นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 20 เม.ย. 2024 12:20 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ความอุตสาหะพากเพียร
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 11 ก.ย. 2021 5:19 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4533
…ความอยาก มันเป็นตัว
มาสร้างความวุ่นวายใจให้กับเรา
สร้างความไม่สงบ

.พูดง่ายๆ ใจของเรานี้
จะมีความสุขต้อง..”สงบ” อย่างเดียว.

…………………………………………..
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๓






หลวงปู่มั่น ท่านสร้างฅนให้เป็นพระ...
แต่กิเลส ตัณหา ทำพระให้กลายเป็นฅน...

หลวงปู่อว้าน เขมโก
วัดป่านาคนิมิตต์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร







" ถ้าจิตเราเป็นบุญแล้ว...
ทำบุญอยู่ที่ไหน บุญมันจะเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ
ไม่ต้องฉลอง ไม่ต้องให้คนรู้
ไม่ต้องให้คนเห็น ไม่ต้องมีอะไร
มีแต่กำลังจิตที่เชื่อมั่นในบุญกุศล และความดีที่ได้ทำ "

วิสุทธิ์ธรรม : พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
#การให้ธรรมะเป็นทานย่อมชนะการให้ทั้งปวง







#ทาน_คือเครื่องแสดงน้ำใจของมนุษย์
ผู้มีจิตใจสูง มีเมตตาจิตต่อเพื่อนมนุษย์
และสัตว์ด้วยการให้ การเสียสละ แบ่งปัน
มากน้อยตามกำลังวัตถุเครื่องสงเคราะห์
ที่มีอยู่ จะเป็นวัตถุทาน ธรรมทาน หรือวิทยาทาน เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น โดยไม่หวัง
สิ่งตอบแทนใดๆ นอกจากกุศล คือความดี
ที่ได้จากทานนั้น

#ศีล_คือพืชแห่งความดีอันยอดเยี่ยม
ที่ควรมีประจำชาติมนุษย์ ไม่ปล่อยให้สูญ
หายไป แม้โลกเจริญด้วยวัตถุจนกองสูง
กว่าพระอาทิตย์ แต่ความรุ่มร้อนแผดเผา
จะทวีคูณยิ่งกว่าพระอาทิตย์ ถ้ามัวคิดว่า
วัตถุมีค่ามากกว่าศีลธรรม

#ภาวนา_วิธีภาวนาก็คือ
วิธีสังเกตตัวเอง สังเกต จิตที่มีนิสัยหลุก
หลิก ไม่อยู่เป็นปกติสุข ด้วยมีสติระลึกรู้
ความเคลื่อนไหวของจิตโดยมีธรรมบทใด
บทหนึ่งเป็นคำบริกรรมเพื่อ เป็นยารักษาจิต
ให้ทรงตัวอยู่ได้ ด้วยความสงบสุข ในขณะภาวนา

#จุดที่ยอดเยี่ยมของโลกคือ_ใจ
ควรบำรุงรักษาด้วยดี ได้ใจแล้วคือได้ธรรม เห็นใจแล้วคือเห็นตน ถึงใจแล้ว.. คือ..ถึง"#นิพพาน"

#หลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต








ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตา ปัญญสเลิศ

#หลวงปู่ทองมา สุตธมฺโม
พระอริยสงฆ์แหางเทือกเขาภูเวียง







สำคัญที่มันไม่ขวางมรรคผลของตัว ก็เอา ใช้ได้ละ

หลวงพ่อวันชัย วิจิตโต








"#ความหย่อนยานของพระภิกษุสามเณร"

บ้านเราก็เจริญขึ้นมากแล้วทุกวันนี้ แต่ว่าพระมันมีเยอะ มันมีเยอะเหมือนใบไม้น่ะพระบ้านเรา ใบไม้ถ้ามันร่วงลงก็กองเน่าเปื่อยอยู่ตรงนั้นแหละ

บ้านเมืองของเราทุกวันนี้มันเป็นอย่างนี้ เหมือนขยะนะมันเยอะไปก็เหมือนขยะ ไม่ค่อยจะรักษาพระธรรมวินัยกันแล้ว หลวงปู่ก็เริ่มเห็นความหย่อนยานของพระภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนาในประเทศเรา ไม่เหมือนในสมัยหลวงปู่เป็นเณรน้อย เป็นพระผู้น้อยอยู่กับหลวงปู่อ่อนอย่างนี้ (ลป.อ่อน ญาณสิริ)

ท่านพาประพฤติปฏิบัติ แม้แต่ฉันน้ำร้อนก็ฉันมื้อเดียว แก้วเดียวด้วย แล้วเวลาฉันก็นั่งเข้าแถวเหมือนกันกับนั่งฉันจังหันตอนเช้านะ แล้วนอกจากนั้นก็ไม่มีอีกแล้ว ต้องพร้อมเพียงกันพาปฏิบัติไหว้พระสวดมนต์ เดินจงกลม นั่งสมาธิ บางครั้งท่านจะให้เร่งเดินจงกรม เร่งให้นั่งสมาธิ ถ้าไม่ใช่วันพระให้แยกตัวกันไปปฏิบัติ ไม่ได้มาไหว้พระสวดมนต์ร่วมกัน ถ้าเป็นวันพระถึงจะได้ขึ้นศาลามาไหว้พระสวดมนต์และก็นั่งฟังเทศน์ถึงตี ๕ นั่งฟังเทศน์ถึงตี ๕

แต่ถ้าเป็นวันธรรมดาก็อยู่กุฏีของใครของมัน อยู่ทางจงกรมของใครของมัน อยู่กระท่อมของใครของมัน ปฏิบัติอย่างเต็มที่นะไม่ต้องมาคลุกคลีกัน นี้คือระเบียบของหลวงปู่อ่อนที่พาทำมา ท่านต้องการใก้เรามีเวลาเดินจงกรมมากๆ ไม่ต้องมาอยู่ด้วยกัน ให้แยกตัวไปอยู่ของใครของมัน มีกลดของใครของมัน แล้วก็กางกลดอยู่ตามป่านั้นแหละ ถ้าเป็นหน้าแล้งก็อยู่ในตามป่า ถึงเวลาก็เอาแคร่ไปวาง แล้วก็กางกลดไว้ แล้วก็ทำทางจงกรม กางกลดสมัยก่อนไม่มีเต็นท์กางกลดใช้กลด อยู่ในกลดนี้แหละ หยุดเดินจงกรมแล้วก็ขึ้นแคร่มุดเข้าในกลดแล้วก็นั่งสมาธิ

ส่วนมากจะไม่ค่อยนอนกัน แล้วก็มีความตั้งใจมากที่เกี่ยวกับการอยู่การฉัน การหลับการนอน ส่วนมากจะอยู่ในเนสัชชิกกัน พระที่ปฏิบัติอยู่ด้วยกัน ๘๐ รูปนี้ออกมาบิณฑบาตไม่ถึง ๓๐ รูป นอกนั้นนี่ไม่ฉันสลับกันอยู่อย่างนั้น บางองค์ก็ ๗ วัน บางองค์ก็ ๘ วัน บางองค์ก็ ๑๕ วันไปเลย บางองค์ถึง ๒๐ วันถึงจะออกมาบิณฑบาต มีแต่ปฏิบัติกัน เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา นี้คือกฏระเบียบที่หลวงปู่อ่อนท่านได้แนะนำสั่งสอนมา

ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปู่ไม อินทสิริ
วัดป่าภูเขาหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
ถอดเทป/เรียบเรียง : นรินทร์ ศรีสุทธิ์








"... คนเรานะ เค้าไม่ให้คิดเรื่องเก่า ๆ นี่เกิน ๗ ครั้งของความคิด
อย่างสมมติว่า เราคิดถึงผู้ชาย อย่างนี้นะ
เดี๋ยวก็คิดถึง เดี๋ยวก็คิดถึงนี่ ๗ ครั้ง อย่างนี้ไม่ได้ อย่างนี้นะ
อีกวันต่อไปก็คิดได้ แต่ว่าไม่เกิน ๗ ครั้ง
(...โยมหัวเราะ...)

แต่อย่างนี้นะ
ถ้ามีลักษณะของจิตใจของพระโสดาบัน
เค้าก็จะรู้จักใจตัวเอง รู้จักอารมณ์ตัวเอง
เค้าจะไม่คิดเรื่องเก่า แสดงว่าเจ้านั้นคิดเรื่องเก่าแล้ว
มันถึงสมาทานไม่ได้ จริงมั้ย เห็นด้วยเนอะ
แต่เค้าว่าพระสกิทาคา ๓ ชาตินี่
เราก็มาประมวล

เรื่องจิตเรื่องใจ ไม่ควรคิดถึงสองสามครั้ง
เราก็กลัวเราไม่ได้เป็นพระโสดาบัน
คิดสิ่งที่ไม่ดีหลายครั้ง เดี๋ยวไม่ได้เป็นพระโสดาบัน เนอะ
ถ้ารอให้มันตาย คงนานเกิน
ฝึกวาระจิต

คนเราถ้าไปคิดเรื่องเก่า เรื่องอะไร
เค้าเรียกว่า คนมีหนี้ มีสิน
ถ้าเราไปคิดเรื่องเก่า เท่ากับเราไปยืมเงินเค้าต่อ ไปสร้างปัญหา

คนเราเกิดมา มันก็มีธาตุมีขันธ์ มีสุขภาพร่างกาย อย่างนี้แหละ
เพื่อบริโภคปัจจัย ๔
แต่ทุกคนไม่ควรมาติด มายึด มาหลง
ไม่ควรไปคิดถึง ๗ ครั้ง
พวกสาว ๆ นี่มันคิดบ่อยนะ
หลวงพ่อกลัวมันจะมากกว่า ๗ ครั้ง เนอะ
ต้องเบรคไว้ก่อน..."

หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม
วันศุกร์ที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๙
ใจดีใจสบาย
หลวงพ่อกัณหา_สุขกาโม







"... คนเรานะ เค้าไม่ให้คิดเรื่องเก่า ๆ นี่เกิน ๗ ครั้งของความคิด
อย่างสมมติว่า เราคิดถึงผู้ชาย อย่างนี้นะ
เดี๋ยวก็คิดถึง เดี๋ยวก็คิดถึงนี่ ๗ ครั้ง อย่างนี้ไม่ได้ อย่างนี้นะ
อีกวันต่อไปก็คิดได้ แต่ว่าไม่เกิน ๗ ครั้ง
(...โยมหัวเราะ...)

แต่อย่างนี้นะ
ถ้ามีลักษณะของจิตใจของพระโสดาบัน
เค้าก็จะรู้จักใจตัวเอง รู้จักอารมณ์ตัวเอง
เค้าจะไม่คิดเรื่องเก่า แสดงว่าเจ้านั้นคิดเรื่องเก่าแล้ว
มันถึงสมาทานไม่ได้ จริงมั้ย เห็นด้วยเนอะ
แต่เค้าว่าพระสกิทาคา ๓ ชาตินี่
เราก็มาประมวล

เรื่องจิตเรื่องใจ ไม่ควรคิดถึงสองสามครั้ง
เราก็กลัวเราไม่ได้เป็นพระโสดาบัน
คิดสิ่งที่ไม่ดีหลายครั้ง เดี๋ยวไม่ได้เป็นพระโสดาบัน เนอะ
ถ้ารอให้มันตาย คงนานเกิน
ฝึกวาระจิต

คนเราถ้าไปคิดเรื่องเก่า เรื่องอะไร
เค้าเรียกว่า คนมีหนี้ มีสิน
ถ้าเราไปคิดเรื่องเก่า เท่ากับเราไปยืมเงินเค้าต่อ ไปสร้างปัญหา

คนเราเกิดมา มันก็มีธาตุมีขันธ์ มีสุขภาพร่างกาย อย่างนี้แหละ
เพื่อบริโภคปัจจัย ๔
แต่ทุกคนไม่ควรมาติด มายึด มาหลง
ไม่ควรไปคิดถึง ๗ ครั้ง
พวกสาว ๆ นี่มันคิดบ่อยนะ
หลวงพ่อกลัวมันจะมากกว่า ๗ ครั้ง เนอะ
ต้องเบรคไว้ก่อน..."

หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม
วันศุกร์ที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๙











"...หลวงพ่อเทรนเราเพื่อมาเป็นพระอริยเจ้า
ถ้าเค้าไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า
ถือว่าการลงแรงของหลวงพ่อนี่เสียหาย

ก็ต้องมีความสุขในการรักษาศีล ๕
มีความสุขในการเรียนหนังสือ
มีความสุขในการทำงาน อย่างนี้นะ
ไปทำตามใจตัวเอง ไปทำตามอารมณ์ตัวเอง ไปทำตามความรู้สึก เค้าเรียกว่าคนโง่ คนเซ่อ ๆ เบลอ ๆ
เราไม่มีหนี้ไม่มีสิน ก็เอามัน
อย่างนี้น่ะ

เห็นมั้ย คนเค้าไม่เอาอะไรไปด้วย
เกิดมาเพื่อโง่เฉย ๆ
เค้าเรียกว่า เค้ามาหลงในอารมณ์ของสวรรค์
เค้ามีลูกมีผัวนี่ เค้าทำตามอารมณ์

หลวงพ่อก็ว่าให้พวกเราคิด
ให้มีความสุขในการทำงาน
เพราะงานคือความสุข
อย่างนี้น่ะ เราจะพัฒนา..."

หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม
วันพุธที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๔

ใจดีใจสบาย
ธรรมะใจดีใจสบาย
หลวงพ่อกัณหา_สุขกาโม
วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม







#วันไหนถ้าประมาท_ก็แปลว่าไม่ดี

ถ้าไม่ประมาท ทำแต่กรรมดี วันนั้นดีหมด มืดกับสว่าง ไม่เคยทำอะไรให้คน มีแต่คน ขี้เกียจก็คือคน ขี้โลภก็คือคน

#วันนี่มีแต่มืดกับแจ้ง

24 ชั่วโมง ทำอะไรคนไม่ได้ นี่โลกนิยม ธรรมไม่นิยม ไม่มีวันนั้น วันนี้

#วันไหนไม่ประมาททำแต่กรรมดีวันนั้นดีตลอด

วันนี้หมู่เพื่อนจะมาสวดให้ผม(หลวงปู่) หมู่เพื่อนก็ว่ากันไปซิ เรา (หลวงปู่) ไม่ได้ปรุงขึ้น ผม(หลวงปู่) สวดอยู่ทุกวันๆอยู่นี้

(ครูบาอาจารย์จุดเทียนครับหลวงปู่)

#พิธีผมไม่เอา

จุด เทียนก็จุดเอา ผมไม่มีพิธี เวลาฉันท์ไม่เห็นมีพิธี จะมาทำพิธี วงศ์ปฏิบัติท่านไม่มีตั้งแต่ไหนมา

#เดี๋ยวนี้มีเรื่องโลกมาเกี่ยวข้อง

วันนั้น วันนี้ วันนี้วันเกิด วันนั้นวันครบรอบ วันนั้น วันเกิดมันทำอะไรให้คนล่ะ
เอาไปคิดดูซิ 24 ชั่วโมงทำอะไรให้คน กินข้าวก็คือคน ขี้เกียจก็คือคน วันหนึ่ง 24 ชั่วโมงนั้น เนี่ย

#พระพุทธเจ้าท่านว่าไม่มีวันนั้นดีวันนี้ดี
#ไม่มีวันนี้ฤกษ์ดีไม่มีวันนั้นยามดีไม่มี

มีแต่คน แล้วทีนี้สังขารร่างกายก็ไม่ฟังคน ฉันแก่ลงนะเธอ ยังบอกผมแก่แล้วนะ ผมแก่ไปทุกวันๆ นั้น ธรรมไม่มีแก่ ไม่เอาความสัตย์ความจริง ซื่อสัตย์สุจริตเป็นเลิศฐาน

#มนุษย์ให้ได้ศีล5นะ

ผู้มีศีลเเท้เป็นผู้หมดเวรหมดภัย นั่นฟังแต่ว่าศีลแท้ รักษาให้บริสุทธิ์เถิด หมดเวรหมดภัยนั่น หลวงปู่มั่นท่านว่า

___
วันนี้อันนี้หมู่เพื่อนเจตนาดี ญาติโยม
ก็คิดกันอย่างนั้น หมู่เพื่อนอยากสวดมนต์ถวาย ก็สวด ท่านไม่สวด ผม(หลวงปู่) ว่าสวดเอาเองอยู่ ผม(หลวงปู่) สวดเอาทุกวันๆ ศีลผมก็รักษามาตามกำลังของผม สติปัญญารักษามาตลอด

#คนประมาทคือคนตาย

ตายไปทุกวันนั่นแหละ คนไม่ประมาท เป็นคนสร้างแต่กรรมดีนั้นถูกต้อง อย่าไปสร้างสิ่งที่ชั่ว ที่เป็นโทษ

หลวงปู่มั่นว่า ดีใดไม่มีโทษ ดีนั้นดีประเสริฐดีเลิศ กินเหล้าก็ดี แต่มีโทษ เล่นการพนันก็ดี เเต่มีโทษมีแต่เรื่องยุ่งเหยิงวุ่นวาย

พระพุทธเจ้าท่านว่า ดีใดไม่มีโทษ เที่ยวกลางคืนก็ดี มีแต่หาเรื่องราว โทษนั้น ทางสายไหน ทำคนให้ต่ำนั้น

#พระพุทธเจ้ารู้ดีรู้ชั่วรู้จริงๆ

ไม่ใช่ธรรมดา รู้หมด จิตพ้นจากอำนาจกิเลสหมดแล้ว กลายเป็นธาตุกายสิทธิ์ดังที่เราเห็นพระบรมสารีริกธาตุ อัฐิธาตุพระอรหันต์นั้น กระดูกกลายเป็นแก้วเลยจะหามาจากไหน

#ก็สร้างเอาสิเราไม่สร้างเราก็ไม่เป็น

ไม่เกี่ยวกับพระสงฆ์องค์เจ้า สร้างจิตดวงเดียวให้ดีแค่นั้น ฆราวาสเป็นคนจริง ศีล 5 ได้เลิศที่สุด นอกนั้นช่วยอะไรไม่ได้

สีเลนะ สุคติง ยันตินั้น รักษาให้สมบูรณ์แล้ว เวลาตายก็มีความสุข เพราะไม่มีเวร ไม่มีภัยในใจ

ความเอาเปรียบเอารัดก็ไม่มี คนดูถูกดูแคลนไม่มี จิตดวงนี้ชำระเสร็จหมดืสังวรระวังทุกวันๆ ไม่ให้เกิดขึ้น ไม่มีอะไรที่จะพาให้เราเศร้าหมอง

#ชีวิตนี้ถ้าเรานึกถึงธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านสอนไว้พอ

ดีมีแต่เรื่องจริง ท่านไม่บังคับใคร ใครอยากดี นำไปปฏิบัติเถิด ดีหมด ไม่มีใครจะไม่ดี แต่ทำให้พอ เพราะอำนาจกิเลสมันมากมายก่ายกอง

หัวใจเราหัวใจท่าน จะชำระให้หมดโทษมลทินไม่ธรรมดา ถ้าไม่มีศรัทธา ไม่มีความเชื่อมั่น เสร็จหมด

#เราจึงทำฝึกจิตฝึกใจของเรา

น้อมนำธรรมของพระพุทธเจ้า มาสู่หัวใจของเรา แล้วก้าวเดิน ระวังสังวรบาป ธรรมของฆราวาสก็บอกแล้ว สัจจะ
ความซื่อสัตย์สุจริต

#เดี๋ยวให้เราก้าวขึ้นศีล5

นิพพุติง ยันติ ถึงนิพพานเหมือนกันหมด
ไม่ใช่พูดนะ เราไปทำไม่ใช่ง่ายๆ ท่าน
จึงเทียบให้ว่า คนตกนรกเท่าขนโค คนขึ้นสวรรค์ เท่าเขาโค นั่นดูสิ เขาโค กับ ขนโค

#โอ้คนตกนรกเท่าขนโค
#คนขึ้นสวรรค์นิพพานเท่าเขาโค

ก็ดูทุกวันนี้ คนมีความซื่อสัตย์สุจริต มีมากไหมล่ะ ล้มเหลวๆๆๆ รู้จักความล้มเหลว

#เราก็ตั้งขึ้นมาสิธรรมก็มีอยู่แล้ว

สายทางก้าวเดิน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชอบแล้ว ขึ้นชื่อว่ากิเลส มีแต่หลอกล่อให้ล้มเหลว ทำให้เราผิดหวัง ทำให้เราเป็นทุกข์

#เรื่องกิเลสล้วนๆๆๆหมด

ธรรมไม่มีล้มเหลว น้อมเข้ามารู้เอง รวมสงบลงไปแล้ว สว่างจ้าเป็นสมาธิ สันทิฏฐิโก ไม่ต้องไปถามใคร รสชาติของธรรมเป็นยังไง รสแห่งธรรม ชนะรสทั้งปวงเลิศหมด รสลิ้นปาก ที่ โลกนิยม เป็นแค่นั้นแหละ

#พวกเราน้อมเอาธรรมของพระพุทธเจ้าไปปฎิบัติ

ตามธรรมของฆราวาสเราก็ดี เป็นคนจริง เป็นคนซื่อสัตย์พอ เอาตรงนี้ให้ได้ ถ้าไม่ได้เราจะเอาอะไร

ไม่ซื่อสัตย์แล้ว ทำงานก็ล้มเหลวๆ ล้มละลายๆ นี่ท่านสอนพระสงฆ์ ไม่ต้องแล้วธรรมวินัยของเลิศของประเสริฐคุ้มครองป้องกันหมด

#ถ้าปฏิบัติตามสายทางนั้นแล้วเป็นสุคโต

จิตนั้นกว่าจะคลายออกมา นักปราชญ์ท่านว่ารอดตายนี้ จะมาเอาดื้อๆ มาเอาง่ายๆ ลองไปแก้ดู ไปชำระความขี้เกียจมักง่ายดู

#ลองดูอันที่พูดนี้พูดง่ายกว่าทำ

พูดนี้ง่ายแหม๋ อยากมีความสุขนั้น ไม่เอาไหนเลย มีความสุขได้ยังไง ไม่เดินตามสายทางของพระพุทธเจ้า

สายทางของพระพุทธเจ้า คือ สายทางเดินของชีวิตนั้น แล้วเป็นแนวทางของจิตที่จะดำเนินไปด้วยความปลอดภัยนั่น แนวทางเเห่งชีวิตยกขึ้นมาได้เลย

#ขยันหมั่นเพียรในหน้าที่การงานที่เห็นว่าเป็นประโยชน์

ถ้าเป็นโทษอย่าทำนั่น ไปไหนหลวงปู่ก็พูด บุญไม่ต้องเสียเงิน ยกจิตตรงนี้มาชำระ ให้มีหลักมีเกณฑ์นั่น หลวงปู่มั่นท่านว่า ได้สมบัติทั้งปวง ไม่ประเสริฐเท่าได้ตน เพราะตนเป็นบ่อเกิดเเห่งสมบัติทั้งปวงนั้น ชัดเจนมาก

#เนี่ยพากันมาท่านเจตนามาสวดมนต์ให้หลวงปู่

ไม่เท่าไรหรอก อย่างมากก็ถึงวันตาย ก็แล้วแต่พระสงฆ์ท่านจะทำ เราไม่ได้คิดขึ้น จบแค่นี้พอ


#โอวาทธรรมคำสอนพ่อแม่ครูอาจารย์
#หลวงปู่ปรีดา #หลวงปู่ทุย #ฉนฺทกโร
#วัดป่าดานวิเวก
พระธรรมเทศนา ก่อนสวดมนต์บูชาธาตุขันธ์หลวงปู่ ๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ (เย็น) เนื่องในโอกาสหลวงปู่เจริญอายุวัฒนมงคล ๘๘ ปี ๖๘ พรรษา
๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๓







“วันนี้สุขภาพดี พรุ่งนี้อาจป่วยก็ได้
วันนี้ธุรกิจรุ่งโรจน์ พรุ่งนี้ธุรกิจอาจล้มละลาย
วันนี้ครอบครัวราบรื่น แต่พรุ่งนี้ครอบครัวอาจแตกแยก
ยังไม่ต้องพูดถึงคนรัก ที่วันนี้ยังอยู่ แต่พรุ่งนี้
อาจล้มหายตายจากไป แต่ส่วนใหญ่แล้ว
มักเพลิดเพลินในความสุขจนประมาท
มองไม่เห็นความเป็นอนิจจังของชีวิตและโลก
จึงไม่คิดเตรียมพร้อม จะตื่นตัวก็ต่อเมื่อภัยมา
ประชิดตัว แต่ถึงตอนนั้น ก็อาจสายไปก็ได้”

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล







ผู้ที่ "หยุด" ความอุตสาหะพากเพียร ที่จะอบรมกาย วาจา และใจของตน ให้ดีขึ้น จึงเสมอด้วยการ "ถอยหลัง" ลงไปสู่ความเสื่อมอยู่ทุกขณะ

บุคคลผู้ประพฤติเช่นนั้น สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงนิยามไว้ว่าเป็น "บุคคลผู้ประมาท" เปรียบได้ดั่ง "บุคคลที่ตายแล้ว" ไม่สามารถจะดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ
.
--- พระคติธรรม สมเด็จ​พระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จ​พระสังฆราช​ สกลมหาสังฆปริณายก


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO