นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 02 พ.ค. 2024 11:53 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: รักษาศีล 5
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 27 ก.ค. 2023 5:31 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4546
#พุทโธอย่างเดียวไม่ต้องเอาอย่างอื่นหรอก

“ พวกนักบวชนี้ ท่านบอกว่าคนไม่มีนิสัยก็บวชไม่ได้ มันจะอยู่ยาก บวชในศาสนาไม่ใช่อยู่ง่ายนะ ก็ต้องสร้างบุญบารมีไปก่อน จนกว่าจะเต็มนั่นแหละ สร้างบุญไว้ซะก่อน บุญเราไม่เยอะมันก็อยู่ไม่ได้อีก ไปไม่ได้

คนพูดง่ายทุกวันนี้เยอะ ไปทางไหนก็มีแต่พระอรหันต์ องค์โน้นก็สำเร็จองค์นี้ก็สำเร็จ ยกก็มีสำเร็จก็มี ก็ว่ากันไป อันนี้เขาว่ากันเราไม่ต้องไปคัดค้านกัน คัดค้านไม่ได้เพราะเราก็ไม่รู้ละเอียด ครูบาอาจารย์ที่ท่านรู้ท่านก็ไม่พูด

พวกวิชาอาคมก็เยอะทุกวันนี้ มันมีหลายแบบทุกวันนี้ ศาสนาพุทธมีแอบแฝงเยอะ พวกแอบแฝงแบบธุรกิจก็มี หลายแบบหลายอย่างนั่นแหละ คนไม่เข้าใจก็หลงเขา หลงไปตามกระแส

สวดมนต์ได้ ภาวนาตัวสำคัญ ตั้งใจนั่งภาวนาสักอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงไป หัดไปจากน้อยไปหาหลาย นั่งไป สวดมนต์แล้วก็นั่งภาวนาไป พุทโธๆ พุทโธอย่างเดียวไม่ต้องเอาอย่างอื่นหรอก หายใจเข้าก็พุทโธๆ ดูลมหายใจเสียก่อน “

หลวงปู่บุญจันทร์ จันทสีโล







จิตที่ไม่มีสมาธิก็เพราะมีนิวรณ์
ทำให้ไม่ได้มีความสงบ ไม่ใช้ปัญญา

จึงได้แสดง นิวรณ์ ๕
และกัมมัฏฐานสำหรับแก้เพิ่มเติม ดังต่อนี้

๑. ความพอใจใฝ่ถึงด้วยอำนาจของกิเลสกาม เรียกว่า “กามฉันทะ”

แก้ด้วยเจริญ อสุภกัมมัฏฐาน พิจารณาซากศพ
หรือเจริญ กายคตาสติ
พิจารณาร่างกายอันยังเป็นให้เป็นของน่าเกลียด

๒. ความงุ่นง่านด้วยกำลังโทสะ เรียกรวมว่า “พยาบาท”

แก้ด้วยเจริญ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
หัดจิตให้เกิดในทางหัดคิดให้เรียเกิดเมตตา สงสาร กรุณา
ช่วยเหลือเมื่อมีความสามารถ
เกิดความพลอยยินดีไม่มีริษยา
เกิดความปล่อยวาง หยุดใจที่คิดโกรธได้

๓. ความท้อแท้ หรือคร้าน หรือความหดหู่ง่วงงุน เรียกว่า “ถีนมิทธะ”

แก้ด้วยเจริญ อนุสติกัมมัฏฐาน
พิจารณาคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บ้าง
พิจารณาความดีของตนบ้าง
เพื่อให้จิตเบิกบาน และมีแก่ใจหวนอุตสาหะ
หรือทำอาโลกสัญญา กำหนดหมายแสงสว่าง ให้จิตสว่าง

๔. ความฟุ้งซ่าน หรือคิดพล่าน
และความจืดจางเร็ว หรือความรำคาญ เรียกว่า “อุทัจจกุกกุจจะ”

แก้ด้วย เพ่งกสิณ กำหนดลมหายใจเข้าออก
หัดผูกใจไว้ในอารมณ์เดียว
หรือเจริญมรณสติ อันจะทำให้ใจสงบด้วยสังเวช

๕. ความลังเลไม่แน่ลงได้ เรียกว่า “วิจิกิจฉา”

แก้ด้วยเจริญ ธาตุกัมมัฏฐาน หรือ วิปัสสนากัมมัฏฐาน
เพื่อกำหนดรู้สภาวที่เป็นอยู่ตามเป็นจริง

อีกอย่างหนึ่ง
ทำความกำหนดรู้จิตที่มีนิวรณ์ และนิวรณ์ที่มีในจิต
เมื่อเกิดปัญญาความรู้จักนิวรณ์ และโทษของนิวรณ์ขึ้น
นิวรณ์ก็จะสงบหายไป

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร.
(ที่มา : “รวมธรรมะ”; พิมพ์เผยแพร่เนื่องในงานฉลอง ๑๐๐ ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
วันที่ ๑ มกราคม-๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓. หน้า ๒๒๒-๒๒๓)






#ร่างกายนี้เป็นฐานะที่ยืมเขามา

"... ประกอบด้วย.. แก่ ชรา มรณะ
คือยืมเขามาค้าขาย หากำไรในบุญ
และบาป.. และไม่รู้กำหนดที่จะต้อง
ตาย ในเวลาใด..!!"
#เมื่อถึงคราวตาย_แปลว่า_ส่งเขาคืน ..."

#หลวงปู่หลุย_จนฺทสาโร
วัดถ้ำผาบิ้ง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย





"ญาติโยมทั้งหลาย
บุญกุศลไม่ได้อยู่ที่ไหนเลย
แต่มีอยู่ที่จิตที่ใจของเรา
ก็ขอให้รักษาบุญไว้ให้ดี

คือ รักษากายของเรา
ให้สงบเสงี่ยม ให้ดีอยู่เสมอ
รักษาวาจาของเรา
ให้พูดจาปราศรัย แต่ในสิ่งที่ดี
รักษาใจของเรา ให้นึกคิด
แต่ในสิ่งที่มีประโยชน์

ก็ขอให้ทุกคน จงยืนหยัดอยู่ในศีล ๕
ให้รักษาศีล ๕ ประจำชีวิต
ด้านจิตใจ ก็ขอให้มีอจลศรัทธา คือ
เป็นศรัทธาที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวต่ออารมณ์ใดๆ
มีความเชื่อ ความเลื่อมใส ในพระรัตนตรัย
อย่างมั่นคง ไม่หวั่นไหว"

ครูบาเจ้าพรหมมา พฺรหฺมจกฺโก


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO