นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 6:21 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: มีสติอยู่เสมอ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 05 ม.ค. 2023 7:36 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
" ไผฮักไผซังไผวา กะซางเขาเด้อ

ทำใจเป็นกลางดีบ่ฮักซัวบ่ชัง

กรรมของเขาสิส่งผลเองเนาะ

เฮาเฮ็ดของเฮาไปเรื่อยๆดีแล้ว

ดีกว่าคนอิจฉาคน ดีแต่เว้าวาผู้อื่น

แต่บ่เฮ็ดบ่สร้างความดีให้เจ้าของ"

#ความอิจฉานี่ล่ะทุกข์ใหญ่เนาะ

ธรรมคำสอนหลวงปู่จื่อ พันธมุตโต







ถ้าอนัตตามันไม่กินใจเธอ เธอไม่วางมันลงไปได้หรอก

หลวงพ่อสมปอง บ้านสบายใจ






การภาวนานั้น
ไม่ใช่ว่าจะนั่งหลับตาอย่างเดียว
แต่ต้องทำและทำได้ตลอดเวลา

การยืน การเดิน การนั่ง การนอน
#ให้มีสติประคับประคองอยู่เสมอ
สมาธินั้น อาตมาไม่เอามากหรอก

แต่ให้มี ‘สติ’ อยู่เสมอ

โอวาทธรรม ...
หลวงปู่ชา สุภัทโท







หากไม่รู้จัก . . ใจเย็น
อาฆาตแค้น พยาบาท
เฝ้าอิจฉา ขี้นินทา
หลอกคนอื่นไปเรื่อย
จำไว้ !!ไม่มีเทวดาองค์ไหน
กล้าอยากอยู่ด้วยหรอก
เพราะ . . เทวดาอยู่ร่วมกับมารไม่ได้
อยากโชคดี อยากมีความสุข
หัดรู้จักปล่อยวาง ใจเย็น
กล้าให้อภัย มองทุกสิ่งเป็นเรื่องธรรมดา
เดี๋ยวเทวดาทั้งหลาย
เขาจะมาอนุโมทนาเองแหละ
.....
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน







ไม่จำเป็นต้องรับศีลจากพระก็ได้
ถ้าเข้าใจความหมายว่าศีลคืออะไร

ศีลคือความเป็นปกติ ไม่ประพฤติผิด
ไม่เบียดเบียนทำร้ายตนเองและผู้อื่น

เพียงเราตั้งใจว่าจะรักษาความปกติดีงามไว้
มีเจตนาสุจริต วาจาสุจริต กายสุจริต เราก็มีศีลแล้ว

ศีลไม่ได้อยู่ที่วัดหรืออยู่กับพระ ศีลอยู่ที่เราประพฤติ
หมั่นรักษาศีลให้ดีจะได้ปลอดภัย
ไม่ต้องไปอยู่โรงพยาบาล ขึ้นศาล หรือติดคุก

โอวาทธรรม : พระอาจารย์คม อภิวโร








แม้เรามีน้อย
ก็ให้ทานน้อย
มันก็มีอานิสงส์มาก
#เพราะเราสอนใจให้ละ

ความตระหนี่ถี่เหนียว
และความหวงแหน
และความเสียดาย
อะไรหมู่นั่นแหละ

ออกจากจิตใจไปได้
มันถึงมีอานิสงส์มาก

โอวาทธรรม
หลวงตาสมหมาย อัตตมโน







เมื่อเลิกจากนั่งสมาธิ
ก่อนลุกจากที่นั่งให้น้อมจิต
น้อมใจอธิฐานถึงบุญบารมี
ที่เราได้ปฏิบัติมา

แล้วก็อุทิศส่วนกุศล
ให้บิดามารดา ปู่ย่า ตายาย
ตลอดจนสัตว์ทั้งหลาย
ผู้เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่
เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวร

ให้เร่งสร้างกรรมดีหนีกรรมชั่ว
กรรมเก่าแก้ไม่ได้สิงที่แก้ได้คือ
ให้เร่งสร้างกรรมที่ดี ...
จนกรรมเก่าตามไม่ทัน

โอวาทธรรม
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย






#อ่านหนังสือ_ฟังธรรมะยังไม่ใช่ "ตัวธรรมะ"

"อุปมาเหมือนกับว่า พริกมันเผ็ด เกลือมันเค็ม เราบอกว่า.."พริกมันเผ็ด" อย่างนี้ยังไม่เห็นความเผ็ดของมัน ยังไม่รู้จักคำที่ว่ามันเผ็ด มันเค็ม "ไม่ใช่ ตัวเผ็ด ตัวเค็ม"
.
.... การอธิบายธรรมะให้ฟังก็เหมือนกัน อันนี้ไม่ใช่ตัวธรรมะ เป็นคำพูดของบุคคล เป็นอุบายให้เข้าไปเห็นธรรมะ ตัวหนังสือคัมภีร์ต่างๆก็เหมือนกัน เป็นข้อความบันทึกของธรรมะ ไม่ใช่ตัวธรรมะ อ่านได้ ท่องได้ แต่ใจยังไม่เป็นธรรมะ พูดรู้เรื่องอยู่ ก็ยังไม่เป็นธรรมะ ยังไม่เห็นธรรมะ ตัวธรรมะจริงๆนั้นบอกกันไม่ได้ เอาให้กันไม่เป็น ไม่รู้จัก
.
.... ส่วนที่เราศึกษาเล่าเรียน สิ่งที่เราปฏิบัติทั้งหลายเหล่านี้ มันเป็นอุบาย เป็นข้อประพฤติปฏิบัติบอกให้เข้าไปถึง เช่น บอกว่า.."พริกมันเผ็ด" นะ! ยังไม่รู้จักว่า..ตัวผิดจริงๆนั้น..เป็นอย่างไร? รู้จักแต่ใช้สำเนียงชื่อมันว่า"เผ็ด" แต่ตัวเผ็ดไม่รู้จัก ส่วน(การได้สัมผัสตัวเผ็ดด้วยอายตนะจริงๆ)นั้นไม่ใช่ส่วนของครูบาอาจารย์ ไม่ใช่ส่วนของหนังสือ ไม่ใช่ส่วนของคัมภีร์ มันเป็นส่วนของเจ้าของ(ตัวผู้สัมผัสเอง)ที่ปฏิบัติ มันจึงจะรู้จักว่ามันเผ็ดจริงๆจึงจะรู้ว่า"ตัวเผ็ด" จึงจะเข้าถึง "ตัวเผ็ด ตัวเค็ม" เป็นต้น
.
.... เผ็ด เค็ม มีแต่ชื่อ ไม่ใช่ตัวมัน ได้ยินแต่ไม่รู้จัก ส่วนนั้นมันเป็นส่วนของการปฏิบัติ ต้องเอาไปกิน ความเผ็ด-ความเค็ม-ความเปรี้ยว จึงจะปรากฏขึ้นมา อันนั้นเป็นตัวเผ็ด อันนั้นเป็นตัวเค็ม
.
.... เราอ่านหนังสือ เราฟังธรรมะ ยังไม่ใช่ธรรมะ ตรัสรู้ธรรมไม่ได้ รู้ได้ด้วยตำรา เป็นส่วนของอุปัชฌาย์อาจารย์จะแนะนำด้วยอุบายต่างๆ เพื่อให้เข้าไปเห็น.."ความเผ็ด" คือธรรมะ อันนี้ก็เหมือนกัน เป็นอุบายให้เข้าไปเห็นธรรมะ ไม่ใช่ตัวธรรมะ"
.
พระโพธิญาณเถร
( หลวงพ่อชา สุภัทโท )
ที่มา : ธรรมเทศนา เรื่อง "ปลาไม่เห็นน้ำ"
จากหนังสือ "เหนือสิ่งอื่นใด"





"เป็นผู้มีสติ อยู่...สม่ำเสมอ
ไม่มี บกพร่อง ถึงแม้ว่า...
ไม่ได้เดินจงกรม .ไม่ได้ นั่งสมาธิ
ก็ไม่มีอะไรจะเสียหาย

นี่พูดถึงอาการ มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น
ถ้าเราทำเข้าไปถึง จุดนี้ มันจะเป็นของมัน
อย่างนั้น...
มัน จะดีใจ ก็รู้จัก
จะเสียใจ ก็รู้จัก

เมื่ออารมณ์มาประสบ
มันก็รู้ขึ้นพร้อมกัน และก็ดับพร้อมกัน
ถ้าพูดตามเรื่อง ก็เรียกว่า...
มรรค มันฆ่ากิเลส เกิด-ดับ กลับพร้อมกันเลย

พอมีปัญหา ก็มีเฉลยพร้อม
ภาษาครูบาอาจารย์ท่านว่า...มันมีแต่เรื่อง...
เกิด-ดับ เท่านั้น."

หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง.


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO