นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 25 เม.ย. 2024 3:08 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ศีลนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 26 ก.ย. 2021 6:38 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4539
“ให้มอง กาย วาจา ใจปฏิบัติธรรมอยู่ที่ตัว นะโม แรกคือพ่อแม่ ให้เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ระลึกถึงพระรัตนตรัยด้วย จุดสำคัญ ต้องทำกรรมฐานจนเห็นไตรลักษณ์ ปัญญาเกิดรู้ได้ด้วยตน”

ธรรมะคำสอน
หลวงปู่สวาท ปญฺญาธโร
วัดโป่งจันทร์ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี






การเป็นอยู่ของพระที่วัดป่าบ้านตาดในสมัยนั้น ทั้งพระฝรั่งทั้งพระไทยอยู่ด้วยกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข หลวงพ่อสังเกตดูว่าพระฝรั่งนี่ใจร้อนนะ เพราะพื้นเพท่านเป็นอย่างนั้น แต่หลวงตาบอกว่าพระไทยถ้าไปทะเลาะกับพระฝรั่ง เราจะไล่พระไทยออกนะ พระฝรั่งข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อการศึกษา พวกเราเป็นพระไทยต้องหยวน เพราะพระฝรั่งไม่รู้จักขนบธรรมเนียมประเพณี เขามาศึกษาอยู่ เราจะไปใช้อารมณ์โมโหไม่ได้ พระไทยต้องมีความอดทน เราเป็นเจ้าของบ้านเจ้าของถิ่น อย่าไปทะเลาะกับพระฝรั่งนะ ถ้าองค์ไหนทำเราไล่ไม่ให้อยู่นะ

นี่คือหลวงตาท่านกำราบพระไทยไว้ เพราะฉะนั้น ถึงจะมีอะไรเกิดขึ้นพระไทยต้องอดทน เพราะถือว่าท่านเป็นพระต่างชาติยังไม่รู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของครูบาอาจารย์ แต่ท่านมีความเคารพนับถือเลื่อมใสในธรรมะ เราเป็นเจ้าของบ้านจิตใจต้องเย็น ต้องหยวน เราอยู่ด้วยกันถ้าเขาทำอะไรไม่เป็นเราก็ช่วยเขา หลวงพ่อถ้าจะว่าไปก็เป็นพระพี่เลี้ยงพระฝรั่งเกือบทุกองค์ องค์ไหนไม่มีผ้า ถลกบาตร สายบาตร จีวรขาด หลวงพ่อนี่ทำได้ทุกอย่างนะอัฐบริขาร เพียงแต่ตีบาตรตีเข็มไม่เป็นเท่านั้นล่ะ แต่ถลกบาตรตีนบาตรทำได้ทั้งหมด อัฐบริขารองค์ไหนไม่ต้องบอก ดู ๆ แล้วจัดการให้เลย ถือว่าเป็นพี่ ๆ น้อง ๆ อยู่ด้วยกันไม่กี่องค์ถ้อยทีถ้อยอาศัย รักกันพี่ ๆ น้อง ๆ

ผู้ใหญ่ก็มีหลวงปู่บุญมี หลวงปู่ลี เป็นพี่ชาย มีท่านยูร ท่านจ้อน รองลงมา หลวงพ่อก็เป็นองค์ที่ ๕ ที่ ๖ แต่หลวงพ่อบวชก่อนท่านปัญญา ท่านเชอรี่ ท่านเชอรี่กับท่านปัญญาท่านบวชปีเดียวกันที่วัดบวร ปี ๐๘ ท่านบวชเดือนหก แต่หลวงพ่อบวชเดือนสาม แก่กว่าท่านสามเดือน เพราะฉะนั้นบางคนเห็นท่านปัญญาท่านเชอรี่กราบหลวงพ่อ หลวงพ่อนี่หน้าจ๋อยหรอย แต่ท่านเหล่านั้นพระเป็นผู้เฒ่า ท่านกราบ คือกราบตามประเพณีอายุพรรษา บางคนเห็นก็ว่า ทำไมพระผู้เฒ่ามากราบครูบาหนุ่ม ๆ เพราะหลวงพ่อบวชก่อนท่าน ท่านถือตามอายุพรรษา พระกรรมฐานเคารพในอาวุโสภันเต ท่านปัญญา ท่านเชอรี่บวชที่วัดบวรฯ บวชกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช ญาณสังวร หลวงพ่อบวชเดือนสาม แต่ปี ๐๘ เหมือนกัน เวลานั่งหลวงพ่อก็ต้องนั่งก่อนเดินก่อน เพราะเป็นอาวุโส

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก
๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘








พระฝรั่งกับเรื่องที่ยังจําฝังใจ “#สุเมโธยอมแล้วบ่...”

พระฝรั่งรูปแรกของวัดหนองป่าพง เป็นอดีตนายทหารหน่วยเสนารักษ์แห่งกองเรือสหรัฐอเมริกาในสงครามเกาหลี

หลังจากที่นายทหารผู้นี้ได้ฟังกิตติศัพท์เกี่ยวกับวัตรปฏิบัติอันเคร่งครัดของหลวงพ่อชาแล้วก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมากจึงเดินทางมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ซึ่งหลวงพ่อก็เมตตารับไว้โดยมีเงื่อนไขว่า จะไม่หาอะไรมาบํารุงท่านให้ได้ตามอยาก และท่านจะต้องทําตามระเบียบข้อวัตรเหมือนที่พระเณรไทยเขาทํากัน อุบายในการสอนและการทดสอบพระฝรั่งรูปนี้มีหลายประการ

ท่านสุเมโธเล่าว่า...

“...บางครั้งหลวงพ่อก็เล่าให้โยมทั้งศาลาฟังถึงเรื่องที่ผมทําไม่สวยไม่งาม เช่น การฉันข้าวด้วยมือแต่เปิบไม่เป็น ขยุ้มอาหารขึ้นมาเต็มกํามือแล้วโปะใส่ปากใส่จมูก เลอะเทอะไปทั้งหน้า ทั้งพระทั้งโยมหัวเราะกันลั่นศาลา ผมนั้นทั้งโกรธทั้งอาย"

“...ทุกเช้าเวลาหลวงพ่อกลับจากบิณฑบาตจะมีพระเณรหลายรูปไปรอที่หน้าศาลาเพื่อคอยล้างเท้าท่าน ระยะแรกๆ ที่ผมไปอยู่ที่วัดหนองป่าพง
ได้เห็นกิจวัตรนี้ทีไรก็ได้แต่นึกค่อนขอดพระเณรเหล่านั้นอยู่ในใจ ล้างเท้าท่านแค่รูปเดียวสองรูปก็พอทําไมต้องไปมากมาย แต่พออยู่นานเข้าผมก็ชักจะเป็นไปด้วย

แล้วเช้าวันหนึ่งก่อนที่จะรู้ตัวว่าอะไรเป็นอะไร ผมก็ปราดเข้าไปอยู่หน้าพระเณรรูปอื่นๆเสียแล้ว ขณะก้มลงล้างเท้าถวายท่าน เราก็ได้ยินเสียงนุ่มๆ เย็นๆ กลั้วเสียงหัวเราะของหลวงพ่อพูดอยู่บนหัวเราว่า...

‘สุเมโธยอมแล้วบ่...’

เมื่อพูดกับเราท่านใช้ภาษาที่ง่ายๆ สั้นๆ แต่ลึกซึ้งถึงหัวใจ

เช่นวันหนึ่ง เรากําลังกวาดใบไม้ที่ลานวัด อารมณ์ไม่ดี รู้สึกหงุดหงิด ขัดเคือง นึกเพ่งโทษ อยู่ที่วัดหนองป่าพง เจอแต่ทุกข์ พอดีหลวงพ่อเดินมาที่เรา ท่านยิ้มแล้วพูดว่า...วัดหนองป่าพงทุกข์มาก

แล้วก็เดินกลับ กลับไปกุฏิพิจารณา ก็ได้สติว่า

“ทุกข์ไม่ได้เกิดจากวัดหนองป่าพง..แต่เกิดจากจิตใจของเราเอง”

การตระหนักในเรื่องนี้ช่วยให้เราเลิกเพ่งโทษสิ่งแวดล้อมและคนอื่น”

อีกวิธีหนึ่งที่หลวงพ่อใช้ฝึกลูกศิษย์บ่อยๆ ก็คือ การให้ขึ้นธรรมาสน์เทศน์โปรดญาติโยม

“...วันหนึ่งที่วัดบึงเขาหลวง หลวงพ่อสั่งให้ผมเทศน์ 3 ชั่วโมง ห้ามลงก่อนหมดเวลาเลยต้องทําตามที่ท่านสั่ง พูดไปเรื่อยๆ หยุดแล้วตั้งต้นใหม่หลายครั้ง จนไม่รู้จะเอาอะไรมาพูด ภาษาก็ไม่ค่อยคล่อง ผู้ฟังก็นั่งหลับเป็นส่วนใหญ่

อันนี้ถือเป็นความเมตตาของหลวงพ่อ เพราะการทําอย่างนั้นช่วยแก้กิเลสได้ดีเทียว เนื่องจากขัดกับนิสัยของชาวอเมริกันเราซึ่งมีอัตตาสูง ความเชื่อมั่นในตัวเองมีมาก เวลาขึ้นธรรมาสน์ก็อยากจะเทศน์ให้น่าฟัง อยากให้ทุกคนฟังด้วยความตั้งใจ แต่ถ้าใครง่วงนอนหรือไม่ตั้งใจฟัง ก็อยากจะหยุดพูดทันที เป็นเพราะจิตใจเรายังมีความหวั่นไหวกับโลกธรรมอยู่”

พระพรหมวชิรญาณ (หลวงปู่โรเบิร์ต สุเมโธ)








…ถ้าไม่ต้องการให้ความทุกข์
มาเหยียบย่ำจิตใจ..

“ก็ต้องยึดเอา พระธรรมคำสอน
ของพระพุทธเจ้า มาปฏิบัติ”.
………………………………………….
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
กำลังใจ ๑๕, กัณฑ์ที่ ๒๐๓
วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗






"ทุกๆ คน ควรรีบขวนขวาย ซึ่งคุณงามความดี
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นเด็กก็อย่าได้เกียจคร้าน
ในการเรียนหนังสือ จงตั้งจิตตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
ให้มีความรู้ ความเฉลียวฉลาด ความสามารถ

เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็จงตั้งตัวตั้งตนให้ดี
ให้มีความขยัน มีความประหยัด ให้คบแต่คนดี
ให้รู้จักประมาณในการใช้จ่าย

ถ้าเป็นผู้เฒ่าผู้แก่แล้ว ก็เตรียมตัวเพื่อ
คุณงามความดีให้ยิ่งๆ กว่าเด็ก และคนหนุ่มทั้งหลาย”

ครูบาเจ้าพรหมา พรหมจักโก






สมมุติว่า ถ้าเราจะปลูกต้นไม้ เราต้องคอยดูแล
โดยหมั่นรดน้ำพรวนดิน ดายหญ้า และล้อมรั้ว
กันอันตรายให้ หน้าที่ของเรามีเพียงแค่นี้
ทำให้ครบ ทำให้ดีที่สุด

ส่วนผลที่ต้นไม้จะให้นั้น บางชนิด ๑ ปีให้ผล
บางชนิด ๓ ปี ๕ ปี ๑๐ ปี นั่น เป็นเรื่องของเขา
เป็นเรื่องของต้นไม้เขาเอง

หน้าที่ของเรานั้น "ทำเหตุ" ให้ดีที่สุดเท่านั้น
ส่วน "ผล" ที่จะได้รับเป็นเรื่องของเขา
ถ้าเราดำเนินชีวิตโดยมีการ "ปล่อยวาง" เช่นนี้แล้ว
ทุกข์ก็จะไม่รุมล้อมเรา

หลวงพ่อชา สุภัทโท







"คนเราเมื่อมีเมตตาให้กับผู้อื่น
ผู้อื่นเขาก็จะให้ความเมตตาตอบสนองต่อเรา
ถ้าเราโกรธเขา เขาก็จะโกรธเราตอบเช่นกัน
ความเมตตานี่แหละ คืออาวุธที่จะปกป้องตัวเราเอง
ให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง เป็นอาวุธที่ใครๆ
จะนำเอาไปใช้ก็ได้ จัดว่าเป็นของดีนักแล"

หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ






คนมุ่งสร้างความนดีนั้นมีน้อย
ส่วนคนที่ตกค้างอยู่ สร้างแต่ความชั่วนั้นมีมาก
เราก็เห็นได้ชัด เวลามาทำบุญทำทาน การกุศล
รักษาศีล และนั่งเจริญเมตตาภาวนา ฝึกฝนอบรม
จิตใจของตน ให้ได้รับซึ่งความสุขนั้น ก็มีน้อย

เหตุฉะนั้น เราจึงเห็นได้ชัดว่า
บุคคลที่มีจิตใจเยือกเย็น และมีความสุข
มันจึงมีน้อย ส่วนคนที่มีความทุกข์ เดือดร้อน
วุ่นวายกระสับกระส่าย ไม่มีความสุขนั้น
มีมากอยู่ในโลกนี้

เหตุฉะนั้น เมื่อเรามาเข้าใจว่า
ตนเองได้ตั้งจิตตั้งใจ จะสร้างซึ่งคุณงามความดี
ไม่ต้องคิดถึงบุคคลผู้ใด อันคนอื่นเค้าไม่มา
ก็เป็นเรื่องของคนอื่น ความดีนั้นเป็นได้ด้วยตนเอง
พระพุทธเจ้าจึงตรัสไว้ว่า

"อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งของตน
โก หิ นาโถ ปโร สิยา จะพึ่งใครอื่นเล่าเป็นที่พึ่งได้"

หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป






หนังนี่ มันหุ้มมูตรคูถอยู่ จะว่าเป็นนางงามได้ยังไง

หลวงปู่บุดดา ถาวโร






#การปฏิบัติพระพุทธศาสนาแบบเด็ดเดี่ยว #เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวใจของท่านผู้หวังพ้นทุกข์ภัยในวัฏฏะสงสาร

เจตนาที่หวังพ้นทุกข์ในปัจจุบันชาติ จะเป็นกำลังใหญ่ในการปฏิบัติธรรม

เมื่อเราตั้งเป้าไว้อย่างนี้แล้ว ก็ออกเดินทางตามจุดหมายที่ตั้งไว้ จะทำได้หรือไม่ได้ก็อย่าพึ่งตีตนตายก่อนไข้

ถ้ายังไม่ถึงวันหมดลมหายใจสุดท้ายแล้วก็ต้องสู้ตาย เพราะยังไงๆ มันก็เกิดมาเพื่อตายอยู่แล้ว

เกิดมาแล้วต้องเอาให้ดี ไม่ดีให้ตาย ไม่ตายให้ได้ดี ทำดีให้เต็มที่ ทำดีให้พอ เมื่อทำดีพอแล้วเราก็จะถึงซึ่งความพอดี

ถ้ายังไม่ถึงซึ่งเมืองพอ อย่าหยุด อย่าถอย อดเอา ทนเอา สู้เอา สู้จนถึงที่สุด อย่าไปหวาดหวั่นท้อถอย

#สักวันหนึ่งมันต้องเป็นวันของเรา.

#พระอาจารย์สุรวุฒิ (กอล์ฟ) #เขมจิตโต
#วัดป่าอนุตตโร อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู.







(ร่างกาย) มันอยู่ก็เรื่องของเขา จะตายก็เรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา

หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม






ศีลนั้น เป็นสิ่งสำคัญ อย่าไปมองข้าม

หลวงปู่พุธ ฐานิโย







#รู้หรือยัง...#ตายแล้วจะไปไหน ?

เมื่อเวลาตัวเองทำบุญสร้างกุศลนี้ เลยพูดถึงเรื่องบุญให้ฟัง พูดเรื่องบาปให้ฟัง เข้าใจบ้างสิ

ก็เพราะมันหลงกันเข้าใจไหม มันเมากัน เมาจนไม่รู้สำนึกตัวเอง เมาจนไม่เข้าใจว่า​เราเกิดมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติแล้ว​ วนเวียนในวัฏสงสารนี้

เกิดมากี่ภพกี่ชาติกันแล้ว รู้แล้วใช่ไหม ตายไปแล้วจะขึ้นสววรค์ชั้นไหนหรือว่าจะไปลงนรก

ตั้งแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายายตายไปแล้วนะ เห็นไหม ?? มันก็ยังไม่เห็นอีก แล้วรู้ตัวเองหรือเปล่าว่าตายแล้วจะไปไหน ??? แล้วก็พากันไป​ สงสัยว่าที่กูทำบุญไปนั้น​ กูจะได้หรือเปล่า ???

จะไปสงสัยทำไม ในการทำดีอย่างนั้นจะบอกทำไม "อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ" เป็นเนื้อนาบุญของโลก

เนื้อนาบุญของโลก คำว่า​ "โลก" ก็คือ "ตัวเรา" บุญแล้วที่เรามีข้าวปลาอาหารให้เราอยู่ ไม่ให้มันแตกมันดับ ไม่ให้มันตายง่าย เข้าใจไหม ให้มันเป็นไปตามอายุขัย

ให้เข้าใจสิ รู้ไหมว่าโลกแตกน่ะ ก็คือตัวเรานี้แหละ

#หลวงปู่สวาท #ปญฺญาธโร
#วัดโป่งจันทร์
ต.คลอง​พลู​ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO