นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 26 เม.ย. 2024 12:51 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ทุกอย่างเป็นอนิจจัง
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 28 ส.ค. 2022 9:07 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4540
พระองค์ไหนพูดขึ้นมา มีแต่บอกว่าตนเองเป็นพระอรหันต์ แต่การประพฤติ ปฏิบัติ แค่ศีล ๑๐ ก็ยังรักษาให้บริสุทธิ์ไม่ได้ สู้ฆราวาสบางคนก็ไม่ได้ จะไปถามเอาอะไรกับคำว่า "พระอรหันต์"

#หลวงปู่ชนะ_อุตตมลาโภ






"คนที่จิตสูงไม่เต็มที่ เมื่อถูกเขาด่าว่าอะไร
มักเก็บเอาไปคิด เอาไปนึก

เพราะคนเราส่วนมาก สำคัญว่าตนฉลาด
แต่กลืนกินอารมณ์ที่ชั่ว อารมณ์ที่ชั่วเหมือนอสรพิษ
เป็นลักษณะของคนโง่

แต่มุนีท่านไม่ถือ ท่านว่าเป็นโลกธรรม
ที่เกิดมา ใครๆ ต้องพบประสบทุกๆ คนไป"

หลวงปู่หลุย จันทสาโร






ถ้าจิตยืนอยู่บนฐานแล้ว
จิตจะมีความมั่นคง
มีความหนักแน่น

ไม่สะทกสะท้าน
ไม่หวั่นไหว กับรูป เสียง
กลิ่น รส โผสฐัพพะ
ที่ใจมาสัมผัสรับรู้

เท่านี้เอง ...
นี่คือเคล็ดลับของชีวิต
เคล็ดลับของความสุขใจ
อยู่ตรงนี้แหละ

ดึงใจให้มันไปอยู่
ตรงจุดนั้นให้ได้ ตรงจุด
#ที่เป็นอุเบกขาสักแต่ว่ารู้

แล้วเวลาอะไรมากระทบนี้
มันจะสักแต่ว่ารู้แค่นั้นเอง

มันจะไม่ดีใจ ไม่เสียใจ
ไม่วิตกไม่กังวล ไม่ห่วงใย

คติธรรมคำสอน
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต






"...เมื่อทบทวนชีวิตความเป็นอยู่ของแต่ละคนในรอบปีที่ผ่านมา ย่อมพบว่าต่างคนต่างต้องประสบกับทั้งความสุข และความทุกข์ สลับสับเปลี่ยนไปมาด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครที่จะสุขกายสบายใจไปได้ตลอดเวลา เพราะความทุกข์นั้นเป็นของธรรมดาประจำโลก มนุษย์จึงแสวงหาหนทางพ้นทุกข์ ด้วยกระบวนการอันเนื่องมาจากวิธีคิดต่างๆ กันไป

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระมหากรุณาต่อสรรพสัตว์ จึงประทานหลักการสำคัญไว้ให้แก่ชาวโลกว่า ถ้าปรารถนาจะถึงความพ้นทุกข์ ต้องรู้จักทุกข์ และรู้ต้นเหตุแห่งทุกข์นั้นๆ ให้ได้กระจ่างเสียก่อน ตามหลักการที่เรียกว่า อริยสัจ ๔ เมื่อรู้ทุกข์ และเหตุแห่งทุกข์แล้ว จึงจะสามารถกำหนดวิถีทางดับทุกข์ พร้อมกับประพฤติปฏิบัติตามวิถีนั้นๆ ไป จนบรรลุถึงความดับทุกข์ได้ด้วยตนเอง.."
.
--- พระคติธรรม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก






เราบริจาคทานชั้นสูง
โดยไม่เสียสตางค์ คือ
"เสียสละ"
ความทุกข์ที่มันอยู่ใน
จิตใจ ด้วยการเจริญ
วิปัสสนากรรมฐาน
ให้เกิดปัญญาญาณรู้วิธีแก้ปัญหาของชีวิต

หลวงพ่อจ​รัญ​ ฐ​ิ​ต​ธ​ั​มโม​






"... ถ้าภาวนา​ สักแต่ว่าภาวนา​ ทั้งภาวนา
ทั้งสัปหงกงกงัน ทั้งอ้าปาก ทั้งหลับครอกๆ
แครกๆ
... อยู่ตามครัวไฟ​ อยู่ตามเหล่านี้​ อันนั้นไม่ใช่
ภาวนา ..."

#มันภาวนอน..!!
———————
หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี






มิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิ

"แมว เฝ้ารูหนูก็มีสมาธิ นักย่องเบา ก็มีสมาธิ
แต่ไม่ใช่...สัมมาสมาธิ
เป็นสมาธิ ของสัตว์เดียรัจฉาน ไม่ใช่บ่อเกิด
ของปัญญา
พระพุทธองค์ทรง เรียกว่า...มิจฉาสมาธิ

หลวงพ่ออธิบายว่า สมาธิ ทั้งหลายเหล่านี้
แบ่งเป็นมิจฉาสมาธิ อย่างหนึ่ง คือเป็นสมาธิ
ในทางที่ผิด
เป็นสัมมาสมาธิ อย่างหนึ่ง
คือสมาธิ ในทางที่ถูกต้อง นี่ก็ให้สังเกตให้ดี

มิจฉาสมาธิ
คือ ความที่จิตแน่วแน่ เข้าสู่...สมาธิ เงียบหมด
ไม่รู้อะไรเลย ปราศจากความรู้ นั่งอยู่ ๒ ชั่วโมงได้ กระทั่งทั้งวัน ก็ได้
แต่จิตไม่รู้ว่า มันไปถึงไหน มันเป็นอย่างไรไม่รู้เรื่อง
นี้สมาธิอันนี้...เป็นมิจฉาสมาธิ
มันก็เหมือนมีดที่เราลับให้คมดีแล้ว แต่เก็บไว้เฉย ๆ ไม่เอาไปใช้ มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
อย่างนั้น...
เป็นความสงบที่หลง คือไม่ค่อยรู้เนื้อรู้ตัว

เห็นว่า ถึงที่สุดแล้ว...
ก็ไม่ค้นคว้าอะไรอีกต่อไป จึงเป็นอันตราย เป็นข้าศึก ในขั้นนั้น
เป็นอันตราย ห้ามปัญญาไม่ให้เกิด ปัญญาเกิดไม่ได้ เพราะขาดความรู้สึกรับผิดชอบ

ส่วนสัมมาสมาธิ ที่ถูกต้อง
ถึงแม้จะมีความสงบไปถึงแค่ไหน ก็มีความรู้ อยู่...
ตลอดกาล ตลอดเวลา
มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ บริบูรณ์ รู้...ตลอดกาล
นี้เรียกว่า...สัมมาสมาธิ

เป็นสมาธิ ที่ไม่ให้หลงไปในทางอื่นได้
นี้ก็ให้นักปฏิบัติเข้าใจไว้ให้ดี จะทิ้ง..ความรู้นั้นไม่ได้ จะต้องรู้ตั้งแต่ต้นจนปลายทีเดียว ถึงจะเป็นสมาธิที่ถูกต้อง ขอให้สังเกตให้มาก

และอีกโอกาสหนึ่ง
หลวงพ่อพูดถึงสมาธิสองอย่าง อีกนัยหนึ่ง

ความสงบนี้...มีสองประการ
คือความสงบอย่างหยาบ อย่างหนึ่ง
และความสงบอย่างละเอียด อีกอย่างหนึ่ง
อย่างหยาบ นั่นคือ...
เกิดจากสมาธิที่เมื่อสงบแล้ว ก็มีความสุข
แล้วถือเอาความสุข เป็น...ความสงบ

อีกอย่างหนี่ง คือ
ความสงบที่เกิดจากปัญญา นี้ไม่ได้ถือเอาความสุขเป็นความสงบ แต่ถือเอาจิตที่รู้จักพิจารณาสุข-ทุกข์เป็น...ความสงบ
ความสงบ จึงไม่ใช่ความสุข ฉะนั้นความสงบ
ที่เกิดจากปัญญานั้น
จึงไม่ใช่ความสุข แต่เป็น...ความสงบ

เพราะว่า...
ความสุขความทุกข์นี้ เป็นภพเป็นชาติ
เป็นอุปาทาน จะไม่พ้นจาก...วัฏสงสาร
เพราะติดสุข-ติดทุกข์
ความสุข จึงไม่ใช่...ความสงบ
ความสงบ จึงไม่ใช่...ความสุข

ฉะนั้น ความสงบที่เกิดจากปัญญานั้น
จึงไม่ใช่ ความสุข
แต่เป็น...ความรู้เห็นตามความเป็นจริง
ของความสุข-ความทุกข์ แล้วไม่มี...
อุปาทานมั่นหมาย ในสุข-ทุกข์ ที่มันเกิดขึ้นมา
ทำจิตให้เหนือสุข-เหนือทุกข์ นั้น

ท่านจึงเรียกว่า...
เป็นเป้าหมาย ของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง."

ที่มา : คัดมาจากหนังสือการฝึกสมาธิเจริญภาวนา โดยพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)









"...การภาวนา อิริยาบถทั้ง ๔ มันได้หมด จิตเป็นผู้ทำ
เรื่องกายนี่มันก็อยู่ธรรมดานี่แล้วคือท่อนไม้ท่อนฟืน
หากจิตมันเอาแท้ๆ บ่ฮู้จักหยัง มีแต่ผู้รู้ เวทนามันก็บ่มี
คือกันกับเฮานอนหลับนี่ล่ะ เมื่อคืนนอนปานตายเวทนา
มันบ่มี นอนหลับ เพราะจิตมันว่างจากกายแล้ว จิตมันบ่
มีสติตอนเฮานอน การภาวนามีสติเด๊ ขอให้อบรมให้จิต
เป็นมหาสติเถอะ ฝึกจิตใจเจ้าของให้อยู่อย่างนั้น
ฝึกปัญญาให้มีจักษุเกิดขึ้นเกิดมี เพิ่นฝึกอย่างนั้น..."

#ที่มา หนังสือ ธรรมลี วัดภูผาแดง หน้า ๑๑๗
#โอวาทธรรม หลวงปู่ลี กุสลธโร






" ทำสติให้ดี ระลึกให้มั่น ว่าจะไม่ทำชีวิตใดชอกช้ำด้วยฝีมือเรา
โดยเฉพาะชีวิตของเราเองด้วย และจงเชื่อเถิดว่า
ทันทีที่มีความตั้งใจจริงด้วยความรู้สึกเป็นบุญ
คือด้วยเมตตาจริงใจทันทีทีเดียวที่จะเกิดผล
แม้จะไม่อาจเห็นได้ด้วยสายตาสามัญชนเช่นเราท่านทั้งหลาย
แต่สายตาอันเป็นทิพย์ของผู้เป็นทิพย์ทั้งปวงย่อมรู้ ย่อมเห็น
ย่อมอนุโมทนาการ และย่อมบันดาลผลดีตอบสนอง
ควรแก่ความหนักแน่นจริงใจในการตั้งใจอธิษฐาน "
.
--- พระนิพนธ์เรื่อง 'ฝึกใจ'
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
#ธรรมะ #อมตะธรรม #ธรรมะสอนใจ







ทำอะไรไม่ได้ รักษาใจไว้ก่อน
พยายามฝึกตัวเองนะ ฝึกตัวเองเข้า

ต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิตเรา
ตัวเราอาจจะเจ็บป่วย คนในครอบครัวเราอาจจะวิบัติไป
ลูกเราติดยา หรือลูกสาวเรียนมัธยมต้นแล้วท้อง อะไรอย่างนี้ เอาแน่ไม่ได้

หรือกว้างกว่านั้น..ตกงาน ที่ทำงานไม่ดี เราอยู่ไม่ได้
ใหญ่ไปกว่านั้นอีก..บ้านเมืองมีปัญหา..
หรือโลกทั้งโลกมีปัญหา..

สิ่งที่กระทบเรานะ ตั้งแต่(เรื่อง)เล็กๆ ในตัวเราเอง
ในบ้าน ในที่ทำงาน ในบ้านในเมือง ในประเทศ ในโลก
กระทบได้ตลอด

งั้นจะหวังว่าตลอดสายนี้สงบสุขหมดน่ะ ไม่มีหรอก
ในบ้านเราสงบ แต่มีปัญหาที่ทำงานเรา คลอนแคลน อะไรอย่างนี้นะ ปัญหามันมาตลอด..

งั้นทำใจไว้เลยว่า ชีวิตกับปัญหาเป็นของคู่กัน

แต่ผู้มีปัญญาว่าชีวิตมีปัญหาแล้ว มีสติ มีปัญญารักษาใจไว้
ถอนตัวออกจากปัญหานั้นมาเป็นคนดู
แล้วเราจะพบทางออกที่ดีที่สุด

ทางออกที่ดีที่สุดบางอย่างนี่นะ ก็คือ
"ไม่ต้องทำอะไร"

ปัญหาทั้งหลายมันเกิดจากเหตุ
เหตุของมันก็เปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา
งั้นบางเรื่องที่เราแก้ไม่ได้นะ ก็ไม่ต้องไปแก้มัน
ทำใจอยู่กับมัน

"ทำอะไรไม่ได้ รักษาใจไว้ก่อน"

อย่างน้อยเรามีความสงบสุขอยู่
เป็นความสงบสุขจากภายในที่ไม่อิงอาศัยคนอื่น
ไม่อิงอาศัยสิ่งอื่น

อันนี้นะเป็นสมบัติที่พระพุทธเจ้าให้เราไว้

เรามีความสุขได้ในทุกๆ สถานการณ์ ในทุกๆ ปรากฏการณ์
ปรากฏการณ์ที่คนอื่นทุกข์ร้อน เราไม่ทุกข์ร้อน
เราสามารถอยู่ได้..

ฝึกตัวเองไปแล้วเราจะไม่ทุกข์มาก ต้องฝึกนะ
สังเกตที่ใจเรื่อยๆ
ใจยินดีรู้ทัน ใจยินร้ายรู้ทัน
ฝึกแค่นี้แหละ ไปฝึกเรื่อยๆ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑
CD: 610217A แผ่นที่ ๗๔








ธรรมะท่านสอน ...
#ให้มีเมตตา ไม่ได้แปลว่า
ยอมให้ใครมาทำร้ายง่ายๆ

สำหรับคนบางประเภท
ถ้าแก้ปัญหา ...
ด้วยปางเมตตาไม่ได้
ก็อาจต้องใช้ ...
ปางปราบมารโปรดสัตว์
เอาให้ราบคาบ
ทั้งมารภายนอก
และมารภายใน

คนมีธรรมะ ...
ท่านไม่เบียดเบียนใคร
แต่ก็จะไม่ยอมให้ใคร
มารังแกเช่นกัน
เมตตาต้องประกอบ
#ด้วยปัญญาเสมอ

โอวาทธรรม ...
พระอาจารย์คม อภิวโร






ถ้าเมื่อใดบุคคลมีความรู้แจ้งในสภาพทุกข์ ความเปลี่ยนแปลง และความว่างจากตัวตน เขาย่อมสามารถละความโลภ ความโกรธ และความหลง ที่ล้วนเกิดจากความเห็นแก่ตัวได้

อย่างไรก็ตาม การจะละคลายความยึดมั่นถือมั่นอันเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ ย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย หากขาดสภาพธรรมะที่เรียกว่า "สติ" ความทุกข์ยากในโลกมนุษย์ที่เราเผชิญกันอยู่ทุกวันนี้ ล้วนเกิดจากภาวะขาดสติด้วยกันทั้งสิ้น

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงประทานพระบรมพุทโธวาทไว้ว่า "สติเป็นเครื่องตื่นอยู่ในโลก" เพราะฉะนั้นบุคคลใด ครอบครัวใด ชุมชนใด และสังคมใด ปรารถนาจะประสบสันติสุขอันไพบูลย์ บุคคลนั้น ครอบครัวนั้น ชุมชนนั้นและสังคมนั้น จำเป็นต้องสั่งสมภาวะแห่งการตื่นรู้ เพื่อจักได้รู้เท่าทันการคิด การพูด และการกระทำด้วย "สัมมาสติ" อันเป็นหนทางไปสู่ปัญญา นำมาซึ่งความหลุดพ้นจากห้วงทุกข์ได้อย่างแท้จริง

--- สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก






"เพื่อนอันประเสริฐแท้"
ระหว่างคนดีต่อคนดี ย่อมเข้ากันได้
คนดีนั่นจะเป็นเพื่อนเราในกาลต่อไป
ถ้าโลกจะขาดคนดี ไม่มีใครสนใจคบเรา
ก็ควรคบกับธรรม คือ "พุทโธ ธัมโม สังโฆ"
ภายในใจ ซึ่งดีกว่าเพื่อนที่ไม่สนใจความดีเป็นไหนๆ
นี่แล คือเพื่อนอันประเสริฐแท้

โอวาทธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน






ถ้าเมื่อใดบุคคลมีความรู้แจ้งในสภาพทุกข์ ความเปลี่ยนแปลง และความว่างจากตัวตน เขาย่อมสามารถละความโลภ ความโกรธ และความหลง ที่ล้วนเกิดจากความเห็นแก่ตัวได้

อย่างไรก็ตาม การจะละคลายความยึดมั่นถือมั่นอันเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ ย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย หากขาดสภาพธรรมะที่เรียกว่า "สติ" ความทุกข์ยากในโลกมนุษย์ที่เราเผชิญกันอยู่ทุกวันนี้ ล้วนเกิดจากภาวะขาดสติด้วยกันทั้งสิ้น

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงประทานพระบรมพุทโธวาทไว้ว่า "สติเป็นเครื่องตื่นอยู่ในโลก" เพราะฉะนั้นบุคคลใด ครอบครัวใด ชุมชนใด และสังคมใด ปรารถนาจะประสบสันติสุขอันไพบูลย์ บุคคลนั้น ครอบครัวนั้น ชุมชนนั้นและสังคมนั้น จำเป็นต้องสั่งสมภาวะแห่งการตื่นรู้ เพื่อจักได้รู้เท่าทันการคิด การพูด และการกระทำด้วย "สัมมาสติ" อันเป็นหนทางไปสู่ปัญญา นำมาซึ่งความหลุดพ้นจากห้วงทุกข์ได้อย่างแท้จริง

--- สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก





“โลกนี้ทั้งโลกไม่มีอะไรที่เราชอบ ไม่มีอะไรที่เรารัก เราไม่รักอะไร เราไม่ชอบอะไรในโลกนี้ แม้แต่ร่างกายของเราเอง เราก็ไม่ชอบไม่รัก เพราะมันเต็มไปด้วยความทุกข์ เต็มไปด้วยความทรมาน แล้วให้ใคร่ครวญหาความจริงในโลก จะเป็นสิ่งที่มีชีวิตหรือเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิตก็ตาม มันมีสภาพคงตัวได้ตลอดกาลหรือเปล่า ถ้ามันมีการเปลี่ยนแปลง มีการสลายตัว ก็ถือว่าโลกทั้งโลกหาความดีไม่ได้ แล้วก็หันเข้ามาคิดถึงร่างกายว่า กายของเราเองนี่มันยังจะตาย มันยังจะพัง เราจะยังปรารถนาอะไรภายนอกอีก เราไม่ต้องการ #เราจะไปพระนิพพาน

พิมพ์จากหนังสือ”ธรรมะเพื่อพระนิพพาน” หน้าที่ ๒๕
คำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม(ท่าซุง) จ.อุทัยธานี







"กรรมใหม่สำหรับทำ กรรมเก่าสำหรับรู้

อย่ามัวรอกรรมเก่า ที่เราทำอะไรมันไม่ได้แล้ว
แต่จงหาความรู้จากกรรมเก่านั้น เพื่อเอามาปรับปรุง
การทำกรรมปัจจุบัน

จะได้พัฒนาตัวเราให้สามารถทำกรรม อย่างเลิศ
ประเสริฐได้ในอนาคต"

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์






ให้รู้สึกว่า
#เคราะห์นั้น
ทำให้เราดีขึ้น
เป็นครูของเรา
เป็นผู้เตือนเรา
เป็นผู้ลวงใจเรา

อย่าเห็นว่าเคราะห์กรรม
เป็นของเลว ไม่น่าปรารถนา
ควรคิดว่าเป็นของดี
#ที่ทำให้เราเข้มแข็งมั่นคงขึ้น

ให้รู้สึกเสมอว่า
เราเกิดมาเรียน
ทั้งเคราะห์ร้าย
และเคราะห์ดี

เคราะห์ ...
เป็นบทเรียนของเรา
ที่จะทำให้เราแจ้งโลก
แล้วจะได้พ้นโลก

ข้อคิดคติธรรม
เจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต
ธัมมวิตักโก ภิกขุ






"... ถ้าภาวนา​ สักแต่ว่าภาวนา​ ทั้งภาวนา
ทั้งสัปหงกงกงัน ทั้งอ้าปาก ทั้งหลับครอกๆ
แครกๆ
... อยู่ตามครัวไฟ​ อยู่ตามเหล่านี้​ อันนั้นไม่ใช่
ภาวนา ..."

#มันภาวนอน..!!
———————
#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี






ทุกอย่างเป็นอนิจจัง
ไม่เที่ยง…ไม่แน่นอน
ใจเราก็เหมือนกัน
ถ้าเราวางใจเสียได้
ไม่ไปยึดว่า…เป็นของเรา
ไม่ไปยึดว่า…
สิ่งนั้นต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
จะต้องได้มาอย่างนั้น
จะต้องได้มาอย่างนี้…จิตเราก็สบาย

หลวงพ่อสนอง กตปุญฺโญ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO