นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 08 พ.ค. 2024 12:37 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: การประพฤติปฏิบัติ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 02 ก.ค. 2023 5:56 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4551
คนที่มีศีลบริสุทธิ์ จะองอาจกล้าหาญ และสง่างาม เสมอ ผีสาง ต้องกลัวเค้า แม้แต่เทวดา ยังต้องเกรงใจเลย ไม่ต้องบวช ไม่ต้องห่มจีวร ก็เป็น พระได้ ด้วยใจ ไม่ใช่เครื่องแบบ

#โอวาทธรรม
หลวงพ่อประมัย_เตชธมฺโม






. "ให้เอาชนะกิเลสตัวเอง อย่าไปเอาชนะกิเลสคนอื่น ชนะกิเลสในใจตนได้แล้ว ขี้นชื่อว่าชนะทุกสิ่งในโลกนี้ กิเลสอยู่ขอบฟ้ามหาสมุทรไหนก็ชนะทั้งหมด ถ้าเราชนะตัวเราแล้ว"

โอวาทธรรมหลวงปู่แสง ญาณวโร
วัดป่าดงสว่างธรรม จ. ยโสธร







..การทำบุญนั้น ตามหลักพระพุทธศาสนาไม่ให้ทำมาก ให้ทำแต่น้อย ต้องแบ่งทรัพย์ให้เป็น 4 ส่วน ส่วนหนึ่งเอาไว้เป็นทุน ส่วนหนึ่งเอาไว้ซื้ออยู่ซื้อกิน ส่วนหนึ่งเอาไว้ซื้อหยูกซื้อยาเวลาเจ็บป่วย ส่วนหนึ่งเอาทำบุญ ให้แบ่งทำบุญเอาไว้ส่วนหนึ่ง อีก 3 ส่วนเอาไว้ดูแลตนเอง พระองค์ทรงสอนเอาไว้อย่างนั้น ทำไม่ต้องทำมาก บุญนี้ไม่ใช่เป็นของที่เศร้าหมอง บุญคือความสุข ทำแล้วต้องมีความสุขใจเอิบอิ่มใจ ปลื้มปิติยินดีในคุณงามความดีที่ตนเองได้กระทำนั้น เมื่อจิตใจเศร้าหมองขุ่นมัวยุ่งเหยิงอะไรต่างๆเกิดขึ้น เราก็ระลึกถึงบุญกุศลที่ตนเองได้ทำเอาไว้ มาเปลี่ยนอารมณ์ที่เศร้าหมองขุ่นมัวนั้นให้ดับไป มาเปลี่ยนอารมณ์ที่มีความสุขให้เกิดขึ้นมาแทน เรียกว่าการทำบุญ..

..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป..
วัดอรัญญวิเวก ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่









ผู้ใดทำกรรมใดไว้ จะต้องเป็นผู้รับผลกรรมนั้นๆ ทฤษฎีนี้ศาสนาพราหมณ์เขาก็สอน กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระโณ ยังกัมมัง กะริสสามิ กัลยาณัง วาปาปะกังวา ตัสสะ ทายาโท ภะวิสสาติ.

กรรมเป็นกำเนิด กรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ผู้ใดทำกรรมอันใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป จะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้นๆสืบไป

ไม่ใช่เพียงพระพุทธเจ้าเราสอน พวกพราหมณ์ ฮินดูเขาก็สอนมาก่อนแล้ว พระพุทธเจ้าเราเห็นว่าอันนี้มันดี เป็นจริยธรรมที่ควรจะต้องรับผิดชอบต่อชีวิต แม้เดี๋ยวนี้เขาก็ได้ประโยชน์ถ้าเขาเชื่ออย่างนี้ เขาจะได้ไม่เบียดเบียนกัน แล้วตัวเขาเองก็ไม่ต้องเดือดร้อน มันเลยเป็นจริยธรรมที่จะต้องอยู่ร่วมกัน

ในขณะเดียวกันเป็นการรับผิดชอบตั้งแต่ปัจจุบันถึงอนาคต ย้อนลงไปถึงอดีต ถ้าเชื่อว่าบาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี ชาตินี้ชาติหน้าชาติก่อนมี มันก็เลยเป็นปุ๋ย เป็นที่ตั้งลงแห่งการละชั่ว แห่งการทำดี อย่าทำเป็นเล่นไปนะ

ศาสนามันมีส่วนเหมือนกันหลายๆส่วน แม้พี่น้องชาวคริสเตียนก็เชื่ออย่างนี้ นรกหลังจากตายแล้วเนี่ย ถ้าทำดีก็ขึ้นสวรรค์ ถ้าทำชั่วก็ลากคอลงนรก

โอวาทธรรม หลวงพ่อสมภพ โชติปัญโญ
วัดไตรสิกขาฯ อ.คำตากล้า จ.สกลนคร







. ขอทุกท่านจงหมั่นพินิจพิจารณาศึกษาการประพฤติปฏิบัติอย่าไปคิดที่อื่น อย่าไปดูที่อื่น ให้ดูตัวของตัว

เพราะก้อนของกายนี้เป็นธรรมะ เรียกว่า รูปธรรม ความคิดปรุงต่างๆ ก็เป็นธรรม คือเป็นนามธรรม

ถ้ามีสติ มีปัญญา ทุกสิ่งทุกอย่างมีอยู่ในโลก อยู่ในตัวของเราเป็นผลเป็นประโยชน์มีคุณค่าราคา

ถ้าหากเราไม่มีสติปัญญา ถึงจะเฝ้าขุมเงินขุมทองอยู่ ก็ไม่ทราบว่าจะเอาประโยชน์จากเงินจากทองได้อย่างไร
เพราะไม่มีปัญญาที่จะนำสิ่งนั้นไปใช้สอยให้เป็นประโยชน์

คำสอนหลวงปู่สิงห์ทอง ธัมมวโร
วัดป่าแก้วชุมพล จ.สกลนคร








"เวลาใกล้จะตายสำคัญ"

ตายคาภาวนายังดีกว่าตายคานึกถึงสิ่งของ เวลาเราจะตาย เรานึกถึงสิ่งของอันใด ใจขาดด้วย ก็ไปเป็นเขียดกะปาดบ้าง อยู่ตามรั้วอยู่ตามไร่ตามนา ถ้าเรานึกถึงหลานคนนั้นคนนี้ แล้วก็ใจขาดคาที่นั่น เราไปเกิดเป็นเป็ดเป็นไก่เขาหรือเป็นหลานเขา เวลาจะตายสำคัญ อสัญกรรม กรรมเมื่อจวนเจียน

เวลาใกล้จะตายเห็นแสงไฟ ปรากฏเห็นแสงไฟมา ยังไม่คิดไปทางอื่นแล้วก็เลยตายในขณะนั้นก็ไปเกิดในนรก

ถ้าเวลาใกล้จะตายปรากฏเห็นท่าน้ำหรือป่าไม้ แล้วก็สิ้นลมปราณในเวลานั้นยังไม่คิดไปทางอื่น ก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน

เวลาใกล้จะตายปรากฏว่ามืดมนอนธกาล มองไม่เห็นอะไรเลยคล้ายๆว่ากลางคืน สิ้นลมปราณในขณะนั้นก็ไปเกิดเป็นเปรต

เวลาใกล้จะตาย ได้ปรากฏเห็นวิมานและปรากฏเห็นเทวบุตรเทวดา แล้วก็สิ้นลมปราณในขณะนั้น ก็ไปเป็นเทวบุตรเทวดาเป็นอินทร์เป็นพรหมอยู่ในสรวงสวรรค์หรือพรหมโลก

เวลาใกล้จะตาย ปรากฏเห็นครรภ์มารดา ก็ไปถือปฏิสนธิเกิดอีกในครรภ์

ส่วนพระอรหันต์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เวลาใกล้จะตายก็มาเห็นกายเราส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่น ลมหายใจเข้าออกเป็นต้น หรือ กระดูกท่อนใดท่อนหนึ่งเป็นต้น หรือผม ขน เล็บ ฟัน อันใดอันหนึ่งเป็นต้น หรือธาตุน้ำอันใดอันหนึ่งในสกลร่างกายเป็นต้น มีดี เสลด น้ำเลือด เหงื่อ น้ำมันข้น น้ำลาย ไขข้อ น้ำมูตร หรืออันใดอันหนึ่งเป็นต้น ต่อจากนั้นแล้วท่านก็พลิกจิต ไม่ได้ติดอยู่ในผู้รู้ทั้งหลาย ทั้งอดีต อนาคต ปัจจุบันด้วย ท่านก็เข้าสู่พระนิพพานไปซะ หาธรรมอันไม่ตาย

ถ้าเราไม่หัดไว้ทีนี้ ใกล้จะตายมาพุทโธๆแด่เด้อ พุทโธๆเด้อ พุทโธๆยังไงเมื่อมีชีวิตอยู่มันก็ยังไม่ภาวนา เดี๋ยวจะเจ็บอันนั้นปวดอันนี้ ร้องครางไปสารพัดแล้วไม่หัดไว้เดี๋ยวนี้ไม่ได้ จำเป็นต้องหัดไว้ ถ้าตายคาภาวนาพุทโธ ถึงจะมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกก็ตาม เราก็ไปสุคตินานอยู่เหมือนกัน

"หลวงปู่หล้า เขมปัตโต"
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร








..บุญอยู่ที่ไหน บุญก็อยู่ที่ใจ ได้ทำแล้วก็ปลื้มใจสุขใจอิ่มใจปิติยินดีในคุณงามความดี ก็เรียกว่าบุญกุศล กุศลแปลว่าความฉลาด บุญแปลว่าความสุข บุญกุศลนั้นคือมันเป็นภาษาอินเดียไม่ใช่ภาษาไทย ถ้าเป็นภาษาเราก็เรียกว่ามีความฉลาด จึงจะทำบุญได้ จึงจะทำให้เกิดความสุขให้เกิดให้มีขึ้นกับตนเองได้ แต่คนไม่มีความฉลาดไม่มีสติปัญญา ก็ไม่สามารถจะทำบุญได้ ครั้นมีเงินมีสมบัติอยู่แต่ไม่ทำ ก็เหมือนกับว่าในชาติก่อนได้ทำเอาไว้แล้ว แต่ในชาตินี้ไม่ได้ทำอีก ชาติหน้าก็จะไม่มีทรัพย์สมบัติ..

..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป..
วัดอรัญญวิเวก ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO