร่างกายมันเป็นของแตก คำที่ว่าแตกให้ชื่อว่าตาย มันสิห้ามอยู่มันกะแตกไปตามธรรมชาติของเขาร่างกายนี้ ที่ว่าตายมันกะแตกคือเก่า ที่ว่าบ่ตายมันกะแตกคือเก่า ส่วนที่ว่าจิตใจมันแตกบ่เป็น มีแต่หลงมาเกิด พระพุทธเจ้าเพิ่นมาสอนให้พากันหยุดในการเกิด

เพราะฉะนั้นล่ะ พวกที่บวชเข้ามาแล้วให้พากันรักษาข้อวัตร ต่างคนต่างรักษา บิณฑบาตเป็นวัตร ฉันหนเดียวเป็นวัตร นั่งฉันอาสนะเดียวเป็นวัตร เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา อย่าให้มันขาด มื้อใด๋มันขาดกะบ่ต้องฉันข้าว อย่าสิกินมัน ถามจะของ ถ้ามื้อใด๋มันขี้ค้าน เวลาฉันมันขี้ค้านบ่ถามมัน รักษาให้มันได้ข้อวัตร ให้มันติดต่อกันเด้ มันจั่งสิได้กำลัง.."

พระราชมงคลวชิรธรรม
หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร







..ใครเป็นผู้มีสติปัญญาว่องไวเฉลียวฉลาด ตรึกตรองใคร่ครวญให้รู้ให้ถี่ถ้วนจริงๆแล้วนั้น ก็เกิดปัญญาขึ้น โอ้..ร่างกายนี้เป็นอย่างนี้หนอ เป็นมานมนานแล้วตั้งแต่เรายังไม่เกิดก็เป็นอย่างนี้ เกิดมาแล้วก็เป็นอย่างนี้ เราตายไปเขาก็จะเป็นอยู่อย่างนี้ ปัญญาอันนี้แลเกิดขึ้น เห็นความจริง เห็นสัจธรรม ก็เลยทำให้ตนเองมีความสุข ความสบาย เพราะเห็นของจริง ก็เป็นเจ้าบุญเจ้าคุณเสีย เราจะพ้นทุกข์ ก็เพราะมาเห็นเขา เพราะมาเห็นโทษของเขา เมื่อเห็นโทษของเขาแล้ว เราก็จะไม่เอา เราจะเสียสละ เราละปล่อยวางทิ้ง เรียกว่าละรูปขันธ์
..องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยากให้พวกเราท่านทั้งหลาย เรียนให้รู้ ดูให้เข้าใจ เราจึงจะถอดถอนความยึดมั่นถือมั่นออกจากดวงใจของเราได้ เราจะวางไว้เป็นกลาง ควรที่จะประพฤติปฏิบัติไปตามธรรมชาติของเขา ตามธรรมดาของเขา ประพฤติเป็นไปจนถึงที่สุดแห่งกายนี้จะเป็นไปได้ ใครจะอยู่ได้แค่ไหน ๕๐ ปี ๖๐ ปี ๗๐ ปี ๘๐ ปี หรือ ๑๐๐ ปีก็ตาม เหลือไปไหนไม่ได้ ร่างกายนี้ต้องพังทลายตามสภาวะของมันแน่นอน
..ไม่มีใครจะเก่งกาจ ไม่มีใครจะพ้นความตายได้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้ค้นคว้าเห็นก่อน แล้วมาตรัสสอนเวไนยนิกรสัตว์ทั้งหลายนั้น ก็ยังทิ้งสรีระร่างกายไปเหมือนกัน เอาแต่ความบริสุทธิ์ คือความรู้ หรือปัญญาเท่านั้นไป ไม่ได้เอาอะไรไปด้วย รู้แล้วก็ให้ละ ให้ปล่อย ให้วางทิ้ง รู้แล้วไม่เอา เหมือนกับเรารู้ของที่ไม่ดี เราก็ไม่เอา..

..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป..
วัดอรัญญวิเวก ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO