นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 29 มี.ค. 2024 5:02 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: มองดูรอบๆ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 22 ส.ค. 2021 6:45 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4510
" ทำบุญก็ทำเท่าที่เราจะ
ทำได้ บุญมากบุญน้อย
ตามจำนวนเงินไม่มีหรอก
มีแต่ความเย็นใจ กายสงบ
ที่ได้ทำบุญทำกุศล ก็เ่ท่านั้น

อย่านำบุญ ไปเทียบกับเงิน
ที่เราทำเลย มันไม่ใช่บุญ "

" บางคนไม่อยากทำบุญ
เพราะมักอ้างว่าเศรษกิจไม่ดี
อันที่จริงมันคนละเรื่อง เรื่อง
การทำบุญมันเป็นเรื่องของ
การเสียสละ ไม่เกี่ยวกับ
เศรษกิจแต่ประการใด

เรื่องของศาสนาไม่ใช่เรื่อง
ของเศรษกิจ เศรษกิจจะดี
หรือไม่ดีก็ไม่มีผลใดสำหรับ
คนบุญ มันจะส่งผล และ
เห็นผลเองสำหรับผู้ที่ทำบุญ
อย่างสม่ำเสมอ ช่วยหนุน
ช่วยเสริม และช่วยพยุง
ให้เรา ไม่ตกไปอบายภูมิ "

โอวาทธรรม
หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโล








"..ผู้ใดตั้งใจและมีความปรารถนา
ความเพียรอย่างแรงกล้าเด็ดเดี่ยว
ให้เดินทางไปลำพังแต่เพียงผู้เดียว
เดินทางเที่ยววิเวก อย่าได้ใกล้ชิดคลุกคลีกับผู้ใด
หากแต่ให้มีความยินดีกับความสงบ
อย่าได้มีความอยากมักมาก
หากแต่ให้มีความยินดีกับของๆ เรา
มักน้อย ถือสันโดษ และยินดีในความสันโดษ

ให้มีความยินดีพอใจในปัจจัยสี่
เฉพาะแต่ของที่ตนเองมีอยู่แล้ว
และได้ครอบครองมาโดยชอบธรรม
นี่คือสิ่งที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา
และเป็น 'อริยประเพณี อริยปฏิปทา' ที่มีมาแต่กาลก่อน
และคงดำรงสืบต่อมาไม่ได้ขาดในหมู่วงศ์พระอริยะ
ตั้งแต่อดีต..ปัจจุบัน..และสืบต่อไปในอนาคตข้างหน้า.."

หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร









" กินหลายไม่หายอยาก นอนมากไม่รู้ตื่น รักผู้อื่นยิ่งกว่ารักตัว ของควรกลัวกลับกล้า ของสั้นถือว่าของยาว​ "

..กินหลายไม่หายอยาก​..
ก็คือความนึกคิด

.. นอนมากไม่รู้ตื่น..
ก็คือผู้ท่องเที่ยวในวัฏสงสาร​นอนใจอยู่

.. รักคนอื่นยิ่งกว่ารักตัว..
ก็คือรักกิเลสรักลูกรักหลาน​ รักกิเลสรักความหลงของตนไว้

.. ของควรกลัวกลับกล้า..
คือโลภ​โกรธ​หลง​เป็นของควรกลัว​ การท่องเที่ยวในวัฏสงสาร​เป็นของควรกลัว​ แต่กลับกล้าใส่

.. ของสั้นถือว่าของยาว.. ​
คืออายุนั้นมันสั้น​ แต่เราถือว่าเป็นของยาวไปซะ


สิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ชาวพุทธ​จะสำเหนียก ชาวพุทธ​มีอยู่ที่ไหน.. มีอยู่ที่ดวงใจ ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ดวงใจ ผู้ใดน้อมพระพุทธ​พระธรรม​พระสงฆ์​อยู่ที่ดวงใจ ก็เรียกว่าชาวพุทธ​อยู่​ที่นั้น."

#หลวงปู่หล้า #เขมปัตโต










"เมื่อรู้แล้ว...
รู้...อยู่เฉย ๆ
รู้...เท่าทัน
รู้...แจ้ง
ไม่รับส่วนกับผู้ใด ไม่รับเป็นทาสใคร ไม่รับส่วน
กับใคร

รู้...แล้วไม่เอา
รู้...แล้ววาง
รู้...แล้วละ
สุข ก็มีอยู่เหมือนกัน ทุกข์ ก็มีอยู่เหมือนกัน
อะไรๆ ก็มีอยู่เหมือนกัน

แต่...ไม่เอา."

(หลวงพ่อชา สุภัทโท.)










"...ร่างกายเป็นรังของโรค ต้องป่วยเจ็บอยู่เสมอเป็นธรรมดา เป็นเรื่องของการเกิดแก่เจ็บตาย อย่าเศร้าหมองตามการเจ็บป่วยนั้น ทำใจให้ปรอดโปร่ง

และให้นึกเสมอว่า การเจ็บการตายไม่แน่นอน จะมาถึงเมื่อใดก็ได้อย่าประมาท อย่ารั้งรอต่อการทำความดี ในขณะที่ยังมีโอกาสทำความดี จะได้ไม่ต้องเสียใจ แม้ความตายจะมาถึงในวินาทีใดก็ตาม..."

(แล้วท่านเจ้าคุณนรฯ ก็มักจะกล่าวกลอนนี้เสมอ)

ถึงกายแพ้ แต่ใจ เราไม่แพ้
ใจไม่แก่ เจ็บตาย ตามกายหนา
กายนี้มัน จะเน่า เราก็ลา
ไปสวรรค์ ชั้นฟ้า นิพพานเอย.

โอวาทธรรมคำสอน..
พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต (ธมฺมวิตกฺโก)

ความบางตอนจากหนังสือ "ตามรอย ธมฺมวิตกฺโก พระอรหันต์กลางกรุง"
สาธุ..ขอนอบน้อม กราบสักการะ ธรรมะพระอริยะสงฆ์.ด้วย
กาย วาจา ใจขออนุโมทนาบุญท่านผู้มีส่วนเผยแผ่โอวาทธรรมและภาพพ่อแม่ครูบาอาจารย์ขอจงเจริญรุ่งเรืองในธรรม สาธุ นิพพานะปัจจะโยโหตุ








#เสียงจากหัวหิน Sound from Hua Hin
หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต (จันทรสมบูรณ์)
วันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๑

ข้อปฏิบัติจิตภาวนา

(๑) ดูลมหายใจเข้าออก ผ่านลำคอ ภายในอก คอ ท้อง
- ไม่คิดอะไรหมด
- เห็นๆๆ รู้ๆๆ ลมตลอด
- เห็นสักแต่เห็น
- รู้สักแต่รู้ตลอด ปฏิบัติเช่นนี้ตลอดไป
เป็นเวลาหลายวัน หลายเดือน หลายปี ไม่ยอมเลิก เรียกว่าทำความเพียร
- พ้นทุกข์เพราะความเพียร ไม่ยอมเลิกสติภาวนา

(๒) เมื่อปฏิบัติเป็นหนทางเดียวตลอดเช่นนี้ ยังไม่ปรากฏผล สติ ภาวนา
ทดลองฝึกสติปฏิบัติไปตามขั้น
- เห็นสักแต่เห็น เป็นวิญญาณสติ รู้ทันรู้ รู้ไม่ติดรู้
- รู้ไม่ติดทั้งหมด
- ท่องคำว่า วิญญาณสติ ภายในใจติดต่อเรื่อยไป
- ใช่บริกรรมหลักแต่อย่างเดียวเหมือนภาวนาพุทโธๆ เป็นเวลานานจนถึงเวลาบุญแต่ปางก่อน
แล้วบารมี ๑o ให้ผลเกิดการเปลี่ยนคำบริกรรมขึ้นเอง เป็นจิตสติโลกุตตรพ้นโลก
เป็นจิตพุธโธ จิตธัมโม จิตสังโฆ จิตนิพพาน
- นิพานังปรมังสุขขัง หรือจิตสติ จิตสมบูรณ์ จิตธาตุ จิตวิสังขาร (ไม่มีสังขารเกิดดับเป็นชื่อพระนิพพาน)
จิตวิสังขาร หยั่งลงสู่วิสังขารธรรม พระนิพพาน อวิชา สังขาร โลกสังขารดับ
มีแต่วิสังขารนิพพาน อนุตรธรรม อย่างเดียวจริง

(๓) หรือภาวนาสติเรื่อยไปจนเกิดอนุปัสนา วิปัสสนาญาณที่ ๑ พิจราณาเห็นความนึกเป็นตนของตน ในขันธ์ห้าเป็นตามอภิธรรมที่ท่านสวดอวิชาปัจยาสังขาร คือ อวิชาธาตุมืดปรุงแต่ง โกหกขึ้นมาทั้งหมดไม่ว่าวิญญาณ นามรูปขันธ์ ๕ โลภหลง ภพหลง สัตว์โลกหลงทั้งปวง เมื่อเห็นตามเช่นนั้นอุปทานขันธ์ ๕ ความนึกคิดว่าตนของตนในกายใจชีวิตก็สูญหายไปเกิดวิปัสสนาญาณที่ ๒ ที่เป็นสัจธรรม อมตธรรม หรือธรรมอมต จริงประการเท่านั้น จริงสิงจริงเท่านั้นพอ

- สติ นิพพาน ปรมังสุขัง เอโกธัมโมในปัจจุบัน เป็นเสขะนิพานธาตุ สิ้นกังวล พ้นยึดมั่นธรรมทั้งปวง
นโสเหตวังวิวาโทโลกุตตร สันตัง สิ้นโลกสมมุติภาษาถึงความสงบพ้นโลก เป็นเอโกธัมโม.

คำสอนของหลวงปู่บุญฤทธิ ปัณฑิโต








หลวงปู่ชอบ ท่านพูดถึงการกระทำของพระผู้มีศีลเป็นเครื่องคุ้มครอง แม้ใครประมาททำความมัวหมองให้แก่จิตใจตนเองมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ไม่มีใครๆ เห็นก็ตาม ไม่ได้ยินก็ตาม...

“...แต่สิ่งอันลึกลับเกินกว่าจิตของมนุษย์ปุถุชนธรรมดาๆ ก็ย่อมรู้เห็นได้ และยังมีอีกมาก เพราะว่าผู้มีจิตละเอียดจริงๆ ยังมีอยู่ จงอย่าปฏิเสธความจริงในข้อนี้”

ผู้ประพฤติปฏิบัติพระกรรมฐาน จงทำเพื่อความไม่ประมาท จงสำรวมระวังในทุกอิริยาบถ ทำความงดงามตลอดเวลา

หลวงปู่บุญฤทธิ์







มองดูรอบๆ ฟังไปพร้อม นั่นก็นก นี้กา นั่นก็ปลา ในโถน้ำบนโต๊ะ ก็ปลาทอง

ถ้าเราพูดกะมันได้ แลมันก็พูดกะเราได้ แล้วมันก็จำความเดิมได้
ปลาทองในโถก็คงโวหารว่า

"ไม่น่าเป็นยังงี้เลย เมื่อไม่นานมาเอง เราเป็นคนมั่งมีหรูหรา" เพราะทำงานหามรุ่งหามค่ำ นอกนั้นก็งานเลี้ยงถึงเที่ยงคืน พร้อมทั้งอบายมุข บุญบาปไม่รู้จัก

สนใจจะเอาท่าเดียว เรื่องลวงเชี่ยวชาญ ลูกหลานไม่รู้จักสั่งสอน หอบสมบัติเข้าบ้านท่าเดียว
มีสารพัด อยากได้อะไรหามา....

พุทโธ ธัมโม สังโฆ ไม่รู้จักเลย

ยังไงงีบนิดเดียว มาเป็นยังงี้ เป็นปลาทอง ท่องเที่ยวอยู่ในน้ำ เสรีไม่เท่าไหร่ คนจับเอาไปเข้าร้าน ลูกหลานยังไงไม่รู้ พลัดผลูไปเจอ เลยซื้อเอาใส่ไว้ในโถนี้แหละ .....

มองดูรอบตัว ก็สมบัติเราทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ของเรา จะใช้จะชมอะไรก็ไม่ได้ มันน่าเจ็บใจ ....

ไปไหนต่อไป...ก็ไม่ทราบได้.....
น่าทุเรศจริง
จบ.

ใบแทรกหนังสือ
พระบุญฤทธิ์ (ปณฑิโต)
Adelaide S.A.
23 ธค. 2542
ที่เมืองอาติเลต ออสเตรเลีย) ปลายปี 2542







“ปัญหา” ไม่ได้ทำให้ทุกข์
แต่ทุกข์เพราะไปมีปัญหากับปัญหา

-พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ






.


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO