นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 03 พ.ค. 2024 2:18 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ความว่าง
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 06 เม.ย. 2023 6:20 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4547
คนดีจริง เขาไม่บอกว่าตัวเองดี แต่เขาจะพิสูจน์ให้เห็นด้วยการกระทำที่จริงใจ ส่วนคนที่เที่ยวบอกใครต่อใครว่าตัวเองดี นั่นแหละ..คนที่น่ากลัว

โอวาทธรรม หลวงพ่อทองพูน กาญจโน






วันหนึ่ง ตอนอาตมาเพิ่งบวชใหม่ๆ แมงป่องต่อยเพื่อนที่กุฏิ อาตมาวิ่งไปเอายาที่ศาลา กำลังจะถึงศาลาก็สวนทางกับพระเถระรูปหนึ่งพอดี ท่านตักเตือนทันที “ไม่ต้องรีบขนาดนั้นหรอก วิ่งอย่างนั้นดูเหมือนโยมเขา เดินช้าๆ อย่างมีสติจะเหมาะกว่านะ” อาตมากัดฟันไม่แก้ตัว แล้วเดินช้าๆ เข้าศาลาให้ท่านดู แต่พอได้ยาไม่มีใครเห็นก็วิ่งกลับไปหาเพื่อน (ก็ดื้ออย่างนี้แหละผู้อ่านทั้งหลาย ขอสารภาพ)

วันนั้นไม่กล้าเถียงกับผู้ใหญ่ แต่วันนี้ขอยืนยันว่าสติไม่ได้อยู่ที่ความช้าหรือเร็ว ถ้าความเคลื่อนไหวช้าคือเครื่องหมายของสติ หอยทากน่าจะเป็นสัตว์ที่สติยอดเยี่ยม

ในวันนั้นอาตมาไม่รู้สึกว่ารีบ อาตมารู้สึกว่ากำลังเคลื่อนไหวเร็วเพื่อเพื่อนจะต้องทนการทรมานน้อยที่สุด แล้วที่จริงวิ่งในป่าต้องตั้งสติมากกว่าเวลาเดินด้วยซำ้ไป เรามีเหตุผลว่าอยู่ในเขตสงฆ์กลางป่าการอนุโลมเรื่องสมณสารูปชั่วคราวเพื่อช่วยเพื่อนคงไม่เป็นไร

สติอยู่ที่ใจ ถ้าใครรู้สึกว่าทำอะไรช้าๆ จะตั้งสติง่ายขึ้นก็ทำไปเถอะ แต่มันไม่จำเป็นเสมอไป หลวงพ่อชาชอบเดินจงกรมเร็ว เมื่อมีผู้ถามท่านว่าทำไม ท่านบอกว่า “เดินเร็ว กิเลสตามไม่ทัน”

พระอาจารย์ชยสาโร







#โอวาทธรรมท่านพ่อเยื้อน #จบที่ใจ

โลกพูดแล้วไม่สิ้นสุด แต่ธรรมะพูดแล้วสิ้นสุด สิ้นสุดเพราะไปสู่ความว่าง

ธรรมะที่พูดแล้วไม่สิ้นสุด นั่นไม่ใช่ธรรม นั่นสังขาร ถ้าใครเอาสังขารมาพูด ไม่เคยเห็นว่าสิ้นสุดตรงไหน

ถ้าธรรมนั้นจะพูดแล้วจบ มันมีที่จบ มันจบที่ใจเจ้าของไปเจอจิต มันจบเลย เพราะมันไม่ไปที่อื่น

สุดท้ายของธรรม
ก็คือ เข้าไปสุญญตา






สุญฺญโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ โมฆราช สทา สโต
อตฺตานุทิฏฺฐึ อูหจฺจ เอวํ มจฺจุตฺตโร สิยา
เอวํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ มจฺจุราชา น ปสฺสติ.

ดูก่อนโมฆราช เธอจงเป็นผู้มีสติทุกเมื่อ พิจารณาโลกให้เป็นของสูญเปล่าว่างเปล่า ถอนอัตตานุทิฏฐิ ที่ถือว่าเป็นเขาเป็นเราซึ่งเป็นเหมือนกับก้างขวางคอนี้ออกเสีย จะพึงข้ามพ้นพญามัจจุราชเสียได้ พญามัจจุราชจะตามไม่ทันมองไม่เห็นผู้พิจารณาโลกเป็นของว่างเปล่าอยู่อย่างนี้ พระโมฆราชก็บรรลุธรรมขึ้นในธรรมบทนี้ละ เป็นพระอรหันต์ขึ้นมา ทีนี้ใครก็ตามเมื่อปฏิบัติตามโอวาทที่สอนพระโมฆราชนั้น พระโมฆราชก็มีกิเลส สอนกิเลสของพระโมฆราช ชำระกิเลสของพระโมฆราช เรานำมาชำระตัวของเรา เมื่อถึงที่สุดแล้วก็เป็นโมฆราชเหมือนกันหมด

บรรดาพระอรหันต์นี้จะเรียกว่าโมฆราชเหมือนกันหมดไม่ผิด เพราะเป็นผู้ว่างเปล่าแล้วจากสิ่งทั้งหลาย ไม่มีอะไรเข้ามาแผ้วพานได้เลย นั่นสุญฺญโต โลกํ พญามัจจุราชจะตามไม่ทันมองไม่เห็น จะไปเห็นอย่างไร เมื่อผ่านพ้นจากสมมุติคือความเกิดตายนี้ไปแล้ว ก็เป็นอย่างนั้น นั่นนักปฏิบัติ ท่านสอนพระโมฆราชให้มีสติทุกเมื่อพิจารณาอย่างที่ว่านี้

ใครพิจารณาตามที่ท่านสอนพระโมฆราชแล้ว ผู้นั้นก็เป็นพระโมฆราชขึ้นมาได้ทันทีทันใด สำเร็จเป็นพระอรหันต์ขึ้นมาก็คือโมฆราชอรหันต์เหมือนกันหมด ไม่มีองค์ใดแปลกต่างกัน เพราะกิเลสประเภทเดียวกัน ละกิเลสประเภทเดียวกัน ถ้ากิเลสปิดหูปิดตา มืดมิดปิดตาไปหมดจนไม่มีอะไรว่าง มันมืดมิดไปหมด เปิดความมืดนี้ออกให้หมด จ้าขึ้นมาแล้วก็เป็นพระโมฆราชเหมือนกันไปหมด นั่นละการปฏิบัติ

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
เทศน์อบรมพระและฆราวาส ณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพ
เมื่อค่ำวันที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ถ้าจิตลง อะไรในสามโลกธาตุทำลายไม่ได้


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO