นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 15 พ.ค. 2024 9:29 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: บุญวาสนา
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 02 มิ.ย. 2022 7:57 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4559
โทรทัศน์ วีซีดี

เป็นอันตรายอยู่มากอย่างนักหนา
แต่ไม่เป็นไร เป็นโยมอยู่ ต่อไปไม่ดูก็ได้
“เอาพุทโธดีกว่า”

หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต
วัดป่าบ้านตาด





#เห็นใจตัวเองบ้าง​

"... เราอยากให้คนอื่นเห็นใจเรา แต่เรา ไม่เห็นใจตัวเอง
... เราทำร้ายตัวเองบ่อยๆ วันละหลายๆ ครั้ง
ด้วยการเอา
... ความเกลียดความโศก​ ความเศร้า มารยา มาทิ่มแทง
... บางทีเอาความน้อยเนื้อต่ำใจ​ มาเผามาทิ่มแทง มากรีดใจตัวเรา
... อย่างนี้ เรียกว่าเห็นใจตัวเอง​หรือเปล่า​ ..."

#พระอาจารย์ไพศาล_วิสาโล







"... ขอให้พากันบำเพ็ญตามกำลัง ชีวิต
ของเรา
... ทุกๆ คนในโลกจะอยู่ก็ไม่กี่วัน​ เที่ยงแท้
จะแตกดับอยู่แล้ว
... รีบขวนขวาย​ หาคุณงามความดีในเมื่อมีชีวิตอยู่
... หาได้มากน้อยเป็นของเรา​ ​..."

#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน







#ถ้าเราไม่มีเวลาไปทำบุญที่วัด ไม่เคยใส่บาตรพระสงฆ์ แต่เคยให้ทานบ้าง ทำบุญใส่ซองด้วยปัจจัยบ้าง พูดได้ว่า ไม่มีเวลาไปวัดจริงๆ นี่ไม่เป็นไร แต่ก็อยากได้บุญก็อนุโมทนา รอญาติมิตร รอเพื่อนที่ไปทำบุญกลับมา...ก็รออนุโมทนา เอาบุญมาฝาก เชื่อว่า บุญนี่ฝากกันได้ นี่เชื่ออย่างนี้ ก็ต้องเตือนไว้ว่า เพียงแค่

อนุโมทนานี่คือยินดี แต่ได้บุญน้อยมาก #บุญต้องทำด้วยตนเอง ถ้าไม่มีเวลาไปวัดก็ต้อง..."เป็นคนดี มีศีล ๕ สร้างแต่กรรมดี ใจบุญสุนทาน มีเมตตา กรุณา คิดแต่ความดี สร้างแต่ความดี" นี่อย่างนี้เรียกว่า #ทำบุญให้ตนไปในตัว ไม่ต้องไปวัดก็ได้ แต่ต้องปฏิบัติตนให้ดี มีศีลธรรม นี่ก็ไม่ต้องไปวัด... คือ #อยู่ไหนก็ทำบุญได้ อย่างนี้เป็นต้น

ธรรมะคำสอน
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร






"ความดี ทำเสียวันนี้ให้พอ อย่ารอวันหน้า
เพราะความตายไม่ได้ทักเราว่า วันนี้จะมา
วันหน้าจะตาย"

หลวงปู่หา สุภโร






"วันหนึ่งๆ ควรจะระลึกถึงความตายในตัวบ้าง
อย่างน้อย ๕ หนก็ยังดี จิตใจของเราจะได้มีการยับยั้ง
จากความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ความโลภ ก็จะไม่มากนัก
ความโกรธ ก็จะไม่มากนัก ความหลง ก็จะไม่มากนัก
เพราะมองเห็นป่าช้า"

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน






"คนสมัยนี้ เขาเป็นทุกข์เพราะความคิด."

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล





#หลวงปู่เปลี่ยน #ปัญญาปทีโป
#ความต่างของอารมณ์พระโสดาบันกับพระอรหันต์และอภิญญา

พระโสดาบันท่านไม่ได้เป็นพระอรหันต์ พระโสดาบันพอรู้จักสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส ก็เหมือนพวกเรานี้ถ้าได้บรรลุพระโสดาบัน ก็คือรู้ว่าร่างกายนี้ไม่เที่ยง ร่างกายนี้เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จิตใจรู้อย่างนี้มั่นคง

สักกายทิฏฐิ ไม่หลงว่าร่างกายนี้จะหนุ่มอยู่อย่างเดิม แต่จะเฒ่าจะแก่ไปทุกวัน อันนี้เขารู้ดี มันเจ็บมันป่วยรู้ดี แล้วที่สุดมันถึงซึ่งความตาย ก็รู้ดี นี้เป็นพระโสดาบันบุคคล

วิจิกิจฉา ความสงสัย ลังเล ในบุญในบาปไม่มี ทำบาปต้องได้บาปแน่ ทำบุญต้องได้บุญแน่ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เลย มีความเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อวิจิกิจฉาความลังเลสงสัยในบุญในบาปไม่มีแล้ว

สีลัพพต- ปรามาส ฉันมีศีลหรือเปล่า เรื่องนี้ไม่ต้องถาม อันนี้มีแน่นอน พระโสดาบันบุคคลเขามีหิริโอตตัปปะเป็นเครื่องอยู่ของใจ มีแค่นี้แหละที่ได้บรรลุธรรมเบื้องต้น

บัดนี้ อภิญญานั้นมันก็ต่างกันอีกแหละ มีบุญต่างกัน คือมีขั้นสูงต่างกัน

เป็นพระอรหันต์นั่นก็เรียกว่าสุดยอด เป็นผู้พ้นทุกข์แล้ว พ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงไป เป็นผู้บริสุทธิ์ เหนือกว่าพระอนาคามี เหนือกว่าพระสกิทาคามี

อภิญญานั่นเป็น เครื่องประกอบของภิกษุ เหมือนกับเรามีเครื่องมือเช่นไฟฉาย หรืออะไรต่างๆ ซึ่งถ้าองค์ใดมีไฟฉายก็เดินไปในที่มืดๆ ได้ เพราะว่าองค์นั้นมีเงินซื้อไฟฉาย

เหมือนกับเราเป็นเพื่อนกัน คนหนึ่งมีสตางค์ อีกคนหนึ่งไม่มี คนหนึ่งมีรถ อีกคนหนึ่งไม่มี คนที่ไม่มีรถก็ต้องอาศัยคนที่มีรถ แต่ก็เป็นเพื่อนกันนั่นแหละ และก็เรียนอยู่ขั้นเดียวกันด้วย นั่นมันต่างกันอย่างนั้น เหมือน กับเราเป็นเพื่อนกัน ๔ คน คนหนึ่งมีคนหนึ่งไม่มี แต่ก็เป็นเพื่อนกันได้ ไปด้วยกันได้ เพราะเขามีวาสนาต่างกัน มีสมบัติ ต่างกัน

ก็ดูซินักศึกษาที่นั่งอยู่ในที่นี่ อาจจะนั่งรถเบ๊นข์ รถเปอโยต์ หรือรถบีเอ็มฯ ไปมหาวิทยาลัยก็มี แต่อาจารย์ที่สอน อยู่จบด๊อกเตอร์ อาจนั่งรถโตโยต้า รถปิกอัพเก่าๆ หรือนั่งรถ เครื่องมาสอนก็มี ถึงจะเรียนจบสูงแต่ท่านไม่มีทรัพย์สมบัติ ส่วนลูกศิษย์นั่นยังเรียนไม่จบเลยได้นั่งรถเบนซ์ไปมหาวิทยาลัย แล้ว นั่นแหละบารมีมันต่างกันอย่างนี้ อันนั่นเรียกว่าคนมีเครื่องประกอบ มันจึงต่างกัน

บุญวาสนาบารมีนั่นแข่งกันไม่ได้ แข่งได้แต่รถแต่เรือ แข่งได้แต่วิ่งแข่งกัน แข่งบุญวาสนาบารมีกันไม่ได้สักคนหรอก

พระก็เหมือนกัน บางองค์ท่านบวชใหม่ๆ มีคนไปทำบุญเยอะเลย เพราะท่านสร้างบุญแบบนั้นมา บางองค์บวชได้ตั้ง ๔๐ กว่าพรรษา ไม่มีใครเข้าวัดไปหาเลย จีวรก็จะไม่มีนุ่งห่ม ซึ่ง ท่านก็มีคุณธรรมของท่าน แต่ไม่สร้างบารมีไว้อย่างนั้น ท่านสร้างแต่ด้านปัญญา ไม่ได้สร้างบารมีด้านวัตถุ

เหมือนคนเป็นด๊อกเตอรก็สร้างแต่ด้านปัญญา ไม่ทำบุญ ไมให้ใครนั่งรถสักที ไม่บริจาคค่ารถให้ใคร ก็เลยไม่มีรถ อันนั้นแหละมันต่างกัน บุญวาสนาบารมีนี่จะเปรียบเทียบ

เหมือนสมเด็จพระเทพฯ พระราชธิดาในหลวง กับนางสาวไทยเราที่เป็นนางสาวจักรวาล ให้เดินไปตามถนน นางสาวไทยก็จะมีแต่คนถ่ายรูปเท่านั้นแหละ พวงมาลัยกับของนี่ไม่ค่อยได้

ส่วนพระเทพฯ นั้นท่านเสด็จไป ที่ไหน พวงมาลัยจะมีคนถวายจนรับจะไม่ไหว ไม่รู้จะรับของใคร เงินเขาก็ให้มากกว่าพระ คนละ ๑๐ ล้าน ๒๐ ล้านก็มี คนละล้าน คนละแสนก็มี

พระนี้เทศน์จนเหน็ดจนเหนื่อยไม่ได้สักล้านเลย เพราะว่าไม่มีบารมี ไม่มีบุญวาสนาเหมือนอย่างเขา

เขาสร้างบุญมามากจึงไปเกิดในตระกูลสูง ดูอย่างนี้จะเห็นได้ชัดไหม ใส่นาฬิกาก็ใส่โรเล็กซ์แล้วก็ไม่ต้องซื๊ออีกเสียด้วย มีแต่บริษัทเขาจะเอาให้

แว่นตาของในหลวงก็มีแต่คนแย่งกันให้ กล้องถ่ายรูปก็แย่งกันให้ ไม่ต้องไปขอใคร นั่นแหละคนมีบุญ วาสนาบารมี

ส่วนปราสาทนั้นก็ไม่ต้องเลื่อยไม้ไสกบหรือลงมือทำเอง ไม่ต้องไปติดลวดลาย เมื่อทำเสร็จแล้วใส่รองเท้า มันยิบ เดินเข้าไปอยู่พักพาอาศัยได้เลย ส่วนเราหาเงินเกือบตายยังไม่ได้พัก อยู่เฉยๆ แบบนั้นไม่ได้เลย เพราะไม่มีวาสนาบารมี ไม่ได้สร้างเอาไว้ นั่นแหละกรรมมันจึงต่างกันอยู่ในทุกวันนี้

หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป








#หลวงปู่จื่อ #พนฺธมุตโต
#หนีกฏแห่งกรรมบ่ได่เด้อ

ระมัดระวังโตจะของเด้อ กฏแห่งกรรมนี่มันแฮงอิหลีเด้ ไผเฮ็ดอิหยังไว้ สิดีฮืชั่ว กะหนีกฏแห่งกรรมบ่ได่เด้อ ย้อนว่ากฏแห่งกรรมนี่มัน เป็นธรรมมันยุติธรรมกับทุกชีวิต บ่มีไผหลีกเว้นได่ดอก มันคอยเวลามันอยู่ อย่าประมาทเนาะลูกหลานเอ้ย

#แปลความ

ระมัดระวังตัวเองนะ กฏแห่งกรรมนี้มันแรงจริงๆนะ ใครทำอะไรไว้ จะดีหรือชั่ว ก็หนีกฎแห่งกรรมไม่ได้นะ เพราะว่ากฏแห่งกรรมนี้มันยุติธรรมกับทุกชีวิต ไม่มีใครหนีเวรกรรมได้หรอก มันคอยเวลาของมันอยู่ อย่าประมาทกันนะลูกนะเอ้ย

หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต






ความเกิด ความยาวนาน-ความลัดสั้นในวัฏสงสารมาจากความคิดของเรา ธรรมทั้งหมดทั้งหลายที่ท่านสอนไว้ ก็รวมลงที่จิตตัวเดียว ถ้าเราสังเกตจิตได้ ความหยุดในภพชาติก็จะมารวมลงในตัวนี้แหละ

#หลวงพ่อมานพ #พุทธครุโต


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO