นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 27 เม.ย. 2024 10:16 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ถูกอิจฉาอย่าเสียใจ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 07 ก.ย. 2021 8:26 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4541
โยม : การทำบุญกับพระสุปฏิปันโน มีพระโสดาบัน สกิทาคา อนาคา อรหันต์ได้บุญมากโดยลำดับ หรือพระที่ท่านออกจากนิโรธสมาบัติ เนื่องจากทุนน้อยจึงอยากให้หลวงปู่ชี้แนะบอกวิธีสังเกตสังกา (จะได้ทำบุญไม่สูญเปล่าครับ) ว่าพระที่กล่าวมา มีลักษณะอะไรเป็นข้อสังเกต ข้อพิจารณา (อย่างนี้คนเขาก็เลือกทำกับพระอรหันต์สิครับเพราะได้บุญมาก)

หลวงปู่ : การทำบุญเราจะเลือกพระนั้นมันก็ต้องขึ้นอยู่กับใจของเรา แต่ส่วนหลวงปู่ต้องพิจารณาว่าข้อวัตรปฏิบัติของพระเหล่านั้นไปแถวใด ไปแถวไสยศาสตร์ หรือพุทธศาสตร์ ท่านเหล่านั้นเท่าที่สังเกตบวชเพื่อเลี้ยงชีวิต หรือเพื่อลาภยศ หรือเพื่อพ้นทุกข์ในวัฏสงสาร เราก็คงพออ่านออก เรื่องแผ่ๆ ขอๆ เรี่ยๆ ไรๆ มีหรือไม่ มีข้อวัตรรักใคร่ในการปฏิบัติหรือไม่คำพูดคำสอนของท่านหนักไปในทางอามิส หรือในทางโลกุตรเพื่อหลุดเพื่อพ้น เสนาสนะที่อยู่ที่อาศัยวิเวกบ้างหรือไม่ เราดูก็คงรู้แพล็บเดียวกระมัง (แต่เท่าที่ลูกๆ หลานๆ ทำบุญมาแล้วนั้นมันก็เท่ากับว่าเลือกครูบาอาจารย์ และพระเจ้าพระสงฆ์ถูกแล้ว)

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
(ตอบปัญหาธรรมและการปฏิบัติธรรม)







ความสุขอยู่ที่ไหน ความทุกข์อยู่ที่ไหน สุขที่ใจ ทุกข์ที่ใจ สวรรค์ในอก นรก ในใจ สุขเมืองฟ้า มีแต่แดดกับฝน สุขเมืองคน มีแต่กินกับเล่น เร่งทำบุญ ทำใจให้เป็นบุญ รีบทำใจเป็นบุญเป็นกุศล ก่อนที่ความตายจะมาถึง ถ้าความตายมาถึงแล้วจะเสียที ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา

หลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญฺโญ
วัดป่ากุง จังหวัดร้อยเอ็ด







#ทุกข์เพราะใจ..

#พระอาจารย์พรหมวังโส เป็นพระชาวอังกฤษศิษย์ #หลวงพ่อชา_สุภทฺโท ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จะมาใช้ชีวิตอย่างพระป่าในภาคอีสาน ซึ่งมีวิถีชีวิตแตกต่างจากชาวตะวันตกมาก มีประสบการณ์หลายอย่างที่นั่นซึ่งท่านไม่เคยเจอะเจอมาก่อนในอังกฤษ

ประสบการณ์อย่างหนึ่งที่ท่านจำได้ไม่ลืมเลยเกิดขึ้นขณะที่ท่านบวชได้เพียงปีเดียว มีงานฉลองในหมู่บ้าน ๓ วัน ๓ คืน เป็นธรรมดาของชาวบ้านที่เมื่อมีมหรสพ ก็จะเปิดเสียงดังเต็มที่ราวกับจะเผื่อแผ่ให้คนทั้งหมู่บ้านได้ร่วมสนุกสนานด้วย ปรากฏว่าเสียงดนตรีดังกระหึ่มไปถึงวัด ซึ่งอยู่ห่างไป ๑ กิโลเมตร
ไม่มีมุมไหนของวัดที่เสียงดนตรีนั้นจะทะลวงไปไม่ถึง

กลางค่ำกลางคืน เสียงมหรสพก็ยังดังไม่หยุด ยิ่งดึก เสียงก็ยิ่งดังจนถึงรุ่งเช้า พระทั้งวัดนอนแทบไม่ได้เอาเลย วันรุ่งขึ้นพระในวัดจึงขอร้องผู้ใหญ่บ้านว่า ถ้ามหรสพยุติราวตีหนึ่ง จะได้ไหม เพื่อให้พระมีเวลาหลับสัก ๒ ชั่วโมง ก่อนที่จะลุกขึ้นมาทำวัตรตอนตีสาม แต่ผู้ใหญ่บ้านกลับปฏิเสธ

พระในวัดไม่มีที่พึ่งอื่นใดนอกจากหลวงพ่อชา จึงพากันไปขอร้องท่าน ให้บอกชาวบ้านช่วยหรี่เสียงตอนตีหนึ่ง เพราะเชื่อว่าผู้ใหญ่บ้านต้องเกรงใจหลวงพ่อแน่ ๆ อีกทั้งหลวงพ่อคง
ไม่เห็นดีด้วยกับความสนุกสนานที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลาแถมส่งเสียงดังทำลายความสงบสงัดของวัดป่า

แต่แทนที่หลวงพ่อจะเห็นด้วยกับพระในวัด ท่านกลับบอกว่า “#เสียงไม่ได้รบกวนท่าน_ท่านต่างหากที่รบกวนเสียง” นี้เป็นสิ่งที่พระพรหมวังโสและเพื่อนพระไม่คาดคิด แต่คำพูดของหลวงพ่อทำให้พระเหล่านั้นได้คิดว่า เสียงก็เป็นสักว่าเสียง จะดังแค่ไหนก็ไม่ทำให้เราทุกข์ใจได้เลยหากไม่ทะเลาะเบาะแว้งกับมัน หากวางใจเป็นกลางต่อเสียงนั้น ก็ไม่รู้สึกเป็นทุกข์แต่อย่างใด

พระอาจารย์พรหมวังโสพูดถึงประสบการณ์ครั้งนั้นว่า แม้เสียงมหรสพยังดังอยู่ในหู แต่ไม่รบกวนจิตใจของพระในวัดอีกต่อไป เพราะต่างทำใจยอมรับได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น จะว่าไป
มันก็แค่ ๓ วันเท่านั้น ไม่นานมันก็ผ่านไป..

#ในยามทุกข์ใจ_ผู้คนมักโทษสิ่งภายนอก_แต่กลับไม่ตระหนักว่า #แท้จริงแล้วสาเหตุของความทุกข์นั้นอยู่ที่ใจตนเองต่างหากนั่นเป็นเพราะว่าเราชอบส่งจิตออกนอก #จนลืมกลับมาดูใจของตนหลวงพ่อชาชี้ให้เห็นนิสัยของคนส่วนใหญ่อย่างชัดเจนเมื่อท่านกล่าวว่า
“#คนตั้งร้อยพันคนโทษว่ารูมันลึกเพราะล้วงไปไม่ถึง_ที่จะว่าแขนของตนสั้นนั้นไม่ค่อยมี”

#จากหนังสือลำธารริมลานธรรม
#เขียนโดยพระไพศาล_วิสาโล








..เราเข้าใจผิดไป
คิดว่าบุญทุกชนิดสามารถเอาไปอุทิศได้

.แต่ถ้าดูตามหลักที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนี้
ท่านสอนให้เราอุทิศบุญด้วย
“การทำทาน “

.ทำบุญทำทาน เช่น ใส่บาตร
ถวายสังฆทาน
หรือบริจาคเงินให้กับโรงเรียน
โรงพยาบาล หรืออะไรก็ได้.
……………………………………..
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
ธรรมะหน้ากุฏิ
๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔









"จิตรวม"

ก่อนที่จิตจะรวม บางคนก็ปรากฏว่า กายของตนหวั่นไหวสะทกสะท้านไป บางคนก็จะมีภาพนิมิตต่างๆ ปรากฏขึ้นเป็นภาพภายนอกก็มี แสดงอุบายภายในให้ปรากฏขึ้นก็มี แล้วแต่จริตนิสัยของแต่ละบุคคล ถ้าเป็นผู้ไม่มีสติก็จะมัวเพลิดเพลินลุ่มหลงอยู่ในนิมิตภาพนั้นๆ จิตก็จะไม่รวม

หากถอนออกเลยทำให้ไม่ได้รับประโยชน์ ไม่มีกำลัง แต่ถ้าเป็นผู้มีสติดีหากมีนิมิตภายนอก หรือธรรมผุดขึ้นภายในก็ให้น้อมเข้ามาเป็นอุบายของวิปัสสนากัมมัฏฐาน จิตก็จะรวมลงถึงฐีติจิต เมื่อจิตรวมลงก็ให้มีสติรู้ว่าจิตของเรารวมและให้รู้ว่าจิตของเรารวมลงอิงอามิสคือกัมมัฏฐานหรือไม่ หรืออยู่เฉพาะจิตล้วนๆ ก็ให้รู้ อย่าไปบังคับให้จิตรวม และจิตรวมแล้ว อย่าบังคับให้จิตถอนขึ้นปล่อยให้จิตรวมเอง ปล่อยให้จิตถอนเอง และเมื่อจิตถอนหรือก่อนจะรวมชอบมีนิมิตแทรกขึ้นทั้งนิมิตภายนอกและนิมิตภายใน ก็ให้มีสติรู้อยู่ว่านั่นเป็นเรื่องของนิมิตเป็นเรื่องของอุบาย

อย่าไปตามนิมิตหรืออุบายนั้นๆ ให้น้อมเข้ามาเป็นวิปัสสนากัมมัฏฐาน ยกขึ้นสูงไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แล้วก็ให้พิจารณากำหนด
กัมมัฏฐานที่ตนเคยกำหนดไว้อย่าละเลยละทิ้งด้วยความมีสติอยู่ทุกระยะที่จิตรวม จิตถอน ถ้าหัดทำให้ได้อย่างนี้ ต่อไปจะเป็น “สันทิฏฐิโก” คือเป็นผู้รู้เองเห็นเอง แจ้งชัดขึ้น จะตัดความเคลือบแคลงสงสัยไม่สงสัยลังเลในพระรัตนตรัยต่อไป.

พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต








"เมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องเจอความทุกข์รุมเร้า ต้องอดทนต่อทุกข์นั้น และเอาการภาวนานี่แหละเป็นตัวช่วยให้ผ่านพ้นไปให้ได้

ไม่ใช่ว่าพอเจอทุกข์รุมเร้าแล้วต้องเที่ยวไปหาคนอื่นให้ช่วยอยู่ทุกทีไป

นักภาวนาต้องภาวนาสู้กับวิกฤติ ปัญหาและทุกข์ต่างๆ ถ้าจะหลบก็ต้องหลบไปภาวนา"

ธรรมะคำสอน
หลวงปู่ไม อินทสิริ







#เรื่อง_ทำบุญอุทิศให้คนตาย

".. ทำบุญให้ผู้ตายนี้ท่านแสดงไว้ ว่ายากนัก
ผู้ที่ตายจะได้รับ เหมือนกับงมเข็มอยู่ในก้นบ่อ แต่ผู้ยังมีชีวิตอยู่ก็ชอบทำ นับว่าเป็นความดีของผู้นั้นอย่างยิ่ง ท่านเปรียบไว้ สมมติว่าบุญที่ทำลงไปนั้นแบ่งออกเป็น ๑๖ ส่วน แล้วเอาส่วนที่ ๑๖ นั้นมาแบ่งอีก ๑๖ ส่วน ผู้ตายไปจะได้รับเพียง ๑ ส่วนเท่านั้น ฟังดูแล้วน่าใจหาย

เพราะฉะนั้น เราทั้งหลายจึงไม่ควรประมาท
ในเมื่อยังมีชีวิตอยู่นี้ สิ่งใดควรจะทำให้รีบทำเสีย ตายแล้วเขาทำบุญไปให้ ไม่ทราบว่าจะ
ได้รับหรือไม่ ถึงแม้ได้รับก็น้อยเหลือเกิน เพราะคนตายไปแล้ว เขาเรียกว่าเปรต ไม่ได้เรียกว่า บิดา มารดา ป้า น้า อา ครูบาอาจารย์ อย่างเมื่อเป็นมนุษย์อยู่นี้หรอก ในบรรดาเปรตเหล่านั้น มี ๑๑ พวก มีจำพวกเดียวที่จะได้รับส่วนบุญที่คนยังมีชีวิตอยู่อุทิศไปให้ เรียกว่า #ปรทัตตูปชีวีเปรต เปรตจำพวกนี้ได้รับทุกข์ร้อนลำบากมาก เพราะในเปรตโลกนั้น ไม่มีการทำนาค้าขาย แม้แต่ขอทานก็ไม่มี...

ฉะนั้นเปรตจำพวกนี้แหละ มนุษย์คนที่ยังเป็นอยู่อุทิศไปให้จึงจะได้รับ เปรตนอกนั้นแล้วไม่ได้รับเลย เช่น ตายไปเกิดเป็นมนุษย์ก็ไม่ได้รับ นับประสาอะไร บางทีสามีภรรยานอนอยู่ด้วยกันแท้ๆ ฝ่ายหนึ่งทำบุญขอให้อีกฝ่ายหนึ่งอนุโมทนาด้วย ก็ไม่รับ พวกที่ไปเกิดเป็นเดรัจฉานยิ่งไปกันใหญ่ ไปเกิดในนรกหมกไหม้ทุกขเวทนามาก ทำบุญอุทิศไปให้ก็ไม่รู้อะไร เพราะกำลังเสวยผลกรรมอันนั้นอยู่ หรือไปเกิดเป็นเทวดาชั้นใดชั้นหนึ่งก็เหมือนกัน เขากำลังเสวยผลบุญของเขาอยู่ เขาจะมาเอากุศลผลบุญของเราได้อย่างไร.. "

#หลวงปู่เทสก์_เทสรังสี







-- อย่าเมา --

อย่าประมาทเลย อย่าไปส่งเสริมอะไรมันมากจนให้มันหลงผิดไป
ถ้ามันน้อยใจ มันเป็นทุกข์ก็ให้รู้ว่ามันเป็นทุกข์
อย่าให้มันเป็นทุกข์เกินความจริงไป

ถึงแม้ว่าอันนี้มันชอบใจก็ให้มันชอบใจ
อย่าให้มันชอบใจเกินความชอบใจไป
อย่าให้มันมากไป
หรือพูดตามภาษาเราเรียกว่าอย่าให้มัน"เมา"
เมื่อมันเป็นทุกข์ อย่าให้มันเมาในทุกข์
เมื่อมันเป็นสุข อย่าให้เมา

คือเรียกว่าไม่ให้เมา
ไม่ให้เมาก็เรียกว่าไม่ให้เกินไป ให้มันพอดีๆ
ถึงมันจะอยู่กับเราก็ได้ ถึงมันจะวิบัติจากเราไปก็ได้

ถ้าเราไปเมากับมันเสียแล้ว
มันจะหนีจากเรา เราก็เป็นทุกข์
หรือทุกข์อยู่กับเรามันไม่หนีจากเรา เราก็เป็นทุกข์
สิ่งที่สุขมันหนีจากเราไป เราก็เป็นทุกข์
สิ่งที่ทุกข์ที่มันอยู่ในเราไม่หนีจากเราไปเราก็เป็นทุกข์

มันเป็นเสียอย่างนี้ ถ้าเราไปยึดมันเข้า ไปมั่นมันเข้า
มันก็เกินความจริง มันก็ไม่ใช่ธรรมะ ไม่ใช่เป็นผู้ปฏิบัติธรรม

นี่มันเกินไป มันไม่ถูกทาง มันไม่ถูกทางมันก็เป็นมิจฉาทิฎฐิ
มันก็ทุกข์มันก็เกิดขึ้นมา ไอ้ความเห็นเช่นนั้นเรียกว่าเหตุให้ทุกข์เกิด

ธรรมะหลวงปู่ชา
( จากพระธรรมเทศนา "สูตรแก้ทุกข์" )







“คนที่มีอิสระ กับคนเป็นทาส
ความสุขไม่เหมือนกันหรอก
พวกเราเป็นความสุขแบบเป็นทาส

ต้องใช้น้ำหอมยี่ห้อนี้ ถึงจะมีความสุข
นี่เป็นทาสน้ำหอมนะ ต้องอยู่กับแมว
นี่เป็นทาสแมว อยู่กับหมาถึงจะมีความสุข
เป็นทาสหมา

เป็นไหม? ถึงเวลาต้องไปอาบน้ำให้มันใช่ไหม
พ่อเราๆ ยังไม่ไปอาบให้เลย ต้องอาบให้หมา
เสียอิสรภาพนะ

ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์นะ
ยึดถืออะไร ก็เสียอิสระภาพเพราะสิ่งนั้น
รักสิ่งใด ก็เสียอิสรภาพเพราะสิ่งนั้นแหละ”

พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช







“ถ้าถูกอิจฉา อย่าเสียใจหรือโกรธผู้อิจฉา
แสดงว่าเราจะต้องดีกว่าเขา เพราะไม่มีผู้ใด
จะอิจฉาคนที่เลวกว่าตน และเราก็อย่าไปอิจฉาผู้อื่น”

ท่านเจ้าคุณพระยานรรัตนราชมานิต






#วิญญาณมาขอส่วนบุญ

วิญญาณไม่มีที่พึ่ง เขาพอจะขอใครได้ก็ต้องขอ บางทีมาเข้าฝันก็มี บางครั้งก็มาปรากฏตัวให้เราเห็น!!! บางทีส่งกลิ่นเหม็นมาให้เราดม??!! ขนพองสยองขวัญ!!!

นั่นแหละคือ...มาขอส่วนบุญ เราไม่เข้าใจความหมายของเขา ผีก็เลยอดตาย??!!

ยิ่งผีไม่มีญาติพี่น้อง สัมภเวสี ล่องลอยไปตามกรรม. ได้ยินข่าวว่าวัดนั้นวัดนี้ จะเอาบุญข้าวสากเดือน 10 เพ็ญ บ้างก็เดินทางมาไกลมาก ขนลูกขนหลานมา รอนแรมมาจับจองมองหาญาติพี่น้อง ที่มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลเดือน 10 เพ็ญ

บางทีญาติพี่น้องลืมอุทิศส่วนกุศลไปให้ เสียอกเสียใจมาก พากันบ่นพึมพำๆๆผิดหวังไปตามๆกัน เห็นแต่ลูกหลานของคนอื่นเขามา ร้องไห้กลับไปแบบมือเปล่า โดยไม่มีอะไรติดไม้ติดมือก็มีมาก

ฉะนั้น... พวกเราอย่าพากันลืมพ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้วเป็นอันขาด เวลาพระสงฆ์ "ยะถาสัพพี" จิตใจของเราต้องน้อมรำลึกถึงผู้มีพระคุณ ต่อจากนั้นก็แผ่เมตตาให้ทั่วถึง ตลอดผีที่ไม่มีญาติพี่น้องให้ไปหมดเลยนะ

อย่าให้เขาเสียใจภายหลังว่า เราใจดำน้ำขุ่นลืมพ่อแม่ตัวเอง แต่ถ้าเขาได้จากเรา... เขาอวยพรให้เราดังลั่น ดังสนั่นลั่นโลกไปเลยนะ แต่เราไม่รู้

#หลวงปู่สมเกียรติ #ชิตมาโร
#วัดป่าถ้ำพระเทพนิมิต ต.ตาลเลียน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO