นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 15 พ.ค. 2024 11:25 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เตือนตน
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 03 มิ.ย. 2022 10:12 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4559
นักบวชที่แท้จริง พระที่แท้จริง คือ พระอริยเจ้า พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์

การเป็นนักบวช บวชที่ศีล ไม่ได้บวชที่ผ้าเหลือง ผ้าเหลืองมันจะมาทำให้เป็นศีลเป็นพระขึ้นมาได้อย่างไร ถ้าเป็นศีลได้ คนขายผ้าเหลืองก็มีศีลเยอะแยะเลย ไม่ต้องมาขอศีลจากพระให้เสียเวลา ไปขอศีลที่ร้านขายผ้าเหลืองก็ได้

การห่มผ้าเหลืองนี้เป็นแค่เครื่องแบบของนักบวช ของผู้ที่ถือศีลเท่านั้นเอง ศีลนั้นอยู่ที่ใจ ใจที่ไม่กระทำอะไรผ่านทางกาย ทางวาจา เรียกว่าศีล สงบกาย สงบวาจา เพราะใจสงบ

การเป็นนักบวช บวชที่ ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่ได้บวชที่ผ้าเหลือง ดูอย่างคุณแม่ชีแก้ว และ ท่าน ก เขาสวนหลวง ทำไมจึงบรรลุธรรมได้ เขาไม่ได้บวชเป็นภิกษุณี เขาก็ถือศีล๑๐ ศีล๘ โกนศรีษะ นุ่งขาวห่มขาว ท่าน ก เขาสวนหลวง ไม่ได้บวชชีด้วยซ้ำ เป็นแค่อุบาสิกา เป็นแค่เครื่องแบบเท่านั้นเอง

ตัวบวชนี้ บวชที่ใจ บวชด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา ใครมี ศีล สมาธิ ปัญญา ทางจิตใจ ก็สามารถบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้ ไม่ได้อยู่ที่ใครโกนศรีษะแล้วห่มเหลืองถึงจะเป็นพระอรหันได้ ถ้าห่มเหลืองแล้วเป็นพระอรหันต์ได้ ป่าวนี้เมืองไทยคงมีพระอรหันต์เป็นแสนเป็นล้านแล้ว เพราะมีนักบวชห่มเหลืองเยอะแยะเต็มไปหมด

การเป็นนักบวช อยู่ที่ ศีล สมาธิ ปัญญา ว่ามีเต็มร้อยหรือเปล่า?

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ธรรมะบนเขา ณ จุลศาลา เขตปฏิบัติธรรมเขาชีโอน
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชลบุรี
วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๐






"ร่างกายเขาให้โอกาสเราแล้ว แขนขายังดี จะรออะไรอีกล่ะ รอให้มันใช้ไม่ได้ก่อนเหรอถึงจะคิดทำ เอาให้มันเต็มที่ เดินจงกรมนั่งภาวนาให้มันเต็มที่ อย่างอื่นไม่เป็นสาระแก่นสารอะไรกับชีวิต ตายแล้วทิ้งคืนเขาหมด จะงมงายอะไรกับมันนักหนา ไปบำเพ็ญภาวนา มันจะได้สมบัติติดตัวเราไปด้วย เป็นสมบัติของเรา จะไปรอแก่ รอเจ็บ แค่แบกร่างกายแต่ละวันยังยาก จะให้มาเดินจงกรมภาวนา อย่าไปคิดเลยโยม เอามันตอนนี้เดี๋ยวนี้นี่ล่ะ"
.
โอวาทตอนหนึ่งของหลวงพ่อสมบูรณ์
.







#สิ่งใดที่มันล่วงมาแล้ว_เลยมาแล้วเราไม่สามารถไปตัดไปปลงมันได้อีกแล้ว

"... สิ่งที่เราทำไปนั้น ถ้ามันดี มันก็ดีไปแล้ว ผ่านไปแล้ว
พ้นไปแล้ว ถ้ามันชั่ว มันก็ชั่วไปแล้ว ผ่านไปแล้วเช่นกัน

... อนาคตยังมาไม่ถึง สิ่งที่ยังไม่มาถึงเราก็ยังไม่รู้เห็น
ว่ามันจะเป็นอย่างไร อย่างมากก็เป็นแต่เพียงการคาดคะเน
เอาเองว่าควรเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งมันอาจจะเป็น
หรือไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดคะเนก็ได้

... ปัจจุบันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เราได้เห็นจริง ได้สัมผัสจริง
เพราะฉะนั้นความดีต้องทำในปัจจุบัน ทานก็ดี ศีลก็ดี
ภาวนาก็ดี ต้องทำเสียในปัจจุบันที่เรายังมีชีวิตอยู่ ... "
#เราต้องการความดีก็ต้องทำให้เป็นความดีในปัจจุบันนี้
#ต้องการความสุขต้องการความเจริญก็ต้องทำให้เป็นไปในปัจจุบันนี้”

#หลวงปู่แหวน_สุจิณโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง_จังหวัดเชียงใหม่






…ถ้ามีสติ
ใจกับกายต้องไปคู่กัน

.เป็นเหมือนคู่รัก สามีภรรยา
กายอยู่ที่ไหน..ใจก็อยู่ที่นั่น
“ อย่างนี้ถึงจะมีสติ “

.พอมีสติแล้วจะบอกให้
ใจอยู่กับพุทโธ ก็จะอยู่กับพุทโธ
อยู่กับลมหายใจ ก็จะอยู่กับลมหายใจ
“ ใจก็จะเข้าสู่ความสงบได้ “

.จะพบกับความสุข
จะไม่หิวกับรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ
ไม่อยากออกไปหา
รูป เสียง กลิ่น รสโ ผฏฐัพพะ
จะชอบอยู่บ้าน หรืออยู่วัด
อยู่ที่มีความสงบ
“ หาความสุขทางใจทางธรรมะดีกว่า “.
……………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

กำลังใจ ๔๘ กัณฑ์ที่ ๔๐๗
๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๒







#สมาธิของหลวงพ่อชา

บ่อยครั้งที่ญาติโยมมากราบหลวงพ่อชา สุภทฺโท เพียงเพราะอยากได้ "ของดี" เช่น วัตถุมงคล หรือไม่ก็อยากฟังเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ ชาตินี้ชาติหน้า ฯลฯ บางคนก็หวังเพียงแค่อยากได้ "บุญ" ที่มากราบท่าน

แต่หลวงพ่อมักให้ธรรมแก่เขาไปรวมทั้งชวนเขาทำสมาธิภาวนาด้วย แต่หลายคนก็ไม่สนใจ เหตุผลหนึ่งที่คนมักอ้างกันก็คือ "ไม่มีเวลา"

"แล้วมีเวลาหายใจหรือเปล่าล่ะ"

ท่านถามเขากลับไป

ถ้ามีเวลาหายใจ
ก็ย่อมต้องมีเวลาทำสมาธิภาวนา
เพราะเป็นเรื่องเดียวกัน
อันที่จริงการหายใจนั้น
ไม่ใช่เรื่องเสียเวลาเลย
เพราะเราทำตลอดเวลา
ที่ทำงานอื่นอยู่แล้ว
ฉันใดก็ฉันนั้นสมาธิภาวนา

โดยเฉพาะการเจริญสติ
ก็เป็นสิ่งที่เราสามารถ
ทำพร้อมไปกับงานอื่นได้
ไม่จำเป็นต้องหาเวลา
เฉพาะสำหรับกิจด้านนี้

นั่นเป็นเหตุผลข้อหนึ่งว่า แม้หลวงพ่อจะให้ความสำคัญกับสมาธิภาวนา แต่กิจวัตรอย่างหนึ่งของวัดหนองป่าพง ก็คือการทำร่วมกัน ไม่เว้นแม้แต่การใช้แรงงาน

คราวหนึ่งขณะที่พระเณรทั้งวัดกำลังขนดินขึ้นไปใส่สนามหญ้ารอบโบสถ์ โดยมีหลวงพ่อยืนสั่งงานอยู่ มีหนุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งเดินมาเห็นเข้าจึงมายืนดูอยู่ใกล้ๆแต่กิริยาท่าทางไม่ค่อยสุภาพอ่อนน้อมเท่าไรนัก

มีคนหนึ่งถามท่านห้วนๆ ว่า

"ทำไมท่านไม่พาพระเณรนั่งสมาธิ
ชอบพาทำงานอยู่เรื่อย"

"นั่งมากมันขี้ไม่ออกว่ะ"

คือคำตอบของหลวงพ่อ

วัยรุ่นกลุ่มนั้นรู้สึกงุนงงต่อคำตอบของท่าน แล้วท่านก็ยกไม้เท้าชี้ไปยังชายหนุ่มผู้นั้นก่อนที่จะพูดต่อว่า

"ที่ถูกนั้น นั่งอย่างเดียวก็ไม่ใช่
เดินอย่างเดียวก็ไม่ใช่
ต้องนั่งบ้าง ทำประโยชน์บ้าง
และทำความรู้ความเห็น
ให้ถูกต้องไปทุกเวลานาที
อย่างนี้จึงจะถูก

กลับไปเรียนมาใหม่
นี้ยังอ่อนอยู่มาก

เรื่องการปฏิบัตินี้ถ้าไม่รู้จริง อย่าพูด มันจะขายขี้หน้าตัวเอง"

สมาธิภาวนาไม่ได้หมายถึง
การนั่งหลับตาอยู่คนเดียว
แต่หมายถึงการฝึกอบรมจิต
ให้งอกงาม มีสติ สมาธิ
เมตตา และปัญญา เป็นต้น

ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไร
ก็ล้วนเป็นโอกาสสำหรับ
การฝึกอบรมจิตทั้งสิ้น
หากไม่เข้าใจแก่นแท้
ของสมาธิภาวนา
ก็ย่อมคิดไม่ต่างจากวัยรุ่นกลุ่มนี้

“ลำธารริมลานธรรม”
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล





#หลวงพ่อสุดใจ #ทันตมโน
#ให้ระลึกถึงความตายอย่าประมาท

ความตายจะเข้ามาวันไหน
ก็ไม่มีใครคาดได้
เพื่อความไม่ประมาท
เราก็ต้องภาวนาไปเรื่อยๆ

หลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน






#พระอาจารย์สุธรรม #สุธัมโม
#ให้ตัดความอาลัยผูกพัน

เมื่อเราเป็นผู้ปรารถนาธรรม เราจะมาห่วงหาอาลัยอาวรณ์กับอะไร ไม่ว่าจะผู้คน ไม่ว่าจะทรัพย์สิน อะไรต่ออะไรทุกสิ่งทุกอย่าง ปล่อยมันไว้ข้างหลังให้หมด เหลือแต่เดินหน้าอย่างเดียว อย่าหันหลัง เรื่องหลังเป็นเรื่องอดีตแล้ว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สมบัติ ไม่ว่าอะไรทั้งนั้นให้หันหลังให้

ถ้าหากเราหันกลับไป จะมีความอาลัยอาวรณ์ ความผูกพัน ความอาลัยอาวรณ์นี้จะทำให้เราอ้อยอิ่ง มีอุปทานความยึดมั่นถือมั่น

ก็แม้แต่อัตตาตัวเรา เรายังต้องวาง แล้วเราจะไม่วางคำว่า “ของเรา” หรือ

ถ้าเราวาง “ของเรา” ไม่ได้ แล้วเราจะวาง “ตัวเรา” ได้อย่างไร

จะวาง “ของเรา” ได้ ก็ต้องวาง “ตัวเรา” ได้

เพราะฉะนั้น คำว่า “ของเรา” นี่เราต้องวาง

ถ้าวางมันไม่ได้แล้วเราจะวาง “ตัวเรา” ได้อย่างไร

พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม








#หลวงพ่อฤาษี #วัดท่าซุง
#ผู้ค้านคำสอนพระพุทธเจ้ามรรคผลไม่เกิด

ต้องทำใจของเราให้หยุดอยู่ในจุดสงบ หมายความว่าเราเพ่งเล็งจิตของเราแต่ผู้เดียว ตามพระบาลีว่า "อัตตนา โจทยัตตานัง"

จงเตือนตนด้วยตนเองไว้เสมอว่า คำสอนของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนไว้ว่าอย่างไรให้เราปฏิบัติ ห้ามไว้แบบไหนไม่ให้เราทำ อันนี้ต้องปฏิบัติให้เคร่งครัด

ไม่ใช่จะไปนึกเอาตามอารมณ์ที่ชาวบ้านเขาทำกัน ชาวบ้านไม่ใช่พระพุทธเจ้า ถ้าคนนั้นเขาดีจริงเขาต้องเป็นพระพุทธเจ้า ที่เขาสร้างแบบแผนขึ้นมาหักล้างคำสอนของพระพุทธเจ้านี่ เราเป็นพุทธสาวกปฏิบัติตามไม่ได้

จิตถ้าขืนปฏิบัติตาม เราก็ไม่มีมรรคผลใดๆ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอน เพราะคัดค้านคำสอนของพระพุทธเจ้าเสียแล้ว

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO