นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 4:48 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ขัตติคือความอดทน
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 31 ธ.ค. 2022 5:38 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
ไม่มีหรอก..”ปีเก่า”กับ “ปีใหม่”..
เรามีอยู่ 2 วันเท่านั้น..
“วันเกิด”.. กับ.. “วันตาย”

พระอาจารย์ อารยวังโส







" เราเห็นจิตเราแล้ว
ก็หมดความหมาย
แล้วโลกนี้

ถึงจะว่าโลกสีสวย
สีอะไรก็แล้วแต่

แต่จิตตรงนี้
ตรงผู้รู้ตรงนี้
มันไม่มีสีสันวรรณะ

จะว่าสีแดงก็ไม่ใช่
สีเหลืองก็ไม่ใช่..ไม่มีสี

เพราะตรงนี้เป็น
การกระทำเพื่อให้รู้ว่า..

คำพูด..สมมุติบัญญัติ
ในโลกนี้ทั้งหมด มันไม่ใช่จิต

คือเราหลงทาง ไปเข้า
ใจว่าจิตเป็นนั้นเป็นนี้ต่างๆนาๆ

หลงทางคือ โง่ นั่นเอง

ถ้าเราไม่โง่..คือดูที่จิต

เห็นจิตปั๊บ..จะเกิดความฉลาดขึ้นมา

จิตที่ที่ฉลาด เพราะไม่ตาม
ไม่ไปยึดมั่นของโลก

คำพูด คำสรรเสริญ
นินทาทั้งหมด จะไม่ถึงจิต

ถ้างั้นการที่เรามาภาวนา
เพื่อมาแก้ไข เพื่อจะได้จบกัน"

พระธรรมเทศนา
หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล








เราไม่ต้องตื่นเต้น
กับวันใหม่ ปีใหม่
อันนั้นมันหมุนไป
ตามเรื่องของมัน

วันหนึ่ง เดือนหนึ่ง
ปีหนึ่ง อันนั้น ...
#เป็นสมมุติบัญญัติขึ้นมา

อันที่เราควรจะตื่นเต้นนั้น
ควรตื่นเต้นที่ตัวของเรา
ว่าวันหนึ่งๆ เดือนหนึ่งปีหนึ่ง
เราเจริญขึ้น หรือว่า ...
เราเสื่อมลง อันนั้นต่างหาก

เราเห็นความเสื่อม
ความเจริญของเรา
แท้จริง ร่างกายของเรา
มันเจริญขึ้นไม่มีหรอก
มีแต่เสื่อมลง ...
มันเกิดขึ้นมาแล้ว
ก็เสื่อมลงทุกทีๆ

โอวาทธรรม
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี





..เราจำได้ว่าในปีที่เราบวชพระนั้น เราได้ติดตามหลวงปู่ตื้อกับหมู่คณะ มีท่านอาจารย์บุญส่ง โสปโก ไปช่วยงานเตรียมงานเมรุ หลวงปู่มั่น ภูริทฺตโต ได้มีโอกาสกราบคารวะครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่หลายรูป ผู้คนหลั่งไหลกันมามาก มีรถยนต์ไม่กี่คัน มีแต่หมู่เกวียนเป็นหมู่คณะ เขาหุงหาอาหารการกินกันเอง บรรทุกของอยู่ของกินมาทำอาหารถวายใส่บาตรพระเณร พระเณรหนุ่มน้อยช่วยกันทำปะรำ ทำผาม ทำตูบ ไปขนเอาฟางมาปูรอบรอบบริเวณนั้น
..ที่อัศจรรย์ใจยิ่งนั้น ผู้คนมาก พระเณรมาก ไม่อึกทึก ไม่วุ่นวาย ไม่มีชโจรขโมย ไม่มีของหาย ไม่มีการแก่งแย่งกัน ลำบากบ้างก็เรื่องน้ำใช้ เราติดตามหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ไปกับคณะของหลวงปู่เกิ่ง อธิมุตฺตโก หลวงปู่สีลา อิสฺโร
..ของอยู่ของฉันมากมาย ไม่มีขาดแคลน คนเมืองสกลนครแบ่งกันไปทำเป็นจังหันแล้วนำกลับมาถวายพระเณร แม่ขาวนางชี เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่หมดจดบริสุทธิ์จริงๆ เราเป็นพระน้อยหนุ่มบวชใหม่ ก็ปักใจมั่นว่า “ เราจะบวชไปจนตายคาผ้าเหลืองนี้ให้ได้ ”..

..ร่วมงานประชุมเพลิงหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต..
..หนังสือออกเมรุพระราชทานเพลิงศพพระครูภาวนาภิรัต (สังข์ สงฺกิจฺโจ) วัดป่าอาจารย์ตื้อ..






"...พระพุทธเจ้าเพิ่นก็สอนไว้ สอนให้มีปัญญา
เพิ่นบอกทางเท่านั้นล่ะ ทำให้ผู้ได๋บ่ได้ ถ้าสิเอา
สิ้นสุดเจ้าของซะแท้มีแต่เจ้าของทำ คือกันกับ
คนไข้คนป่วยนี่ มีแต่ถามอาการเท่านั้นแล้ว
เกิดร้อนเกิดหนาวอย่างนั้นล่ะ เจ็บนั่นปวดนี่
เท่านั้น ผู้ได๋จะช่วยกันได้ ก็ตัวใครตัวมันอันนั่น
แบกหามเอาเท่านั้นล่ะ หากผู้มีปัญญามันก็บ่
แบกหาม ปล่อยตามธรรมชาติ กายพอกาย
ใจพอใจ มันออกกันได้ หากมันจับได้มันก็ได้..."

#ที่มา หนังสือ ธรรมลี วัดภูผาแดง หน้า ๑๐๗
#โอวาทธรรม หลวงปู่ลี กุสลธโร







สิปีใหม่แล้ว ...
หัวเผือกหัวมันบ่มีเปลี่ยน
เคยเกิดจังได๋กะเกิดจังซั่น

แต่ใจคนเฮา ...
เปลี่ยนแปลงไปสู่มื้อ
ใจจังสำคัญ เป็นพระ
เป็นนักบวช เป็นหยัง

ให้ขันติ มีความอดทน
#อดทนต่อทุกสิ่งเด้อ

โอวาทธรรม
หลวงปู่หนู สุธัมโม
วัดหนองหว้า จ.อุบลราชธานี






ภาวนา แปลว่า พัฒนา พัฒนาจิต พัฒนาใจเรา การเป็นพระอริยะเจ้า เป็นพระอรหันต์ ไม่ได้เอากายเป็นนะ เอาใจเป็น
(ไม่ทราบวันที่ ณ วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์)

#วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
#หลวงตาสินทรัพย์ จรณธัมโม





"...จิตกับสตินี่ เราจึงพึงทำความเข้าใจว่า จิตนี่สัก
แต่ว่านึกว่าคิด แต่หาความเป็นระเบียบไม่ได้ แต่เมื่อ
มีสติเข้าประกอบเป็นเจตสิกแล้ว ความคิดของจิตนั้น
ก็จะเป็นระเบียบยิ่งขึ้น เรามาหัดภาวนานี่ หัดเพื่อให้
จิตของเราเกิดสติ มีสติเข้มแข็งขึ้น เพื่อจะได้จัดระบบ
ความคิดของจิตให้มีระเบียบดีขึ้น ปราศจากกันไม่ได้

ถ้าเราตั้งใจจดจ้องกับการฟังคำพูดของผู้พูด เมื่อจิต
ของเราไม่อยู่กับคำพูด ก็เรียกว่าเราขาดสติ อันนี้ว่า
กันโดยธรรมดาๆ ทีนี้อีกอันหนึ่ง ไม่ใช่ลักษณะขาด
สติ อันนี้เกิดขึ้นสำหรับผู้ที่เคยภาวนาเป็นมาแล้ว
ถ้าหากการฟังเทศน์ ถ้าจิตมันไม่ยอมรับ มันก็เข้าไป
สู่ความสงบ ในเมื่อสงบแล้ว มันก็เข้าไปค้นคว้าตาม
หน้าที่ของมันเอง อันนี้ลักษณะหนึ่ง ถ้าเป็นแบบนี้
ไม่ใช่เรื่องขาดสติ อย่างการฟังเทศน์ ฟังไปๆๆ
ถ้าหากว่าภูมิของผู้เทศน์กับภูมิของเราไม่ตรงกัน
จิตมันจะไม่เอาไหน มันจะเข้าไปสู่ความสงบ แล้วไป
ค้นคว้าของมันเองต่างหาก โดยไม่สนใจกับคำพูด
ของผู้พูด อันนี้ไม่ใช่ลักษณะขาดสติ แต่ถ้าเราตั้งใจ
ว่าจะให้จิตมันอยู่กับคำพูดของผู้พูด พอเสร็จแล้วมัน
ไม่ใช่ลักษณะของความสงบ แต่มันลอยเลื่อนไปทาง
อื่น คือลืมๆ ไป อันนี้เป็นลักษณะของการขาดสติ..."

#ที่มา หนังสือ ฐานิยปูชา ๒๕๖๒ หน้า ๑๘ - ๑๙
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)







หน้าหนาว หนาวปานได๋กะอดเอาเด้อ พระเณรเฮา อย่าไปใส่เสื้อใส่กางเกง บ่แม่นญาติโยมเด้อ ให้ยึดพระธรรมวินัยเป็นหลัก เสื้อกางเกงพินทุบ่ได้ เป็นวัตถุอนามาส พระวินัยให้นุ่งห่มผ้าบ่ให้เป็นคือฆราวาสญาติโยม ให้นุ่งห่มให้แตกต่าง
พระธรรมวินัยบัญญัติไว้แล้ว ให้นำผ้ามาเย็บต่อกันเป็นผืน ย้อมสีแก่นไม้ นำมานุ่งห่ม บวชบรรพชาเข้ามาเป็นนักบวชแล้ว ให้ยึดถือพระธรรมวินัย รักษาข้อวัตรปฏิบัติให้เคร่งครัด

หลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญฺโญ
พระราชพัชรญาณมุนี
วัดประชาคมวนาราม(ป่ากุง)
ศรีสมเด็จ ร้อยเอ็ด


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO