นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 20 เม.ย. 2024 8:27 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: การก้าวเดิน
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 06 ก.ย. 2021 4:52 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4532
"ถ้าปฏิบัติธรรมแล้วยังไม่มีเมตตา ไม่รู้จักให้อภัย หรือไม่รู้จักมองคนอื่นในแง่ดี นั่นแสดงว่าคุณยังไม่มีธรรมจริงๆ..."

หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล
วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร อ.บัวเชต จ.สุรินทร์








…ตราบใดที่เรายังไม่พ้นทุกข์

ก็อย่าไปคิดว่า..ฉลาดเป็นอันขาด

“ ถ้าฉลาดจริงต้องไม่ทุกข์กับอะไร “.
…………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
กำลังใจ ๓๒, กัณฑ์ที่ ๓๓๕
วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๐








เป็นพระ เป็นสมณะ ต้องสันโดษ สงบ สงัดจากเครื่องร้อยรัดทั้งปวง จักต้องไม่เป็นผู้มักมากอยากได้ หรือสะสมใด ๆ เพราะการสะสมทรัพย์สมบัติ มิใช่กิจของผู้สละกิเลสเครื่องเศร้าหมองควรกระทำ

แต่ตรงกันข้าม กลับจะทำให้ยิ่งเศร้าหมอง หมักดองความมีกิเลส ซึ่งจะฉุดรั้งครอบงำตัวเอง สะสมให้ต้องเผชิญอันตราย ทั้งโลกนี้และโลกหน้า

เช่นนี้ นักบวชที่ดี ต้องยากจน แต่ไม่ถึงกับทำชีวิตให้อัตคัดขัดสน

พระโอวาท
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร








เป็นคนเก่งไม่พอ
ต้องเป็นคนดีด้วย
จำไว้เด้อ

หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต






#ไม่เป็นอะไรกับอะไร

#หลวงพ่อคำเขียน_สุวณฺโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จังหวัดชัยภูมิ ป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองครั้งแรกเมื่ออายุ ๗๐ ปี ก้อนเนื้อไม่เพียงบีบหลอดลมและทำให้คอบวม หากยังลามแพร่กระจายไปถึงขั้วปอด ท่านต้องเข้ารับการรักษาตัวในห้องไอซียู และเมื่ออาการทุเลาแล้ว ก็ต้องรับการบำบัดด้วยเคมีและการฉายแสง ตลอดเวลาหลายเดือนที่รักษาตัวนั้นท่านได้รับทุกขเวทนามาก แต่ท่านแทบไม่แสดงอาการเจ็บปวดเลย แม้บางครั้งหายใจไม่สะดวก ท่านก็ไม่มีอาการกระสับกระส่าย

ท่านเล่าให้ลูกศิษย์ฟังในเวลาต่อมาว่า “#การปวดนี่มันก็ไม่ได้ลงโทษเรา_ไม่เท่าไหร่หรอกแต่(ถ้า)#เราเป็นผู้ปวด_นี่มันลงโทษเราก็เห็นมันปวด_ไปลงโทษอะไรมัน (ทำไม)”

ท่านยังเล่าอีกว่าตอนนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น “#มันแสนสบายหนอ_เพราะมีคนทำให้ทุกอย่าง” ท่านกล่าวเสริมอีกว่า “#ตอนนั้นไม่ต้องทำอะไรหรอก #เห็นไตรลักษณ์อย่างเดียวพอแล้ว_มันโชว์ให้เราเอง”

แปดปีต่อมามะเร็งต่อมน้ำเหลืองกลับมาใหม่
ทีแรกก็อุดหลอดอาหาร ต่อมาก็อุดหลอดลม ท่านจึงต้องรับอาหารทางสายยางและหายใจทางท่อ ไม่สามารถพูดได้ ต้องสื่อสารกับผู้อื่นด้วยการเขียนหรือใช้มือ

ความเจ็บป่วยครั้งนี้ก่อทุกขเวทนาให้แก่ท่านมาก อีกทั้งยังทำให้ท่านอ่อนเพลียอย่างยิ่ง ท่านตระหนักดีว่าคราวนี้เห็นจะไม่รอด แต่ท่านก็ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนแต่อย่างใด เพราะ “#เวลานี้มีแต่ปล่อยวาง_ไม่เป็นอะไรกับอะไร”

กายป่วย แต่ใจไม่ป่วยนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้
เมื่อกายป่วย ก็ต้องรักษาหรือบรรเทาด้วยยา หลวงพ่อไม่อยู่ในวิสัยที่จะช่วยตัวเองได้ในเรื่องนี้ จึงต้องพึ่งหมอ พยาบาล และลูกศิษย์ ส่วนจิตใจนั้น ท่านดูแลด้วยตนเองอย่างดีจนไม่รู้สึกเจ็บป่วยไปกับกาย

ท่านอธิบายว่า “ธาตุขันธ์ยังเป็นภาระต่อผู้อื่น ส่วนจิตใจ ไม่ต้องมีใครช่วย มีสติ มีจิตดูจิตเอง ไม่มีอะไรที่จะต้องไปเป็น เลยไม่ต้องเป็นอะไร”

หลังจากอาพาธได้ ๗ เดือน วาระสุดท้ายของท่านก็มาถึง อาการบวมของต่อมน้ำเหลืองได้ลุกลามขยายตัว ดันหลอดลมตอนล่างจนเกือบปิด ทำให้ท่านหายใจลำบากมาก ไม่ว่า
จะเยียวยาเพียงใด ก้อนเนื้อก็ไม่ยุบ ทำให้
ท่านหายใจติดขัด แต่ท่านไม่มีอาการทุกข์ร้อน มีช่วงหนึ่งท่านขอเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายอุจจาระ จากนั้นก็ล้างมือล้างหน้า แล้วขึ้นมาบนเตียงด้วยตนเอง ทั้ง ๆ ที่อาการน่าวิตกมาก

ไม่นานหลังจากนั้น การหายใจของท่านก็ติดขัดมากขึ้น ลูกศิษย์พยายามแก้ไขสถานการณ์แต่ไม่มีทีท่าว่าจะได้ผล ระหว่างนั้นหลวงพ่อซึ่งมีสติตลอด ได้ขอกระดาษและดินสอ เขียนข้อความว่า “#พวกเรา_ขอให้หลวงพ่อตาย”

เมื่อยื่นแผ่นกระดาษให้เสร็จท่านก็ประนมมือไหว้ เพื่อขอบคุณลูกศิษย์ที่ดูแลท่าน และเป็นการอำลาไปพร้อม ๆ กัน จากนั้นท่านก็นอนนิ่ง สักพักก็หลับตา ครู่ใหญ่ลมหายใจของหลวงพ่อก็ขาดหายไป แล้วสัญญาณชีพทั้งหมดของหลวงพ่อก็หมดสิ้น

หลวงพ่อคำเขียนจากไปอย่างสงบ ไม่แสดงความทุกข์ใด ๆ ให้เห็นในวาระสุดท้ายของท่าน ทั้ง ๆ ที่กายนั้นถูกทุกขเวทนา บีบคั้นอย่างแรง ท่านทำเช่นนี้ได้ไม่ใช่เพราะท่าน
เพิ่งเตรียมตัวเตรียมใจ เมื่อรู้ว่าความตายจะมาถึง ที่จริงท่านไม่ได้เตรียมใจใด ๆ เลยก็ว่าได้ มีแต่เตรียมตัวด้วยการชำระกายให้สะอาดสำหรับวาระสุดท้ายเท่านั้น

ทั้งนี้เพราะท่านได้ฝึกฝนบ่มเพาะจิตใจด้วยวิปัสสนากรรมฐานมานานแล้ว จนเห็นความจริงของรูปและนามหรือกายกับใจอย่างแจ่มแจ้งว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตนจึงรู้ว่าไม่มีอะไรที่ยึดติดถือมั่นได้เลย เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น ก็สักว่าเห็น สักว่ารู้เฉย ๆ ไม่สำคัญมั่นหมายในสิ่งนั้นว่าเป็น “#ตัวกู_ของกู”

กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ปรุงแต่ง “#ตัวกู” ขึ้นมาเป็นนั่นเป็นนี่เมื่อมีอะไรมากระทบ

เมื่อมีความปวดเกิดขึ้นกับท่าน ก็เพียงแค่เห็น แต่ไม่เข้าไปเป็นผู้ปวด จิตจึงเป็นปกติ อิสระ และสงบเย็น ด้วยเหตุนี้ตลอดเวลาที่ป่วย ท่านจึงเขียนเล่าอย่างมั่นใจว่า “#เวลานี้อยู่กับความไม่เป็นอะไรกับอะไร”

".. ตายอย่างสงบนั้นเป็นไปได้ แต่ไม่ใช่เพราะโชค ความบังเอิญหรือเทคโนโลยี หากเกิดจากการฝึกฝนตน มิใช่ด้วยทานและศีลหรือการทำความดีเท่านั้น ที่สำคัญอันเป็นหลักประกันอย่างแท้จริงก็คือการภาวนาหรืออบรมจิตจนเห็นความจริงของกายและใจอย่างแจ่มแจ้ง กระทั่งปล่อยวางทุกสิ่ง แม้กระทั่งความยึดถือในตัวตน... "

#ถึงตอนนั้นเมื่อความตายมาถึง_ก็ไม่มีผู้ตายอีกต่อไป​ #มีแต่สังขารที่เสื่อมสลายและคืนสู่ธรรมชาติ

#จากหนังสือลำธารริมลานธรรม
#เขียนโดยพระไพศาล_วิสาโล







" สัตว์โลกจะเกิดเป็นอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับกรรมของตนเองที่กระทำมาเป็นหลัก พระเจ้าตนใดก็เนรมิตให้ไม่ได้
ผู้ทำกรรมดีก็เกิดศรีมีสุข ผู้ทำกรรมเลวก็ตกเหวสู่อบาย
อบายภูมิคือสถานที่ที่หาความสุขไม่เจอแม้เพียงเศษเสี้ยวอึดใจ
ผู้ไม่เชื่อบาปเชื่อบุญตกอบายตั้งแต่ยังไม่ทันตาย."

โอวาทธรรมหลวงปู่ชอบ ฐานสโม








"โลกเสียเวลาไปมากกับการศึกษาเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการดับทุกข์โดยตรง ไม่ว่าประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โบราณคดี

ทางตรงคือ เข้าหาหลักศาสนา
อย่างที่เราสวดทำวัตรเช้า
มะยันตัง ธัมมัง สุตวา, เอวัง ชานามะ

พวกเราเมื่อได้ฟังธรรมนั้นแล้ว จึงได้รู้อย่างนี้ว่า

ชาติปิทุกขา
แม้ความเกิดก็เป็นทุกข์

ให้ดูเด็กสิ พอแม่คลอดออกมาก็ร้องไห้กันทุกคน ไม่ว่าเจ๊ก ฝรั่ง เพราะมันมีแต่ทุกข์

อริยสัจ ๔ เป็นของจริง เข้าให้ถูกล๊อค ไปหาวัดโน่น วัดนี่ ก็ไม่เจอ ให้หากะตัว

ท่านสอนกรรมฐาน ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เราทุกคนก็มีกัน อย่าไปมัวหลงไหล นี่แหละกรรมฐาน

นอนอยู่บนเตียงในบ้าน ก็มีกรรมฐานได้ ถ้าไม่มีฌานก็ไม่มีปัญญา ฌานคือการเพ่งดู

กาลเวลาผ่านไปๆ กิจภายนอกมี กิจภายในก็มี อยากเกินโลก ต้องนั่งสมาธิ

บ่นั่ง ก็บ่เห็นของจริง เกิดมาก็ร้องไห้อยู่ร่ำไป"

หลวงปู่ทองผุด ญาณวโร
วัดภูเขาดิน ผาพอด อ.เชียงคาน จ.เลย







อย่า ‘ตัดสิน’ เขา
ด้วย ‘อคติ’ ของเรา

พระวิมลเมธาจารย์ (สุพจน์ ฐิตพฺพโต) วัดห้วงพัฒนา
โอวาทธรรม พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
#ธรรมถึงใจ_ใจถึงธรรม







จงอย่าทำตัวเป็นตัวบุ้งตัวหนอนคอยกัดแทะคัมภีร์ใบลาน

"...ท่าน (พระ) ทั้งหลายจงอย่าทำตัวเป็นตัวบุ้งตัวหนอน คอยกัดแทะกระดาษแห่งคัมภีร์ใบลานเปล่า ๆ โดยไม่สนใจพิจารณาสัจธรรมอันประเสริฐที่มีอยู่กับตัว แต่มัวไปยึดธรรมที่ศึกษามาถ่ายเดียว ซึ่งเป็นสมบัติของพระะพุทธเจ้า มาเป็นสมบัติของตน ด้วยความเข้าใจผิด ว่าตนเรียนรู้และฉลาดพอตัวแล้ว ทั้งที่กิเลสยังกองเต็มหัวใจยิ่งกว่าภูเขาไฟ มิได้ลดน้อยลงบ้างเลย จงพากันมีสติคอยระวังตัว อย่าให้เป็นคนประเภทใบลานเปล่า ๆ เรียนเปล่าและตายทิ้งเปล่า ไม่มีธรรมอันเป็นสมบัติของตัวอย่างแท้จริงติดตัวบ้างเลย...."

คำสอนพระ โดยหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต







" การก้าวเดินของ
วัฏจักรวัฏจิตนี้ ไม่มี
ที่สิ้นสุดจุดหมายปลายทาง

นอกจากบุญกุศลเท่านั้น
จะเป็นเบรกห้ามล้อ
จะตัดเครื่องวัฏวนทั้งหลายที่
ยืดยาวนานให้หดสั้นเข้ามาๆ
ด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลนี้ "

โอวาทธรรม
หลวงตาพระมหาบัว
ญาณสัมปันโน








#เร่งความเพียรเข้าไป

เส้นเอ็น กระตุก ปีติไล่กิเลสออกจากดวงจิต อำนาจวิปัสสนาฟอกหัวใจให้สะอาด

#อุบายกิเลสมีนานาประการ

มรรคทำให้มาก ให้รู้เท่าทันกับกิเลส ไตรลักษณ์ตัดกระแสกิเลสทั้งหลายให้ขาดจากดวงจิต หัวใจเปลี่ยนแปลงอวิชชาให้เป็นวิชชา เรื่องนี้ควรสนใจ เพราะมันเดินถูกมรรค

#ชอบสวยงาม

พิจารณาให้เป็น อสุภะ- ไม่งาม ของอวัยวะทุกส่วน ดำเนินเข้าไปดู จักเห็นความเป็นจริงของอริยสัจ

รู้แจ้งอวัยวะของร่างกายยิ่งกว่าเก่า ละเอียดกว่าเก่า ด้วยไตรลักษณ์ ทุกฺขํ อนิจฺจํ อนตฺตา ขยายธรรมะรู้ทั่วไป ระงับนิวรณ์ได้ รู้เองเห็นเอง เป็นปัจจัตตัง ปฏิภาคและวิปัสสนาผสมกัน แต่วิปัสสนามากกว่าสมถะ

#พิจารณาการตาย

เกิดสะกิดใจว่าจะต้องตายง่าย อายุไม่ยืนนาน บอกมาเรื่อย ๆ เริ่มความเพียรมากก่อนตาย เพื่อให้ชำนิชำนาญ เพื่อเข้าจิตสู้การตาย ข้อนี้สำคัญมากกว่าอย่างอื่น

#ทำวิปัสสนามากกว่าทำปฏิภาคนิมิต

ให้จิตรู้เองเห็นเอง ไม่มีความอาลัยในชีวิต พิจารณาความตายอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้ชำนาญเข้าสู่อารมณ์แห่งความตาย

หลวงปู่หลุย จันทสาโร


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO