นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 16 พ.ค. 2024 3:42 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ภาวนาตั้งจิต
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 20 เม.ย. 2022 5:41 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4559
สิ่งใดช่วยได้ก็ควรช่วย
สิ่งใดบอกได้ก็ควรบอก
สิ่งใดสอนได้ก็ควรที่จะสอน

การทำบุญทำทาน...
อย่าทำเพื่อหวังลาภ
อย่าทำเพื่อหวังยศ
อย่าทำเพื่อหวังคำสรรเสริญ
หรือทำเพื่อหวังความสุข...

"จงทำเพื่อธรรม"

โอวาทธรรม
#พระราชภาวนาวัชราจารย์ (หลวงปู่สุทัศน์ โกสโล)
วัดกระโจมทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี






…ธรรมะ สอนให้รู้จัก
สภาพความเป็นจริงของโลกที่เราอยู่นี้
ว่าเป็นอย่างไร

.โลกที่เราอยู่ทุกวันนี้
ไม่ได้เป็นอย่างนี้ไปตลอด
“เป็นโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ”
มีการหมุนเวียนไป

.สิ่งต่างๆที่เรามีอยู่ในวันนี้
ในวันข้างหน้า..
จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป
ต้องมีการหมดสิ้นไป

.ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดา
ถ้ารู้ล่วงหน้าก่อน..
และได้มีการเตรียมตัวเตรียมใจไว้
เวลาสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมา
“ความทุกข์ก็จะไม่โหมกระหน่ำใส่เรา “.
……………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
กำลังใจ ๖, กัณฑ์ที่ ๑๐๓
วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕







พระพุทธเจ้าสอนเรื่องทรัพย์ว่ามีสองอย่าง โลกียทรัพย์กับอริยทรัพย์
โลกียทรัพย์ หมายถึง ทรัพย์สมบัติเงินทอง
อริยทรัพย์ หมายถึง คุณงามความดีต่างๆ

ผู้ตระหนี่ถี่เหนียวให้ความสำคัญกับโลกียทรัพย์
จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ก็มองว่าเป็นการขาดทุนแต่อย่างเดียว
ไม่ได้โลกียทรัพย์เป็นเครื่องตอบแทนจะทำไปทำไม

แต่โลกียทรัพย์นี้ ใช้ได้เฉพาะในชาติปัจจุบัน
ส่วนอริยทรัพย์ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครแย่งชิงได้ และอยู่กับเราข้ามภพข้ามชาติ

พุทธศาสนาจึงถือว่าผู้มีปัญญาควรให้ความสำคัญกับอริยทรัพย์มากกว่าโลกียทรัพย์
ผู้ตระหนี่ถี่เหนียว ประหยัดเงิน แต่จนบุญ

พระอาจารย์ชยสาโร







#ปัตตานุโมทนามัย

...ดังนั้นสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเราเห็น ไม่ใช่อิจฉา แต่ว่ารีบโมทนาด้วย เป็นบุญกุศลที่ได้ง่ายที่สุด แต่ทำได้ยากที่สุด เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าเราวางกำลังใจยินดีกับความดีของคนอื่นได้ยาก

ส่วนใหญ่ทุกวันนี้ที่ สาธุ กันอยู่ ก็คือ "กูจะเอาบุญของมึง" ซึ่งเป็นการวางกำลังใจที่ผิด แทนที่จะได้สัก ๗๐ เปอร์เซ็นต์ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ของคนทำ ก็กลายเป็นว่าอาจจะเหลือแค่ ๓ เปอร์เซ็นต์ ๕ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

เพราะว่าการวางกำลังใจในปัตตานุโมทนามัยนั้นก็คือ ในขณะที่เราอยากทำสิ่งนั้นเป็นอย่างยิ่งแล้วไม่มีโอกาสได้ทำ แต่มีบุคคลอื่นได้ทำในสิ่งนั้นแทนเรา เราพลอยยินดีในสิ่งที่เขาทำ เหมือนกับเราได้ทำด้วยตนเอง

เพราะฉะนั้น ปัตตานุโมทนามัย จึงเป็นบุญที่ได้ง่ายที่สุด แต่ทำยากที่สุด บุคคลที่จะประกอบไปด้วยปัตตานุโมทนามัย จะต้องทรงพรหมวิหาร ๔ โดยเฉพาะมุทิตาพรหมวิหารเป็นปกติ บุคคลทั้งหลายเหล่านี้อิจฉาใครไม่เป็น

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก)
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕









"เราไม่สามารถทำให้ผู้อื่น
เป็นดั่งใจเราได้

แต่เราสามารถปรับใจของเรา
ให้ยอมรับในตัวตน ที่เขาเป็นได้

อย่าไปติใคร ให้ติที่ตัวเราเอง"

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ






“ความท้อแท้ใจ อะไรพวกนี้นะ
ถ้ามันเกิดขึ้น ก็แค่รู้ทันว่ามันท้อแท้
ไม่ปล่อยให้มันมาครอบงำใจเรานะ

เศร้าโศกร่ำไรรำพัน อะไรอย่างนี้
ท้อแท้โอดครวญ อะไรอย่างนี้
ไม่เอา ไม่ปล่อยให้มันครอบงำใจเรา

มันเกิดขึ้นก็แค่รู้ทัน มันก็ดับไป
เช่นเดียวกับอารมณ์อย่างอื่นนั่นแหละ”

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช








#สมาธิที่แท้

ไม่มีการออก-การเข้า เดินไปเดินมาก็สมาธิ นิวรณ์ไม่เข้ามา ไม่หลงไม่ลืม สังโยชน์ไม่มี อนุสัยไม่มี มันจึงเรียกว่า เดินไปเป็นสมาธิ นั่งอยู่เป็นสมาธิ นอนอยู่ห่มผ้า อาบน้ำ กินอาหาร ถ่ายมูตรถ่ายคูติ มีแต่สมาธิ มีแต่ศีล มีแต่ปัญญา นั่นแหละ มันไม่มีอาสวะมาปะปน สัมมาทิฏฐินี่แหละ

#หลวงปู่บุดดา #ถาวโร






#ถ้าไม่ต้องการเกิดอีก

มีสติระวังรักษาศีลตลอดชีวิต
มีสติระวังไม่ทำชั่วทางกายใจ

มีสติระวังถอนความยินดี
และความไม่ยินดี
ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

เมื่อปฏิบัติเช่นนี้
อวิชชาโมหะ เป็นอันถูกละ
จิตหยุดปรุงแต่ง
ภพชาติจึงดับไป

#หลวงปู่มั่น #ภูริทตฺโต






หยุดคิดดีกว่า เราจะได้มีกำลังทำสมาธิง่าย ถ้าเราฟุ้งซ่าน สมาธิไม่เกิด

หลวงพ่อจิตโต บ้านสบายใจ







#ดวงจิตผู้รู้นี้ #เป็นของเราเอง

เกิดตายๆ มาในโลกนี้นับไม่ถ้วน ก็จิตผู้รู้ดวงนี้แหละ ยังลุ่มหลงอยู่ในรูปรสกลิ่นเสียง


เวลาภาวนาตั้งจิต ท่านจึงให้ตั้งลงไป ณ ที่นี้ จะบริกรรมอุบายใดก็ตาม กำหนดตรวจกายก็ตาม คือเอาจิตดวงนี้กำหนดพิจารณาตรวจไปตามร่างกาย มี ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น

เมื่อกำหนดพิจารณาร่างกายทุกอย่าง หรืออย่างใดอย่างหนึ่งแล้วก็ให้มารวมจิตใจเข้าไปที่ดวงจิตผู้รู้ที่ว่านี้

ดวงจิตผู้รู้อันนี้ มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ได้มีอยู่ในอดีต มิได้มีอยู่ในอนาคต สิ่งใดที่เป็นอดีตล่วงมาแล้ว สิ่งนั้นมันก็หมดไปแล้ว สิ่งที่ยังมาไม่ถึง คือข้างหน้าอนาคตกาล สิ่งนั้นก็ยังเป็นเรื่องข้างหน้า

จิตใจมิได้อยู่ข้างหน้า เป็นแค่อารมณ์ส่ายไปในเรื่องอดีต ส่ายไปในเรื่องอนาคต แล้วก็มาเป็นอารมณ์สับสนอยู่ภายในจิต ถ้าไม่ชำระแก้ไขในเวลาปัจจุบัน คนเราก็จะหาเวลาทำสมาธิรวมจิตรวมใจให้สงบไม่ได้

เพราะอารมณ์เรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาทั้งดีทั้งชั่ว ทั้งบาปทั้งบุญมารวมอยู่ในปัจจุบัน

หลวงปู่สิม #พุทธาจาโร








“ ขอให้เจริญทางใจ
กันให้มากๆ ดูกายกับ
ใจให้มาก แล้วจะรู้
ความเป็นจริงว่า
ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่
บุคคลเราเขาจริงๆ "

“ เรื่องสมาธิจิต
เกิดขึ้นแล้ว จิตจะ
ฉลาดได้ จะรู้ได้
จะเห็นได้ “ จิตก็
จะต้องละวางสิ่ง
ไม่เป็นประโยชน์
จิตก็ละวางเสียได้ "

“ จิตที่เป็นประโยชน์
จิตนี้ก็เจริญตนเอง
ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป จิตนี้
ก็จะเป็นสัมมาทิฏฐิ
ความเห็นชอบ รู้ความ
เป็นจริงได้โดย
ไม่ต้องใคร บอก
โดยไม่ต้องใครแนะนำ
พระธรรมคำสั่งสอน
นั่นแหละ เป็นผู้แนะนำ "

หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO