นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 29 มี.ค. 2024 8:17 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ภูมิจิต ภูมิธรรรม
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 17 ก.พ. 2023 5:01 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4511
“ คิดทางบวก ทางลบ “

ถาม : เดี๋ยวนี้เขานิยมให้คิดในเชิงบวก คิดไปก็ไม่ได้แก้ปัญหา

พระอาจารย์ : เพราะเป็นกิเลส อยากได้ ไม่อยากเสีย ถึงแม้จะคิดในเชิงบวกอย่างไร ก็ต้องคิดเผื่อเสียอยู่ดี ไม่อย่างนั้นจะซื้อประกันภัยไว้ทำไม ต้องประกันความเสี่ยงอยู่ดี คิดในเชิงบวกเพื่อไม่ให้ท้อแท้หมดกำลังใจ

คิดว่าข้างหน้ายังมีโอกาส อย่างน้ำท่วมนี้ถ้าคิดในเชิงบวกก็ต้องคิดว่า ไม่เป็นไรน้ำลดแล้วค่อยว่ากันใหม่ ถ้าคิดในเชิงลบก็จะท้อแท้เบื่อหน่าย หมดกำลังใจ การคิดในเชิงบวกนี้ ต้องคิดตามหลักความจริง ว่ามีทั้งบวกมีทั้งลบ ลาภยศสรรเสริญสุข มีทั้งบวกมีทั้งลบ เป็นโลกธรรม ๘ มีเจริญและเสื่อม แต่พวกเราจะคิดแต่ด้านบวก ต้องเจริญลาภเจริญยศสรรเสริญสุขอย่างเดียว คิดอย่างนี้เป็นกิเลส

ถ้าคิดทางธรรมก็ต้องคิดว่า มีเจริญมีเสื่อม เป็นของคู่กัน เจริญลาภเสื่อมลาภ เจริญยศเสื่อมยศ มีสรรเสริญมีนินทา มีสุขก็มีทุกข์ สลับกันไป ต้องรับได้ทั้ง ๒ ส่วน แต่พวกเราจะรับได้แต่ส่วนที่เจริญเท่านั้น พอเวลาเจอความเสื่อม อย่างเช่นตอนนี้ เสื่อมทรัพย์เสื่อมลาภไป เสียทองไป ๒ บาท ทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะไม่คิดไว้ล่วงหน้าก่อนว่าจะเสื่อม

พวกเราต้องคิดทั้งทางบวกและทางลบ ในเรื่องลาภยศสรรเสริญสุข ต้องคิดเผื่อไว้ แต่เรื่องใจนี้คิดทางบวกได้เสมอ เพราะใจไม่ได้ไม่เสียกับอะไรเลย ไม่ว่าร่างกายจะเป็นอะไร ใจไม่ได้เป็นไปด้วย ใจไม่ต้องไปเดือดร้อนกับร่างกาย กับลาภยศสรรเสริญสุข

นี่คือคิดทางบวก พวกเราสามารถทำใจให้มีแต่ความเจริญอย่างเดียวได้ กลับไม่ทำกัน ปฏิบัติทานศีลภาวนาไปสิ จะเจริญอย่างเดียว ไม่มีทางเสื่อม จะเจริญไปถึงนิพพานเลย ปรมัง สุขัง ไม่มีวันเสื่อม ไม่มีวันทุกข์ คิดทางบวกให้คิดอย่างนี้ คิดทำบุญให้ทานรักษาศีลภาวนา

นี่แหละเป็นการคิดทางบวกที่ถูกต้อง ถ้าคิดในเรื่องโลกธรรม ว่าต้องเจริญอย่างเดียว ไม่มีเสื่อมเลย ก็จะหลอกตัวเอง เพราะทุกอย่างมีเจริญก็ต้องมีเสื่อม มีเกิดก็ต้องมีตาย ให้คิดอย่างนี้ เวลาเสื่อมหรือตาย จะได้ไม่เสียหลัก ไม่ทุกข์ทรมานใจ.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
กำลังใจ ๕๕ กัณฑ์ที่ ๔๓๑
๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔






จิตใจของเรา จิตมันอยู่สงบ ธรรมชาติของจิตก็คือ สะอาด สว่าง สงบ ธรรมชาติของกิเลสก็คือ ร้อน วุ่นวาย ไม่สงบ ไม่สะอาด เพราะฉะนั้นจิตที่มีกิเลสก็แยกออกได้
จิตกับอารมณ์ก็แยกออกได้

พระอาจารย์สิริปัญโญ





อาตมาปฏิบัติสละตายจริงๆ
ตายเมื่อไหร่นั่นหล่ะ....#ถึงหยุดภาวนา

#หลวงปู่เจม_จิรธมฺโม
สำนักสงฆ์เขาพนมปลายบัด อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์




#ธรรมแม้มีค่ามหาศาล

"... แม้เพชรพลอย​ อยู่แค่เอื้อม
... ถ้าไม่มีปัญญา​ หารู้ว่ามีค่าไม่
#ธรรม... แม้มีค่ามหาศาล
#คนพาล... ย่อมลบหลู่ดูถูก
หาว่าไร้คุณค่า​ ได้เช่นกัน ..."
..................................
#หลวงปู่ขาว_อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู






#บรรลุธรรมจริงๆแล้วไม่นาน

ที่นานๆ เพราะหาประตูใจไม่เจอ สุขตรงนี้เป็นบรมสุข สุขที่จิตเห็นจิตตนเอง เป็นความสุขที่ปราศจากการปรุงแต่ง

ไม่มีอะไรปรุงแต่งให้สุขได้
เพราะจิตเข้าไปสู่ความว่าง

#หลวงพ่อเยื้อน





"ฟังธรรม ศึกษาธรรม ในคัมภีร์
แล้วไม่นำมาปฏิบัติ ก็เหมือนกับถือผลไม้ไว้เท่านั้น
ยังไม่ได้กิน ยังไม่ได้ลิ้มรส ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร"

หลวงปู่ชา สุภทฺโท





"คนเรามีภูมิจิตภูมิธรรมต่างกัน
ฝึกปฏิบัติมาไม่เท่ากัน
จะให้ทุกคนรู้เหมือนเรา
เข้าใจเราทุกอย่างไม่ได้
เมื่อเขาทำพลาดไป เราควรให้อภัย
วันหนึ่งเขาจะรู้เอง ทำได้ถูกต้องเอง"

หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO