นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 26 เม.ย. 2024 3:03 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เจริญก้าวหน้า
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 28 ก.ค. 2022 9:52 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4540
“บารมีต้องสร้างเอา เหมือนอยากให้มะม่วงของตน มีผลดก ก็ต้องหมั่น บำรุงรักษาเอา
ไม่ใช่แก่ไปชื่นชมต้นมะม่วงของคนอื่น ต้องไปปลูก ไปบำรุงต้นมะม่วงของตนเอง”
การสร้างบารมีก็เช่นกัน ต้องสร้าง ต้องทำเอาเอง

คำสอน : หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่







“นิมนต์พระนำคนตายกลับบ้าน”

ถาม: คนที่ตายที่โรงพยาบาล แล้วนิมนต์พระนำกลับวัดหรือบ้านคนตาย เขาจะกลับได้จริงไหมครับ

พระอาจารย์: อ๋อ เขาไปตามวาระของเขาแล้ว เขาไปเป็นเทวดาไปเป็นเปรตแล้ว หรือไปเป็นอะไรแล้ว งั้นที่ทำนี้เพียงแต่ไปเอาร่างกาย เท่านั้นเอง เพื่อความสบายใจของคนเป็น ของคนที่ยังมีอยู่ เพราะตามความเชื่อว่าต้องมีพระมาดึงกลับไป แต่พระดึงไม่ได้หรอก มันเรื่องของกรรม กฎแห่งกรรม ไม่มีใครเหนือกรรม พอร่างกายนี้ตายปั๊บนี่ จิตนี้ถูกกรรมเป็นผู้จัดการ เท่านั้นเอง เรามีกรรมเป็นของๆตน เป็นผู้รับผลของกรรม จะทำกรรมอันใดไว้ ดีหรือชั่ว จะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น งั้นกรรมก็จะจัดสรรทันทีให้เราเป็นเปรต เป็นเดรัจฉาน ไปเป็นเทวดา หรือไปเป็นพระอริยะ แล้วแต่กรรมที่เราสร้าง

ธรรมะหน้ากุฏิ
วันที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓
#พระจุลนายก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี






"... เรียนไปทำไม เรียนไม่สังเกตุ เรียน​ ไม่พิจารณา
... เรียนไม่ปฏิบัติภาวนา เรียนไม่นำมา​ เป็น
คติ
... เครื่องพร่ำสอนตน มัวแต่แย่ง​สะสมลาภ
สักการะ
... แล้วมันจะเกิดประโยชน์อะไร ..."

#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน







วิธีปลูกเมตตา คือ
คิดตั้งปรารถนาให้เขาเป็นสุข
และคิดตั้งปรารถนา
ให้เขาปราศจากทุกข์ นั้นเป็นกรุณา

ทีแรกท่านแนะนำให้คิดไปในตนเองก่อน
แล้วให้คิดเจาะจงไปในคนที่รักนับถือ
ซึ่งเป็นที่ใกล้ชิดสนิทใจ
อันจะหัดให้เกิดเมตตากรุณาได้ง่าย

ครั้นแล้วก็หัดคิดไป
ในคนที่ห่างใจออกไปโดยลำดับ
จนในคนที่ไม่ชอบกัน

เมื่อหัดคิดโดยเจาะจงได้สะดวก
ก็หัดคิดแผ่ใจออกไปด้วยสรรพสัตว์
ไม่มีประมาณ ทุกถ้วนหน้า
เมื่อหัดคิดได้ดังกล่าวบ่อย ๆ
เมตตากรุณาจะเกิดขึ้นในจิตใจ

#สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร








เสื่อมจงรู้ตาม
เจริญจงรู้ตาม
เผลอหรือไม่เผลอ
จงตามรู้ทุกอาการ
จึงจัดว่าเป็นนักค้นคว้า

#ความรู้เท่า ...
ในอาการเกิดๆ ดับๆ
ของสิ่งเหล่านี้
ด้วยปัญญาเสมอไป

นั่นแลจัดว่าเป็น
ผู้ รู้ เท่า ทัน โลก

โอวาทธรรม ...
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน






'' ทำสมาธิ เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ''

ทำสมาธิ เจริญสติ เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มากกว่าการบริจาคทานใดๆเลยนะ เป็นเพราะอะไร

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านเคยพูดเสมอว่า
“อุปัชฌาย์ข้า (หลวงปู่กลั่น) สอนว่า ภาวนาได้เห็นแสงสว่างเท่าปลายหัวไม้ขีด ชั่วประเดี๋ยวเดียว เท่าช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น ยังมีอานิสงส์มากกว่าตักบาตรจนขันลงหินทะลุ”

“หมั่นทำเข้าไว้ หมั่นทำเข้าไว้ ต่อไปจะได้เป็นที่พึ่งภายหน้า”

ท่านทั้งหลายลองคิดดูสิ ต้องตักบาตร กี่เดือน กี่ปี ต้องเกิดมาตักบาตร อีกกี่ชาติ บาตรถึงจะทะลุ

การนั่งสมาธิ ภาวนา จนจิตรวมลงเป็นสมาธิ
ได้บุญมากก็เพราะว่า ขณะที่เรานั่งสมาธิ อยู่เนี่ยนะ
เราไม่ได้ ก่อความเบียดเบียนใครใดๆเลย
ทั้งทางกาย วาจา และ ใจ คิดไม่ดีกับใครก็ไม่คิด
ด่าว่าใครเสียๆหายๆก็ไม่ได้ทำ ทำร้ายใครก็ไม่ได้ทำ
มีสติอยู่กับปัจจุบัน มีศีลบริสุทธิ์ผุดผ่องเลยล่ะ
ทั้งกาย วาจา ใจ ไม่ทำให้ตนเอง และ ผู้อื่นเดือดร้อนพระพุทธเจ้าท่านว่า เป็นมหาทาน อดีตที่ผ่านมาแล้ว ก็ไม่คิดถึง อนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ก็ไม่ผวาพะวง
ใจไม่เศร้าหมอง เบิกบานใจ อิ่มอกอิ่มใจ
ยิ่งพัฒนาสติ จนมีสติที่ตั้งมั่น จนเกิดปัญญา
เข้าถึงวิปัสนาญาณ มองเห็นโลกตามความเป็นจริง
ด้วยปัญญา รู้ ตื่น เบิกบาน ทีนี้ล่ะนะ บุญอานิสงส์ยิ่งมากเป็นทวีคูณ

บางคนไปวัด ทำบุญทำทาน ปฎิบัติธรรม
แต่ไปพูดคุย นินทากัน พระให้รับศีล ก็รับศีล จิตก็คิด อยากว่าคนนั้น อยากว่าคนนี้ คนนั้นมันขวางหูขวางตาข้าซะจริงๆ คิดมากๆเข้าไม่มีสติ ขาดสติ
ไหลไปตามความคิด ไปจับกลุ่มนินทากัน มีปัญหากันแล้วล่ะ จิตใจเศร้าหมอง ขุ่นเคืองใจ
โบราณว่า มือถือสาก ปากถือศีล
นี่บาปกรรมแล้วนะ ท่านทั้งหลาย
เห็นไหม อันไหนจะได้บุญมากกว่ากัน

* ศีลจะบริสุทธิ์ ได้ต้อง ประกอบด้วย 3 อย่าง
* ไม่ทำให้ตนเอง และ ผู้อื่นเดือดร้อน
* ทางกาย
* ทางวาจา
* ทางใจ
* ถ้าหากขาดอย่างใดอย่างนึงไปนั้นศีลยังไม่บริสุทธิ์
................................
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ








ธรรมะแท้ ...
#ท่านเป็นน้ำดับไฟ
ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งพบความจริงแท้

ธรรมะ ...
ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัย
ผู้ใดปฏิบัติจริงต้องถึง
ความจริงแน่นอน
สามารถดับทุกข์ภัย
ในวัฏสงสารได้ทุกคน

เรามีหน้าที่ทำเหตุ
ให้ต่อเนื่องอย่างเดียว
ไม่ต้องถามหาผล
ไม่ต้องถามหาวันสำเร็จ
เหตุถึงพร้อมวันไหน
อริยผลก็ปรากฏวันนั้น

โอวาทธรรม ...
พระอาจารย์คม อภิวโร




"10 วิธีใช้หนี้พ่อแม่" ทำแล้วชีวิตเจริญโดย "หลวงพ่อจรัญ"

10 วิธีที่พึงปฏิบัติ พ่อแม่คือผู้ให้ชีวิตกับเราแต่เล็กจนโตท่านต้องคอยพร่ำสอนให้ทำความดี ส่งเสียให้เรียนหนังสือ เลี้ยงดูแลเอาใจใส่เราในทุก ๆ เรื่อง เมื่อเราโตขึ้นหน้าที่ของลูกทุกคนก็คือ กตัญญูกตเวที คอยดูแลเลี้ยงดูท่านเมื่อยามแก่เฒ่า ทำให้ท่านมีความสุขเพราะ "พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก" พระพุทธศาสนาสอนให้เราเป็นคนกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา แล้วชีวิตก็จะมีแต่เรื่องดี ๆ จึงขอนำเรื่องราวสาระธรรมดี ๆ ที่ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม ได้เขียนไว้สอนใจ ฝากถึงลูก ๆ ทุกคน กับ 10 วิธีใช้หนี้พ่อแม่ มีดังนี้

1. จงสร้างความดีให้กับตัวเอง และนี่ก็เป็นการใช้หนี้ตัวเอง ตัวเราพ่อให้หัวใจ แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่ในตัวแล้ว จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน จะไปแสวงหาแม่ที่ไหน บางคนรังเกียจแม่ ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม พอตัวเองแก่ก็เลยถูกลูกหลานรังเกียจ จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อกันต่อไปอีก ฯ

2. ใครที่คุณแม่ล่วงลับไปแล้ว ก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน และถ้าจะทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐาน แล้วอุทิศส่วนกุศลไป การทำเช่นนี้ถือว่าได้บุญมากที่สุด ทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับ ฯ

3. ผู้ใดก็ตามที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้กลับไปหาแม่ ไปกราบเท้าขอพรจากท่าน จะได้มั่งมีศรีสุข ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่าน ก็นำเทียนแพไปกราบขออโหสิกรรม ล้างเท้าให้ท่านด้วย เป็นการขอขมาลาโทษ ฯ

4. ขอฝากท่านไว้ไปสอนลูกหลาน อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก แค่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี จะทำมาหากินไม่ขึ้น เจ๊ง ท่านต้องแก้ปัญหาก่อนคือ ถอนคำพูด ไปขอขมาลาโทษเสีย แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่ ฯ

5. บางคนลืมพ่อลืมแม่ อย่าลืมนะการเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดี ขอบิณฑบาต สอนลูกหลานอย่าเถียงพ่อเถียงแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ ไม่อย่างนั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร ก้าวถอยหลังดำน้ำไม่โผล่ ฯ

6. คนที่มีบุญวาสนา จะกตัญญูกับพ่อแม่ คนเถียงพ่อเถียงแม่เอาดีไม่ได้..คนไม่พูดกับพ่อแม่ นั่งกรรมฐานร้อยปี ก็ไม่ได้อะไร? ถ้าไม่ขออโหสิกรรม ฯขออโหสิกรรม ที่คิดไม่ดีกับพ่อแม่ คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์ คิดไม่ดีกับพี่ๆ น้องๆ จะไม่เอาอีกแล้ว เอาน้ำไปขันหนึ่ง เอาดอกมะลิโรย กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โยโทโส อันว่าโทษทัณฑ์ใด ความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไป ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอให้คุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย คุณพี่คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย แล้วเอาน้ำรดมือรดเท้า ฯ
นี่แหละท่านทั้งหลายเอ๋ย เป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่มากมาย ยังจะไปทวงนาทวงไร่ ทวงตึก มาเป็นของเราอีกหรือ ตัวเองก็พึ่งตัวเองไม่ได้ สอนตัวเองไม่ได้ เป็นคนอัปรีย์จัญไรในโลกมนุษย์ไปทวงหนี้พ่อแม่ พ่อแม่ให้แล้ว (ให้ชีวิต ให้…ให้… ให้….ฯลฯ) เรียนสำเร็จแล้ว ยังช่วยตัวเองไม่ได้ มีหนี้ติดค้าง รับรองทำมาหากินไม่ขึ้น ฯ
หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่ เหลือจะนับประมาณ
นั่นคือหนี้บุญคุณของบิดามารดา
ตัวอย่าง “หนามแหลมใครเสี้ยม มะนาวกลมเกลี้ยงใครไปกลึง” เด็กประถม ๔ พ่อเมาเหล้า เมากัญชาเล่นการพนัน แม่เล่นหวย ปัจจุบันเป็นดอกเตอร์อยู่อเมริกา หลวงพ่อสอนครั้งเดียวจำได้ บอกวันเกิด หนูซื้อขนม ๒ ห่อ เรียกพ่อแม่มานั่งคู่กัน แล้วกราบนะลูกนะ แล้วก็บอกพ่อแม่ว่า ความผิดอันใดที่ลูกพลั้งเผลอ ด้วยกาย วาจา ใจ ที่คิดไม่ดีต่อคุณพ่อคุณแม่ ขอให้คุณพ่อคุณแม่อโหสิกรรมให้ แล้วล้างเท้าให้พ่อแม่ ลูกไม่มีสตางค์ ลูกซื้อขนมมา ๒ ห่อ ให้แม่ก่อน ๑ ห่อ เพราะอุ้มท้องมา แล้วจึงให้พ่ออีก ๑ ห่อ ลูกขอปฏิญาณตนว่า ลูกขอเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ แล้วจะเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ ลูกจะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง...พ่อฟังแล้วน้ำตาร่วงสร่างเมา ส่วนแม่ก็ร้องไห้เลย พ่อแม่ก็ให้สัญญากับลูกเลิกอบายมุขทั้งหมด

7. ลูกหลานโปรดจำไว้ เมื่อแยกครอบครัวไปมีสามีภรรยาแล้ว อย่าลืมไปหาพ่อแม่ ถึงวันว่างเมื่อไรต้องไปหาพ่อแม่ ถึงวันเกิดของลูกหลาน อย่าลืมเอาของไปให้พ่อแม่รับประทาน อย่ากินเหล้า เข้าโฮเต็ล ฯ

8. ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้เป็นมงคลนาม ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะชื่อเป็นเพียงนามสมมุติแทนตัวเรา อย่างหลวงพ่อชื่อจรัญ ปู่ตั้งให้ หมอดูบอกเป็นกาลกิณี แต่ทำไมเจริญรุ่งเรือง ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าทำดีได้ดี ฯ

9. ของดี ของ ปู่ ย่า ตา ยาย อย่าไปทำลายเลย ของพ่อแม่อย่าไปทำลายนะ หนีได้แน่นอน โยมมีกรรมฐาน มีทรัพย์ มีชื่อเสียง ความรัก บูชาทรัพย์ บูชาชื่อเสียง ความรักของพ่อแม่ได้ เงินจะไหลนองทองจะไหลมา..พ่อแม่ให้อะไรเอาไว้ก่อน อย่าไปทำลายเสีย ถึงจะเป็นถ้วยพ่อแม่ให้มา ก็ไว้เป็นที่ระลึกก็ยังดีอย่าเอาไปทิ้งขว้าง ฯ

10. ถ้าต้องการเจริญก้าวหน้าขอฝากไว้ด้วย คนเรามี ๒ ก้าว จะก้าวขึ้นหรือก้าวลงดำน้ำไม่โผล่ ก้าวลงมันง่ายดี ก้าวขึ้นมันต้องยาก ของชั่วมันง่าย หลั่งไหลไปตามที่ต่ำ นี่บอกสอนลูกหลาน ต้องการจะบรรจุงานไม่ต้องไปวิ่งเต้น ดูลูกเสียก่อน กุศลเพียงพอหรือเปล่า ต้องเพิ่มกุศล ตัวอย่างเรียนจบครู สวดมนตร์เข้าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นครู ทำงานธนาคารก็ได้ บริษัทก็ได้เดี๋ยวมีคนรับ บางรายทั้งสอบทั้งสมัครหลายแห่งไม่เคยเรียกเลย อาตมาให้นั่งกรรมฐาน พอ ๗ วันผ่านไปพวกมาตามให้เข้าไปทำงานแล้ว ฯ
อานิสงส์ผลบุญนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง จิตจะเป็นสมาธิได้เร็ว

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม (ฉบับหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน)
#ธรรมะ #อมตะธรรม #ธรรมะสอนใจ







#กายหลับ_จิตตื่น

"...สังเกตดูเวลาเรานั่งสมาธิ ทีแรกเรานั่งสมาธิ
กำหนดจิตรู้อารมณ์ รู้ไปๆๆๆ สายสัมพันธ์แห่งความ
ตั้งใจมันยังไม่ขาด พอไปแล้วมันวูบลงไป มันตัด
สายสัมพันธ์จากปกติธรรมดาไปสู่สภาวะหนึ่ง คือ
ความหลับ พอมันวูบลงไป จิตหยุดวูบ นั่นคือการหลับ
ถ้ามันหลับไม่ตื่น ก็หลับมืดไปอย่างธรรมดา ทีนี้ถ้า
มันหลับ ตื่นอีก สติมันตื่นขึ้นมา มันก็รู้อยู่เฉพาะในจิต
นั่นจิตเข้าสมาธิ

นักภาวนา เมื่อนอนแล้วก็ต้องกำหนดจิตรู้อารมณ์
คิดไป รู้ไป คิดไป รู้ไปๆๆ เคลิ้มไปๆๆ หลับปุ๊บลงไป
ถ้ามันหลับอย่างธรรมดา มันก็มืดมิดไปธรรมดา แต่ถ้า
หลับแล้วจิตเป็นสมาธิ มันตื่นอีกภาวะหนึ่ง มันก็รู้อยู่
เฉพาะในจิต ถ้าบางทีมันส่งกระแสออกไปนอก มันก็
เกิดฝันขึ้นมา

เวลาเรานั่งสมาธิก็เหมือนกัน เมื่อจิตมันหลับปุ๊บลงไป
มันตื่นอีกทีหนึ่ง ถ้ามันนิ่งอยู่เฉยๆ มันก็รู้สว่างอยู่ ถ้า
เวลามันส่งกระแสออกนอก มันจะเกิดมโนภาพขึ้นมา
กลายเป็นนิมิต นิมิตกับฝันมันก็เหมือนกัน อันเดียวกัน..."

#ที่มา หนังสือฐานิยปูชา ๒๕๕๓ หน้า ๕๘
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)







"... เรียนไปทำไม เรียนไม่สังเกตุ เรียน​ ไม่พิจารณา
... เรียนไม่ปฏิบัติภาวนา เรียนไม่นำมา​ เป็น
คติ
... เครื่องพร่ำสอนตน มัวแต่แย่ง​สะสมลาภ
สักการะ
... แล้วมันจะเกิดประโยชน์อะไร ..."

หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO