นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 28 มี.ค. 2024 8:01 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ความเลื่อมใส
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 30 ส.ค. 2022 7:01 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4510
#เพื่อรอยยิ้มเมื่อสิ้นลม
#อ่านแล้วปิติยาวหน่อยแต่มากด้วยคุณค่าที่ดีต่อชีวิต

#หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องบริหารจิต

#คำตอบก็คือ จะได้เอาใช้ ในเวลาที่สำคัญ ที่สุดของชีวิต คือตอนสภาวะจิต ณ ขณะใกล้ตาย ซึ่งจิตก็จะไปตามสภาวะนั้นๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่อยู่ในวัยชราภาพด้วยแล้ว ย่อมมีโรคภัย ที่จะมาสร้างความเจ็บปวด ตอนจิตจะดับ

ดังนั้น ถ้าจิตไม่ได้รับการฝึกหัดมา บ่มบุญ บ่มสติมา ก็เป็นการยากที่จะตั้งจิตไว้ ในทางที่ดีได้

โดยปกติแล้วห้องไอซียู มักมีแต่ความตึงเครียด หดหู่ น่ากลัว จึงเป็นธรรมดาที่ห้องไอซียู จะเป็นความทรงจำ ที่ผู้ผ่านประสบการณ์ มักต้องการลบและลืม

#แต่สำหรับคุณยายพิสมัยและลูกหลานอีกสองคนกลับเป็นความประทับใจ ที่ต้องจดจำไปอีกยาวนาน คงเป็นเพราะในชีวิต คุณยายคงจะทำบุญมาดี เลยมีพระดีๆมาโปรด ทำให้คุณยายพิสมัยมาป่วยพร้อมๆ กับพระอาจารย์คำเขียน สุวณฺโณ ผู้เป็นเสาหลัก ของการเผยแผ่ธรรมจากภูโค้ง จ.ชัยภูมิ

ซึ่งท่านมีลูกศิษย์มาก ด้วยเหตุนี้ภายในห้องไอซียู จึงมีพระสงฆ์อยู่เฝ้าไข้เป็นประจำ

ในค่ำคืนนี้... เป็นเวรของพระอธิการครรชิต อกิญฺจโน เจ้าอาวาสวัดป่าสันติธรรม ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ

แต่ด้วยเหตุห้องไอซียูไม่เอื้อต่อบรรยากาศ ในการสนทนาความ และสนทนาธรรม อาการชักของคุณยายพิสมัย จึงอยู่เพียงในสายตา การเฝ้ามองของพระอธิการครรชิต เท่านั้น ท่านได้แต่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ คอยแผ่เมตตา ส่งแรงใจช่วยเท่านั้น

ตลอดคืนนั้นอาการของคุณยายพิสมัยไม่ดีขึ้น อาการชักกระตุกยังมีต่อเนื่องไม่ผ่อนคลาย มาตรวัดที่จอมอนิเตอร์ข้างเตียง บ่งบอกถึงอาการ ไม่น่าไว้วางใจ จนแพทย์เวร ต้องมาเปรยๆกับลูกหลาน ว่า คุณยายควรทำสังฆทานได้แล้วนะ

เช้าวันรุ่งขึ้น ลูกหลานของคุณยายพิสมัย ได้เข้ามาอาราธนาท่าน ให้ไปรับสังฆทานจากคุณยาย แม้ว่าจะเห็นหน้ากันคุ้นเคย แต่การสนทนาที่แท้จริง เพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

พระอธิการได้สอบถามถึง เหตุอาการป่วยไข้ จึงรู้ว่า เป็นด้วยอาการชราภาพ แขนขาอ่อนกำลัง มิใช่ความผิดปกติจากโรคภัยไข้เจ็บใดๆ อาการชักนั้นไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง แพทย์บอกได้เพียงว่า มาจากสภาพเสียสมดุลของปฏิกิริยาเคมีภายในร่างกาย

#ลูกหลานจึงนิมนต์ขอให้พระอธิการครรชิต โปรดรับสังฆทาน แล้วช่วยสวดมนต์ให้คุณยายด้วย

พระอธิการตอบรับ แต่ในใจนั้นท่านมีวิธีการอื่น ที่คิดว่าน่าลองทำมากกว่า

พระอธิการได้ถามถึงกิจวัตรของคุณยาย จึงรู้ว่า คุณยายชอบใส่บาตร ในตอนเช้าไม่เคยขาด คุณยายเคยผ่านการอบรมกรรมฐานมาบ้าง และชอบไปไหว้หลวงพ่อทองคำ ที่วัดไตรมิตรฯ เป็นประจำ

ณ ข้างเตียงของคุณยายพิสมัย ในห้องไอซียู คุณยายยังคงอยู่ในสภาพที่ร่างกายกระตุกตลอดเวลา

พระอธิการครรชิตได้พิจารณาอาการ และคิดหาหนทางแก้ไข และเห็นว่า การน้อมนำจิตของคุณยาย ออกจากทุกข์เวทนาทางกาย ไปสู่ที่หมายใหม่ ให้จิตได้ตั้งมั่น และที่ง่ายที่สุดน่าจะพึ่งอานิสงส์ จากการใส่บาตรเป็นประจำทุกๆเช้านี่แหละ

ท่านนั่งลงที่ข้างเตียงแล้วเริ่มบทสนทนา แน่นอนว่า เป็นการพูดข้างเดียว เพราะคุณยายมีสายยางสอดผ่านลำคอ แต่ยังดีที่คุณยายมีสติพยักหน้ารับรู้

“คุณโยม อาตมาเป็นพระนะ วันนี้ มาเยี่ยมไข้คุณโยม คุณโยมรับรู้หรือไม่ ถ้ารับรู้ช่วยพยักหน้ารับทีได้ไหม”

#พระอธิการเริ่มการสนทนา
คุณยายผงกศีรษะรับรู้ พระอธิการจึงเข้าเรื่องทันที “คุณโยม วันนี้ วันพระนะ เช้าแล้วไปใส่บาตรกันดีไหม”

คุณยายผงกศีรษะรับอีก

“เข้าครัวกันดีกว่า........ หาขันข้าวเจอหรือยัง......... กับข้าวอยู่ไหน...... เรียงใส่ถาดให้ครบนะ ค่อยๆ ใจเย็นๆ ”

พระอธิการเริ่มนำจินตนาการ เป็นจังหวะช้าๆ หน่วงเวลาให้คุณยายได้สร้างมโนภาพตาม ด้วยความคุ้นเคยในกิจวัตรที่กระทำในทุกๆเช้า จึงไม่ยากเลยที่คุณยายจะคล้อยตาม

“ไปหน้าบ้านกันดีกว่าโยม ใกล้เวลาพระมาแล้ว เอาเก้าอี้ไปด้วยนะ จะได้นั่งให้สบาย”

คุณยายผงกศีรษะรับ

“ไหนคุณโยมพระมาหรือยัง หันไปทางซ้ายดูซิ มีพระมาไหม”

คุณยายสั่นศีรษะ พระอธิการรู้ทันทีว่า ที่บ้านของคุณยายทุกเช้าพระบิณฑบาต จะเดินมาจากทางขวามือ

“ทางขวาล่ะ พระมาหรือยัง”

คราวนี้คุณยายผงกศีรษะรับ

“คุณโยมพระมาแล้ว ท่านมายืนข้างหน้าเปิดฝาบาตรรอแล้ว คุณโยม.. ยกขันข้าวขึ้นอธิษฐานก่อน”

คราวนี้คุณยายเลื่อนมือที่เคยวางทอดอยู่ข้างเตียง ขึ้นมาประสานกันที่บริเวณหน้าท้อง ในลักษณะประคองขันข้าว

พระอธิการได้กล่าวคำอธิษฐานนำ ซึ่งมีแต่สิ่งดีงามเพื่อน้อมนำจิตใจ

“อ้าวคุณโยมตักข้าวใส่บาตรนะ ....ใส่กับข้าวด้วย ........เอาดอกไม้ธูปเทียนวางบนฝาบาตร......เสร็จแล้วองค์ที่หนึ่ง ......พระไปยืนรอทางซ้ายแล้ว”

“องค์ที่สอง ตักข้าวใส่บาตรนะ........ ใส่กับข้าวด้วย .........อย่าลืมดอกไม้ธูปเทียนวางบนฝาบาตร........เสร็จแล้วองค์ที่สอง .........พระไปยืนรอทางซ้าย”

พระอธิการนำจินตนาการใส่บาตรทีละองค์ ทีละองค์ จนครบหกองค์ เป็นการพูดนำทีละขั้นตอน เป็นจังหวะที่เนิบช้าอยู่หกรอบ

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการย้ำภาพเดิมๆ ที่คุณยายคุ้นเคย เพื่อปลุกเร้าจินตนาการ ให้เกิดนิมิตอันแรงกล้าขึ้น

เพียงการนำจินตนาการ ใส่บาตรพระผ่านไปยังไม่ทันครบ ผลที่เกิดขึ้นอย่างเด่นชัดก็คือ อาการกระตุกของร่างกายคุณยาย เริ่มลดลง คุณยายเริ่มมีความผ่อนคลายมากขึ้น แล้วเมื่อการนำจินตนาการใส่บาตรครบสมบูรณ์ทั้งหกองค์

“คราวนี้กรวดน้ำรับพรนะ เตรียมตัวพระจะสวดแล้ว .......... ยะถา วาริวะหา ปูรา ปาริปูเรนติ........”

พระอธิการสวดอนุโมทนา ยะถาสัพพีทั้งบท อย่างสมจริง เพื่อให้คุณยายได้ตั้งจิตรับพร

ไม่น่าเชื่อว่า ความปกติได้หวนคืนกลับมา คุณยายพิสมัยไม่มีอาการกระตุก หลงเหลืออีกแล้ว

“คุณโยม ใส่บาตรรับพรจากพระเรียบร้อยแล้ว อิ่มอกอิ่มใจกันแล้ว วันนี้เราไปไหว้พระ ที่วัดไตรมิตรฯ กันต่อดีไหม”

คุณยายผงกศีรษะรับ พระอธิการจึงพาไปเที่ยวไหว้พระต่อ ที่วัดไตรมิตรฯ ทันที

ที่วัดไตรมิตรฯ ตามจินตนาการ พระอธิการครรชิต ได้พาคุณยายพิสมัย กราบหลวงพ่อทองคำ

ท่านถามคุณยายว่า พระพุทธรูปงามไหม คุณยาย ผงกศีรษะรับว่างดงาม พระอธิการยังได้ชวนคุณยาย นั่งลงภาวนาพุทโธ ที่หน้าองค์พระทองคำ โดยที่ท่านนำการภาวนาด้วยตัวเอง โดยออกเสียง พุท – โธ
พุท – โธ เป็นจังหวะช้าๆ

เมื่อการภาวนาผ่านไปไม่นานนัก สิ่งที่พระอธิการสังเกตเห็นก็คือ เส้นกราฟแสดงผลการเต้นของหัวใจที่ปรากฏบนจอมอนิเตอร์ข้างเตียงนั้น จากที่เคยยุ่งเหยิงสับสน ก็เริ่มจัดระเบียบตัวเอง และเมื่อผ่านไประยะหนึ่ง เส้นกราฟก็เริ่มขยับเป็นจังหวะ สอดคล้องตรงกับจังหวะเสียง พุท – โธ ที่ท่านพูดนำ

ท่านรู้ทันทีว่าจิตของคุณยาย ได้ดิ่งลงสู่สมาธิภาวนาที่สมบูรณ์แบบแล้ว ในขณะนั้น ท่ามกลางความเป็นไปในห้องไอซียู ความเคลื่อนไหวรอบกายยังคงยุ่งเหยิง ไปตามปกติ ของภารกิจในหมู่พยาบาลและแพทย์

แต่ที่เตียงของคุณยายพิสมัยนั้น เป็นข้อยกเว้น ทุกอย่างสงบและควบคุมอยู่ในอาการภาวนา พุท – โธ ที่ราบเรียบ
โชคดีที่ไม่มีใครในห้องหันมาให้ความสนใจ หรือเข้ามารบกวน ขัดจังหวะ มีแต่ลูกหลานทั้งสองที่สังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด เกิดปีติจนน้ำตาพรั่งพรู เพราะนี่คือความสงบระงับของคุณยาย อันน่าอัศจรรย์ เนื่องด้วยร่างกายของคุณยาย ได้กระตุกต่อเนื่องมานานหลายเวลาแล้ว

เวลาล่วงเลยไปนานหลายนาน การภาวนา พุท – โธ ยังคงดำเนินต่อเนื่อง มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่จอมอนิเตอร์ ระดับชีพจรของคุณยายเริ่มช้าลง แรงดันโลหิตลดระดับลง และลดลงอย่างต่อเนื่อง

จนในที่สุด ความเคลื่อนไหวทั้งหมด ได้หยุดนิ่งลง
เส้นกราฟราบเรียบเป็นเส้นตรง ตัวเลขทุกตัวแสดงค่าเป็นศูนย์ บ่งชี้ว่า คุณยายพิสมัยได้สิ้นลมแล้วอย่างสงบ

เป็นการละสังขาร ในขณะที่ยังตั้งมั่นอยู่ในจิตภาวนาที่สมบูรณ์แบบ อันเป็นสภาวะที่หาได้ยากยิ่งโดยเฉพาะสำหรับปุถุชน ที่ไม่ได้ผ่านการฝึกฝนจิตอย่างช่ำชอง
ความเป็นไปทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในห้องไอซียู ห้องที่มักพบแต่ความอาภัพอับเฉาของชีวิตผู้คน

แต่สำหรับวันนี้ของคุณยายพิสมัย ด้วยการนำจินตนาการของพระอธิการครรชิต ที่ไม่เคยเสวนาธรรมกันมาก่อนเลยในชีวิต

วันนี้พระอธิการได้พาคุณยายก้าวเดินสู่การละวางสังขาร ที่สมบูรณ์แบบ ภายใต้อารมณ์ของการภาวนาอย่างแท้จริง

พระอธิการครรชิต ได้อรรถาธิบายว่า อาการกระตุกของคุณยายเกิดจากเวทนา ด้วยความเสื่อมไปของสังขารร่างกาย เมื่อเวทนาแรงกล้า จิตย่อมขาดที่พึ่งพิง การน้อมนำสู่จินตนาการใส่บาตรที่คุ้นเคย เป็นการสร้างปุญฺญานุสสติ ใช้ความดี ใช้บุญกุศลเป็นที่ตั้ง เมื่อจิตมีที่หมายที่แรงกล้าได้พักพิง จิตย่อมสงบ เมื่อจิตสงบ กายย่อมระงับเป็นธรรมดา เมื่อกายระงับและจิตสงบ ย่อมง่ายที่จะน้อมนำไปสู่สมาธิภาวนาได้ในท้ายที่สุด

!! คุณยายทำบุญมาดี เลยมีพระดีมาโปรด !!

แล้วเราจะโชคดีแบบคุณยายกันไหม

ท่านพระอธิการครรชิต อกิญฺจโน
เจ้าอาวาสวัดป่าสันติธรรม ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
จากหนังสือ
“เพื่อรอยยิ้ม เมื่อสิ้นลม”








"คิดดูซิพวกเรา มันจะเอาความเจริญมาจากไหน ถึงแม้ว่ามีพระศาสนา มีพระธรรมคำสั่งสอน มีครูบาอาจารย์คอยชี้แจงเทศนาอบรมทุกวัน มันก็ไม่สนใจ คอยดู อย่าให้มันเสียใจภายหลัง ถึงเวลาแล้วแก้ไม่ได้นะ โลกหน้าไม่มีโลกแก้ไข มีแต่โลกรับ โลกแก้ไขคือในโลกมนุษย์เรานี้"
.
โอวาทตอนหนึ่งของหลวงพ่อสมบูรณ์






ถาม : ตัวมุทิตาเป็นอย่างไรครับ
ตอบ : มุทิตานี่เรายินดีเมื่อเห็นเขาอยู่ดีมีสุข เขาจะตั้งใจว่าขอให้มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ท่านที่มีความสุขความเจริญดีอยู่แล้ว ขอให้มีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด ไม่ได้อิจฉาเขา มีแต่สนับสนุนอยากให้เขาได้ดียิ่งไปกว่านั้น เสียงรถยนต์วิ่งมานี่ “โห..น่าดีใจนะ เขามีรถขี่” ทั้ง ๆ ที่เราเดินเท้าอยู่นี่แหละ แต่ดีใจว่าเขามีรถขี่

ถาม : แล้วผลของมุทิตาเป็นอย่างไรครับ
ตอบ : ลักษณะเดียวกันว่าถ้าเขาทำถึง คนที่สภาพจิตเริ่มละเอียดจะรับได้ หรือไม่ก็สภาพจิตอยู่ในระดับอุปจารสมาธิจะรับได้ บางทีก็รู้สึกเห็นแล้วก็รักก็ชอบ อยากเข้าใกล้โดยไม่มีสาเหตุ แต่จริง ๆ สาเหตุมี..แต่ตัวเองยังไม่ชัดเจน

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก)
เก็บตก​บ้าน​วิริย​บารมี​ ต้นเดือน​ตุลาคม​ ๒๕๕๗







พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านสอนและย้ำอยู่เสมอว่า ถ้าอยากสบายในอนาคต ก็ควรทำบุญให้มากๆ ไม่ใช่เฉพาะบุญจากทรัพย์ แต่รวมถึงบุญในการรักษาศีล และบุญในการทำสมาธิภาวนาด้วย เหตุผลก็คือ จะได้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ

การให้ทาน ส่งผลให้ มีทรัพย์มาก ทำอะไรก็รวย

การรักษาศีล ส่งผลให้ รูปร่างหน้าตาดี คนรักคนชอบ มีความสุขกายสบายใจ

การเจริญภาวนา ส่งผลให้ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ไหวพริบดี มีความคิดสร้างสรรค์

หรือบางคนอาจจะคิดว่า ไม่ได้หวังมนุษย์สมบัติ บุญต่างๆเหล่านี้จึงไม่ต้องการ แต่คนที่เขามีปัญญาจริงๆ สิ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นคุณงามความดีนั้น เขาทำหมดนั่นแหละ แต่ไม่หวังผลตอบแทนเท่านั้นเอง

ดังนั้นถึงแม้เราจะปรารถนาพระนิพพาน ก็ควรทำบุญให้ครบถ้วนด้วยความศรัทธา เพราะเราจะทราบได้อย่างไรว่า เราจะทำตนให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้ในชาตินี้ หากเราเป็นคนประมาทไม่ทำบุญไว้ก่อน ชาติต่อๆไปนั้นลำบากแน่นอน

โอวาทธรรมคำสอนพ่อแม่ครูอาจารย์
หลวงปู่ไม อินทสิริ
วัดป่าภูเขาหลวง จ.นครราชสีมา






"เราเกิดขึ้นมากี่ภพกี่ชาติ ก็มาหัดสติตัวเดียวนี้
แต่ไม่สมบูรณ์กันสักที เหตุนั้น ควรที่พวกเรา
จะพากันรีบฝึกหัดสติ แต่บัดนี้

เราจวนจะตายอยู่แล้ว ไม่ทราบว่าจะตายวันไหน
ควรที่จะฝึกหัดสติให้อยู่ในเงื้อมมือของตนให้ได้
อย่าให้จิตไปอยู่ในเงื้อมมือของความหลงมัวเมา

ผู้ใด จิตไม่อยู่ในอำนาจของตน ก็ได้ชื่อว่า
เราเกิดมาเสียเปล่า ได้ฟังคำสอน
ของพระพุทธเจ้าเสียเปล่า ตายไปก็เปล่าจากประโยชน์"

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี






"ถ้าตายแล้ว ก็แล้วกันไป
ถ้ายังไม่ตาย เมื่อตื่นนอนทุกเช้า
ก็ทำใจไว้ว่า วันนี้กับวันที่ผ่านมาแล้ว
แต่ละวันๆ จะไม่เหมือนกัน

วันนี้เราจะเจอเหตุการณ์อะไรอีก
ไม่มีความแน่นอนอะไรเลย
เราต้องเตรียมตัวเอาไว้
อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด
นี่นักปฏิบัติต้องทำอย่างนี้"

หลวงปู่ทูล ขิปฺปปญฺโญ







"บุญ" มหาศาล
สร้างกันได้ง่ายๆ แค่เริ่มจาก
"พระอรหันต์"ในบ้าน คือ
"พ่อ" "แม่"
สมเด็จพระพุฒาจาจย์
(โต พรหมรังสี)







"กาย กับใจ นี้...
เป็นสิ่งที่ไม่ยืนยงคงที่ ไม่เที่ยงแท้แน่นอนอะไรเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก็คือ...
ร่างกายเนื้อหนัง ของเรานี้ เป็นของไม่สวยไม่งาม
สกปรกโสโครก โดยประการทั้งปวง

การภาวนา
ที่ถูกต้องจะต้องเป็นไปในลักษณะนี้ นักภาวนาเมื่อรู้เห็นซึ่งสภาพตามเป็นจริงอย่างนี้แล้ว
ย่อม จะมีความสะดุ้งกลัวต่อภัยและความเป็นโทษทุกข์ ของสังขาร ไม่อยากประสบพบเห็น กับความทุกข์ทรมาน เหล่านี้อีกแล้ว

เมื่อนั้น...
จิต ก็ย่อมจะคลายจากความกำหนัดยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์
ย่อม คลายความกำหนัดรักใคร่ชอบใจ ในสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความรักใคร่ชอบใจ

เมื่อจิต...
มีความเบื่อหน่าย คลายความกำหนัด เช่นนี้แล้ว
ทุกข์ทั้งปวง ก็ย่อมดับลงได้โดยแท้

ข้อที่ว่าทุกข์ ทั้งปวงดับลงนี้...
เป็นเพราะอวิชชา คือ ความไม่รู้ความเป็นจริงในธรรม ดับไปนั่นเอง

จึงเป็นเหตุให้รู้ความเห็น
ในธรรมที่เรียกว่า...ปัญญานั้นเจริญถึงที่สุด
ผลที่ได้รับ ก็คือ...
ปัญญา...
อันสงบระงับ และแจ่มแจ้ง"

-----------------------------------------------------------------------
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
กล่าวอบรมหลวงปู่กินรี จันทิโย





จิตเป็นของฝึกได้
ฉันทะทำให้ขยัน
ตัณหาทำให้ขี้เกียจ

ฝึกให้จิตมีกุศลธรรม
ฉันทะ คือ ยินดีพอใจ
ที่จะทำความเพียร
เจริญในศีล สมาธิ
และ ปัญญา ตลอดเวลา

ถ้าเราไม่ฝึกตัวเราเอง
แล้วจะรอให้ใครมาฝึกให้
เด็กก็ตาย วัยรุ่นก็ตาย
ผู้ใหญ่ก็ตาย ...

ล้วนเกิดมาเพื่อเข้าสู่
#ความดับด้วยกันทั้งนั้น
ไม่รู้ว่า “พรุ่งนี้” หรือ “ชาติหน้า”
จะมาถึงก่อนกัน ...

โอวาทธรรม ..
พระอาจารย์คม อภิวโร








"ถ้าตายแล้ว ก็แล้วกันไป
ถ้ายังไม่ตาย เมื่อตื่นนอนทุกเช้า
ก็ทำใจไว้ว่า วันนี้กับวันที่ผ่านมาแล้ว
แต่ละวันๆ จะไม่เหมือนกัน

วันนี้เราจะเจอเหตุการณ์อะไรอีก
ไม่มีความแน่นอนอะไรเลย
เราต้องเตรียมตัวเอาไว้
อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด
นี่นักปฏิบัติต้องทำอย่างนี้"

หลวงปู่ทูล ขิปฺปปญฺโญ







"... มารดาบิดา เป็นพระพรหมของลูก เป็น
ครูอาจารย์คนแรกของลูก และเป็นเทวดาองค์แรกของลูก จึงเป็นผู้ควรรับการสักการะบูชาจากลูก

... พระพุทธเจ้าได้สอนไว้ใน “มาตาปิตุคุณสูตร” ว่า บุตรไม่อาจตอบแทนคุณแก่มารดาบิดานั้น ให้สิ้นสุดได้โดยประการใด ๆ ด้วยอุปการะอันเป็นโลกียะ แม้จะทำให้ท่าน ทั้ง
สองนั่งอยู่บนบ่าขวา บนบ่าซ้ายของลูก ลูกปรนนิบัติดูแลท่านตลอดหนึ่งร้อยปี ก็ไม่สามารถตอบแทนบุญคุณท่านได้

... ส่วนบุตรคนใด ทำให้มารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธาให้ตั้งอยู่ในศรัทธา ทำให้มารดาบิดา
ผู้ไม่มีศีลให้ตั้งอยู่ในศีล ทำให้มารดาบิดาผู้มีความตระหนี่ถี่เหนียวให้ตั้งอยู่ในจาคะ ทำให้มารดาบิดาผู้มีความหลงให้ตั้งอยู่ในปัญญาสัมมาทิฏฐิ บุตรนั้นจึงจะได้ชื่อว่าได้ทำการตอบแทนบุญคุณของมารดาบิดาอย่างเต็มที่

... ลูกที่ไม่มีความฉลาด ย่อมไม่เห็นคุณค่าความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ลูกที่มีความฉลาดย่อมเห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านี้ ตั้งแต่
พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ ..."

#วันนี้เราได้ทำสิ่งดีๆ_ให้พ่อกับแม่แล้วหรือยัง

#หลวงปู่ดู่_พรหมปัญโญ
#วัดสะแก_จังหวัดพระนครศรีอยุธยา






"การฝึกหัดจิต ให้มีสติ ทุกเมื่อ...

ส่วนการสำรวมระวังใจ
ถ้าอยู่เฉย ๆ ใจไม่มีเครื่องอยู่ ให้เอาคำบริกรรม
อันใดอันหนึ่งมาเป็นเครื่องอยู่ มาเป็นหลักผูกใจ
เช่น พุทโธ
อานาปานสติ ตามลมหายใจเข้า-ออก
ยุบหนอ พองหนอ
หรือสัมมาอรหัง ก็ได้
เอาอันนั้น...มาเป็นเครื่องอยู่เสียก่อน นึกคิดอยู่
เสมอ ๆ จนเป็นอารมณ์

มีสติควบคุมจิต อยู่...ตรงนั้นแหละ
จิต อยู่ที่ใด
ให้เอาสติ...ไปตั้งไว้ในที่นั่น จึงเรียกว่า...
ควบคุมจิต รักษาจิต

ที่จะห้ามไม่ให้คิด ไม่ให้นึกนั้น...
ห้ามไม่ได้เด็ดขาด
ธรรมดาของจิต มันต้องมีคิด มีนึก
แต่หากมีสติ...
ควบคุมจิต อยู่...เสมอ คิดนึกอะไร
ก็รู้ตัวอยู่...ทุกขณะ เรียกว่า...บริกรรมภาวนา

การบริกรรมภาวนานี้...
มิใช่ของเลว คนบางคนเข้าใจว่า เป็นของเลว
เป็นเบื้องต้น ที่จริง ไม่ใช่เบื้องต้น
ธรรม...
ไม่มีเบื้องต้น
ท่ามกลาง
ที่สุดหรอก

ธรรมะ อันเดียวกันนั่นแหละ
ถ้าหากสติอ่อนเมื่อไร ก็เป็นเบื้องต้นเมื่อนั้น
สติแก่กล้า เมื่อไร
ก็เป็นท่ามกลาง และที่สุดเมื่อนั้น
คือหมายความว่า...
สติคุมจิต อยู่...ทุกขณะจนกระทั่ง...
เป็นมหาสติปัฏฐาน
จะยืน เดิน นั่ง นอน ในอิริยาบถใดๆ ทั้งหมด
มีสติรอบตัว อยู่...เสมอ
โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ให้มีสติ แต่มันเป็นของมันเอง

สติ...
ควบคุมจิตไปในตัว เมื่อมีสติเช่นนั้น
มันก็ไม่เกี่ยวข้องพัวพันกัน กับสิ่งต่าง ๆ

เมื่อตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง ลิ้นลิ้มรสต่าง ๆ
กายได้สัมผัส มันก็เป็นสักแต่ว่า สัมผัส แล้วก็...
หายไป ๆ
ไม่ได้ เอามาเป็นอารมณ์
ไม่เอามาคำนึงถึงใจ อันนั้น...เป็นมหาสติแท้
ทีเดียว."
_____________________________________________
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง.







#ศรัทธาตั้งมั่นปฏิบัติใด้ตลอดเวลา

คนเราเมื่อมีศรัทธา ความเชื่อ ความเลื่อมใส
จิตใจมั่นคงหนักแน่นในธรรมปฏิบัตินั้น
ทำดีได้ตลอดเวลา พูดดีได้ตลอดเวลา
คิดดีได้ คิดภาวนาได้ตลอดเวลา

ศรัทธาความเชื่อ ศรัทธาความเลื่อมใส
ในพุทธธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า
ศรัทธาตั้งมั่นในธรรมปฏิบัติ

เมื่อศรัทธาตั้งมั่นในธรรมะปฏิบัติ
เต็มดวงจิตดวงใจของตนอยู่แล้ว
นั้นแหละ...สาวโก สาวกของพระพุทธเจ้า
มีอยู่ที่กาย วาจา จิต ของตัวเองทุกคน

พระญาณสิทธาจารย์
(หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)
วัดถ้ำผาปล่อง ต.บ้านถ้ำ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
คัดลอกเนื้อหาจาก
หนังสือสุข สงบ เยือกเย็น
สิงหาคม, ๒๕๕๖. หน้า ๓๔


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO